ตร.คลองหลวง จับหนุ่มไรเดอร์ฆ่าชิงทรัพย์สาวประเภทสอง รับสารภาพวางแผนหิ้วสาวสอง เล็งเหยื่อมีทรัพย์สิน สุดโหดลวงขึ้นรถบังคับโอนเงิน ขัดขืนใช้ค้อนทุบหัวจนตาย ก่อนมัดศพด้วยโซ่ถ่วงด้วยดัมเบลโยนร่างทิ้งคลองส่งน้ำ ก่อนขี่ จยย.เที่ยวบางแสน
วันนี้ (24 พ.ย.) จากกรณีที่มีสาวประเภทสองถูกฆ่าเสียชีวิต ทิ้งศพลอยอืดอยู่ภายในคลองส่งน้ำที่ 2 ใกล้เคียงตลาดทำเลทอง ม.1 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งจากการตรวจสอบลักษณะนอนคว่ำหน้าลอยอืดสภาพศพคว่ำหน้า สวมเสื้อเกาะอกสีน้ำตาล ถูกร่นอยู่บริเวณหน้าท้อง สวมกางเกงยีนส์ขายาว ไม่สวมรองเท้า มีบาดแผลการถูกทำร้ายที่ศีรษะ ซึ่งลักษณะถูกทำร้ายด้วยของแข็งไม่มีคม ข้อมือขวามีร่องรอยขีดข่วนฟกช้ำ ที่ข้อมือซ้ายสวมกำไรสีทอง-ดำ ใส่แหวนเพชรที่นิ้วชี้ข้างซ้าย ที่สะดือเจาะใส่จิวเพชร สักที่แผ่นหลังซ้ายเป็นรูปดอกไม้ ภายในกระเป๋ากางเกง พบพวงกุญแจรถมาสด้า หุ้มด้วยกันรอยสีเขียวแขวนอยู่คู่กับพวงกุญแจหลุยส์วิตตอง ภายในตัวไม่พบเอกสารติดตัว โดยพลเมืองดีไปพบศพเวลา 13.45 น.วันที่ 23 พฤศจิกายน 2565
ความคืบหน้าแหล่งข่าวเชื่อถือได้ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจังหวัดปทุมธานี ได้ทำการสืบสวนทางเทคนิคของตำรวจ จนสามารถทราบว่าคนร้ายเป็นชายวัย 36 ปี อาชีพไรเดอร์ และทราบว่า หลังก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ได้ขับรถยนต์ของตนเองไปจอดที่บ้านพักในเขตสายไหม กทม.ก่อนจะขับรถ จยย.ไปที่เกสต์เฮาส์ที่เขต ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ก่อนที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง จะตามไปเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนสามารถจับกุมตัวคนร้ายไว้ได้พร้อมรถ จยย.
ต่อมาเมื่อเวลา 14.45 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง ได้พาตัว นายยุทธพล หรือ อาร์ม ปิยะวิทยาการ อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 288/74 แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นคนฆ่า นายปิยะดา สรกุล อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 ซอยกุฎีจีน แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร มาถึงโรงพักเพื่อทำการสอบสวน โดยมี พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง.ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชุมพล ชาญชนะโยธิน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.อ.ธงรบ แจ้งจิตร ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง, พ.ต.ท.สุชัย แสงส่อง รอง.ผกก.สอบสวน.สภ.คลองหลวง, พ.ต.ต.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง, พ.ต.ต.วีระ สุขชนะ สว.สส.สภ.คลองหลวง กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง ชุดสืบสวนกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี ที่นั่งรอสอบสวนอยู่ห้องประชุมขั้น 3 ของโรงพัก เมื่อตำรวจพาผู้ต้องหามาถึงแล้ว ขณะลงจากรถได้มีกลุ่มญาติและเพื่อนของผู้ตายซึ่งอยู่ในอารมณ์โกรธแค้นได้เข้ารุมประชาทัณฑ์จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบต้องเข้ากันตัวออกไปอย่างโกลาหล
