สะท้านวงการสีเทา สะเทือนแวดวงสีกากีกันอีก เมื่อเกิดเหตุการณ์ปล้นบ่อนปากน้ำ สมุทรปราการ ช่วงกลางดึก 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ระหว่างเขียนรายงานอยู่นี้ ยังไม่มีรายละเอียดไม่มากนัก ทราบเพียงก่อนเกิดเหตุ มีชายฉกรรจ์ 6-8 คน สวมหมวกกันน็อกขับ จยย.ไปจอดหน้าบ่อนพนันแห่งหนึ่งอยู่ใกล้กับตี๋น้อยสุกี้ ถนนศรีนครินทร์ พื้นที่ จ.สมุทรปราการ จากนั้นมีการแบ่งกำลังกัน โดยชาย 2 คน ถืออาวุธปืนวิ่งเข้าไปในบ่อน จี้บังคับขณะนักพนันกำลังรุมเล่นพนันกำถั่ว คนร้ายคว้าเงินหน้าเสื่อประมาณ 4 แสนบาท แล้ววิ่งหนีออกมา โดยมีการ์ดของบ่อนไล่กวด มาทันกันบริเวณลานจอดรถ จังหวะนั้นจึงเปิดฉากระดมยิงกันสนั่นหวั่นไหว ราวหนังบู๊ ผลปรากฏว่า ฝ่ายปล้นบ่อนตายไป 1 ส่วนการ์ดคุมบ่อนบาดเจ็บสาหัส 1
เหตุเกิดกลางดึก ชาวบ้านไม่รู้ นักข่าวไม่เห็น มีแต่เพียงตำรวจกับคนในแวดวงโทร.ส่งข่าวกันวุ่น บ้างก็บอกว่าไม่ใช่เรื่องปล้นบ่อน แต่เป็นการบุกเข้ามาทวงเงิน ขณะที่การข่าวของตำรวจระบุอาวุธปืนที่ใช้ปะทะกันอย่างดุเดือดนั้นมีทั้งปืนสั้น ปืนลูกซอง 5 นัดอย่างน้อย 3 กระบอกของฝ่ายปล้น และปืนเก็บเสียง แต่ไม่ว่าอะไรก็ตามมีเรื่องเกิดขึ้นจริง มีคนตายจริงเจ็บจริง และมีบ่อนพนันจริง
ช่วงสายข่าวเริ่มปูดขึ้นในโลกออนไลน์ แต่ก็ยังไม่มีรายละเอียด ฝ่ายตำรวจเองเริ่มกระซิบสะกิดให้รีบปิดบ่อนทั่วประเทศ ทุกกองบัญชาการ ไม่มีไฟเขียวอีกต่อไป เพราะความวัวไม่ทันหาย ความควายฝูงใหญ่เริ่มประดังเข้ามาจน “บิ๊กเด่น” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ทนไม่ไหว เมื่อเพื่อนพ้องน้องพี่ไม่สอดส่องดูแล ซ้ำอุตส่าห์แอ่นอกการันตี ว่า “ไม่มีบ่อน” แต่ยังมีคนแอบลองดี ไม่สนองนโยบาย เชื่อว่า วันสองวันนี้ ”บิ๊กเด่น” คงเริ่มมาตรการขันนอต ถ้าอดอยากปากแห้งกันบ้างอย่ามาว่ากันนะ
พูดถึงประเด็นประโยคทอง “กรุงเทพฯ ไม่มีบ่อน” ต้องย้อนช่วงผลัดอำนาจ เปลี่ยนหน้าที่ระหว่าง พล.ต.ท.สำราญ นวลมา อดีตผบช.น.ซึ่งขึ้นไปเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. โดยสลับให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง มือปราบบ่อนภาคตะวันออกมานั่งแทนที่ ซึ่งหลัง 2 ยามวันที่ 31 ต.ค.ทุกบ่อนพนันในกรุงเทพมหานคร พากันปิดตัวลงอย่างพร้อมหน้า จะเหลือก็เพียงบ่อนอภิมหาอมตะนิรันดร์กาลแห่งหนึ่งย่านเตาปูน และทุกวันนี้ก็ยังคงเปิดบริการนักพนันอยู่อย่างโดดเด่นอยู่เพียงบ่อนเดียว