จากการสอบสวน นายยุทธพล หรือ อาร์ม ปิยะวิทยาการ อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 288/74 แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร ให้การรับสารภาพว่า เมื่อ 2 วันที่แล้ว ตนเองตั้งใจจะไปชิงทรัพย์กับสาวประเภทสอง ที่ขายบริการอยู่แถวๆ สวนลุมพินี โดยตนเองได้ไปใช้บริการกับสาวประเภทสองคนนึง ในราคา 1,000 บาท แต่เนื่องจากไม่สบโอกาส จึงไม่ได้ทำการชิงทรัพย์ ระหว่างที่วนกลับมาส่งสาวประเภทสาว ที่จุดเดิม ได้เห็นผู้ตายขับรถมาหาเพื่อนบริเวณดังกล่าว จึงเปลี่ยนเป้าหมาย เพราะคิดว่าผู้ตายน่าจะมีเงิน เพราะมีรถ
จนกระทั่งวันเกิดเหตุเมื่อเวลา 21.00 น. ตนเองได้ขับรถเก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ภศ 4900 กรุงเทพมหานคร ของมารดา ออกจากบ้านพักย่านสายไหม มุ่งหน้าไปที่สวนลุมฯ เมื่อไปถึงเจอกลุ่มผู้ตายกับเพื่อน จึงได้เรียกคนตาย มาคุยแล้วถามว่ารับงานนอกไหม จะให้เงิน 5,000 บาท แต่ทางผู้ตายไม่เอา ตนเองจึงบอกว่าไปซื้อของก่อน จากนั้นวนกลับมาอีกรอบ พบผู้ตายยืนอยู่คนเดียว จึงเรียกให้ขึ้นเบาะหลัง ตกลงกันที่ 1,000 บาท เลยโอนเงินไปให้ แล้วไปทำกิจกรรมจนสำเร็จความใคร่ ก่อนวนมาส่งผู้ตาย แล้วขับรถออกไป ก่อนจะวนกลับมาอีกรอบ โดยตรงมาเรียกผู้ตายขึ้นรถ เมื่อขึ้นมาแล้ว ตนเองจึงได้จับผู้ตายกดหัว แล้วใช้มีดจี้บังคับให้เอาเงิน แต่ผู้ตายไม่ยอม จึงใช้ค้อนทุบหัวไป 1 ที ก่อนผู้ตายบอกมีเงินแค่ 1,400 จึงได้ให้โอนเงินมา 1,400 บาทแล้วใช้ค้อนทุบอีกที ก่อนที่ผู้ตายสลบไป จึงได้ขับรถวนหาที่ทิ้ง เนื่องจากเคยวิ่งงานส่งอาหารอยู่แถวนี้ จึงจะเอาศพมาทิ้งแถวๆ คลองห้า แต่คนเยอะ จึงได้วนขับกลับมาตรงสะพานข้ามคลอง ปากซอยบงกช 40 (ห่างจากจุดพบศพ 500 เมตร) ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี แล้วพยุงตัวผู้เสียชีวิต ออกมาจากรถแล้วใช้โซ่พันคอติดกับดัมเบล แล้วจับโยนลงน้ำ พร้อมกับโทรศัพท์มือถือ ไอโฟน 13 โปรแม็กซ์ อีก 1 เครื่อง โดยเบื้องต้นได้เงินไปแค่ 400 บาท รวมกับของตนเองที่โอนไปให้ค่าใช้บริการ อีก 1,000 บาท รวม 1,400 บาท