ทำไมบ่อนเตาปูนจึงมีอภิสิทธิ์ ทำไมจึงได้รับการยกเว้นกฎเหล็กของ น.1 คนใหม่ คำตอบเดิมๆ คงอยู่ที่บ่อนพนันแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางชุมชน มีชุมชนหนาแน่นเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก ไม่สามารถเข้าถึงง่ายๆ นั่นคือ เหตุผลทางกายภาพ แต่เหตุผลอื่นก็มีอยู่ แต่จะเป็นอะไรนักข่าวสายอาชญากรรม หรือสายการเมืองต่างทราบกันดี แน่ไม่แน่ทั้งเสี่ยอ่าง ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ กับ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ คู่แฉหยุดโลก ก็ยังไม่กล้าแตะ
เหตุการณ์ “ปล้นบ่อนปากน้ำ” หากว่ากันตามตรง ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย ข้อเท็จจริงต่อไปนี้ อาจจะทำให้หลายๆ คนต้องอ้าปากหวอ เพราะหลังบ่อนกรุงเทพฯพากันปิดตัว บ่อนพนันต่างๆ ก็เริ่มหาที่เปิดใหม่ โดยมีเป้าชานเมืองๆ รอบๆ เมืองหลวง ไม่ว่าจะเป็นนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่ไปลงตัวที่เมืองปากน้ำ ด้วยเหตุผลที่นี่เป็นแดน “นักสู้” ไล่ทั้งระดับบนลงล่างล้วนนักสู้ แบ่งปันผลประโยชน์ทั่วถึง ก่อนหน้าเหตุการณ์ปล้นบ่อน มีทุนจีนโดยนาย ต.ห.ไปแอบเช่าที่โรมแห่งหนึ่ง เหมาห้องประชุมตกแต่งอย่างหรูหรา กับย่านพระประแดง แต่มาเกิดเรื่องคาราโอเกะ “จินหลิง” สาทร ยานนาวา เสียก่อน กิจการจึงได้รับผลกระทบ มีความอ่อนไหวจนต้องปิดฉากลง
กลับมาเหตุการณ์ปล้นบ่อนปากน้ำ...ว่าไปแล้ว กลิ่นขบวนการปล้นบ่อน “วงใน” รู้ลึกรู้จริงทราบระแคะระคายว่าช่วงปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา มีคำสั่งให้ปิดบ่อนย่านปากน้ำทั้งหมด โดยมีการข่าวจากสายว่า “บัง” คนดังแถวๆ คลองตัน จะส่งลูกน้องมาสั่วบ่อนแห่งหนึ่ง แต่ไม่ชัดเจนว่าเป็นจุดไหน “สั่วบ่อน” ของกลุ่มอิทธิพลนี้ ไม่แค่ยิงปืนข่มขวัญ แต่เป็นการเข้าปล้น เข้าชิงดังเช่นกรณีเสือ ดุสิต แม็ก อนุสาวรีย์ บรรดาบ่อนจึงปิดบริการชั่วคราว ก่อนได้เปิดอีกหลังเวลาผ่านไป 2-3 ชั่วโมง โดยมีคำสั่งกำชับก่อนให้เปิดว่าให้ระวัง ให้ดูแลตัวเอง
นั่นคือ ที่มาของการเตรียมพร้อม ทั้งเพิ่มนักเลง การ์ดคุมบ่อน ทั้งตระเตรียมของดีทั้งหนักและเบา เตรียมต้อนรับแก๊งปล้นบ่อนสุดท้ายหวยมาออกรางวัลตอน 2 ยามครึ่ง ของวันที่ 10 พ.ย. พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.พัลลพ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ข้อมูลผิดตรงไหนช่วยเอาปากกามาวง!!!???.