ทางด้าน พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง.ผบช.ภ.1 กล่าวเปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุสองถึงสามวันได้เดินทางไปที่สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร เพื่อที่จะชิงทรัพย์กับสาวประเภทสองที่ทำมาหากินอยู่บริเวณนั้น แต่ดูแล้วไม่ปลอดคน จึงไม่เลือกลงมือก่อเหตุ กระทั่งวันเกิดเหตุคืนวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ได้เดินทางไปที่สวนลุมพินีอีกครั้ง โดยใช้บริการกับผู้ตายไปแล้ว 1 ครั้ง ก่อนจะวนรถกลับไปใช้บริการอีกครั้งหนึ่งโดยนำผู้ตายขึ้นรถยนต์เก๋งฮอนด้า รุ่นซีตี้ สีบรอนซ์ ของผู้ก่อเหตุ ก่อนจะจับผู้ตายกดหัวใช้อาวุธมีดจี้และค้นตัวปรากฏว่าไม่มีทรัพย์สินมีเพียงโทศัพท์ 1 เครื่อง จึงให้ผู้ตายโอนเงินให้แต่ผู้ตายไม่โอนจึงใช้ค้อนทุบที่ท้ายทอย 1 ครั้ง กระทั่งผู้ตายยอมโอนเงินให้ 1,400 บาท ก่อนที่ผู้ตายจะเงยหน้าขึ้นมา จึงใช้ค้อนตีอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นด้านที่ใช้งัดตะปูตีเข้าที่ขมับอีกครั้งหนึ่ง ทำให้จุดดังกล่าวมีบาดแผลเป็น 2 รู ซึ่งตอนแรกเจ้าหน้าที่คิดว่าเป็นบาดแผลของคมกระสุนปืน แต่เมื่อพิสูจน์แล้วปรากฏว่าไม่ใช่
จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ขับรถพาร่างผู้ตายมาที่ถนนเลียบคลองสองบริเวณปากซอยบงกช 40 ซึ่งห่างจากจุดที่พบศพไปด้านทิศเหนือประมาณ 500 เมตร ก่อนจะใช้โซ่กับดัมเบลรัดที่คอคนตาย แล้วโยนศพทิ้งคลองส่งน้ำ ก่อนที่ผู้ต้องหาจะขับรถยนต์เก๋งกลับบ้านไปโดยใช้ผ้าเช็ดคราบเลือด แล้วใช้รถ จยย.ขับออกจากบ้านพักที่เขตสายไหม กทม.แล้วขับ จยย.ไปต่อที่ จ.ชลบุรี กระทั่งถูกจับกุมตัว
ทางด้าน นายยุทธพล ปิยะวิทยาการ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุผู้ก่อเหตุได้ขับรถยนต์ไปรับผู้ตายที่สวนลุมพินี กทม.ซึ่งขณะนั้นผู้ตายยืนอยู่ข้างรถยนต์นั่งส่วนบุคคลมาสด้ารุ่นสองของผู้ตาย ก่อนจะรับผู้ตายขึ้นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลฮอนด้ารุ่นซิตี้สีบรอนซ์ของผู้ก่อเหตุมา แล้วใช้ค้อนทุบศีรษะผู้ตาย 2 ครั้ง เพื่อชิงทรัพย์เงินสดของผู้ตาย ก่อนจะขับรถยนต์นำศพมาทิ้งสะพานบงกช 40 ถนนเลียบคลองาสอง ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยคนร้ายพยายามจะนำผู้ตายโยนทิ้งน้ำแต่ผู้ตายไม่ตายทันที คนร้ายจึงใช้ดัมเบลกับโซ่รัดถ่วงน้ำหนักไว้กับศพ โดยรัดไว้ที่คอผู้ตาย ก่อนนำศพโยนทิ้งคลองพร้อมกับโยนโทรศัพท์ของผู้ตายยี่ห้อไอโฟนรุ่น 13 โปรแม็กซ์ ทิ้งในคลองส่งน้ำน้ำ ก่อนที่คนร้ายจะนำรถยนต์ไปจอดไว้ที่บ้านพักในเขตสายไหม กทม. แล้วขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปที่ จ.ชลบุรี กระทั่งถูกจับกุมตัว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกำลังนำตัวผู้ต้องหาเดินทางกลับ จ.ปทุมธานี เพื่อนำไปค้นบ้านพักและค้นของกลางในคดีเพื่อประกอบคดีหากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ต่อมาเวลา 17.00 น.วันเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ๊ง ร้องขอชุดค้นหาทางน้ำเพื่อค้นของกลาง เช่น โทรศัพท์ โซ่ และดัมเบล ที่ผู้ต้องหานำร่างผู้เสียชีวิตโยนลงไปพร้อมๆ กัน จนกระทั่งใช้เวลาค้นหาประมาณ 15 นาที จึงพบของกลางทั้งหมด เพื่อนำไปประกอบคดี