xs
xsm
sm
md
lg

“สายไหมต้องรอด” พา ลุงสิงห์บุรี ร้อง ก.ยุติธรรม ถูกทำร้ายจนตาบอด แต่คดีไม่คืบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - เพจ “สายไหมต้องรอด” พาผู้เสียหายขอความเป็นธรรม เลขาฯ รมว.ยธ. ช่วยเหลือคดี “ลุงสิงห์บุรี ถูกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทำร้ายจนตาบอด-บ้านโผล่บนที่ดินตัวเอง ถูกเรียกเก็บค่าปรับ-นักศึกษาปี 1 โดนรุ่นพี่ทำร้ายร่างกาย”

วันนี้ (21 พ.ย.) เวลา 11.30 น. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาผู้เสียหาย 3 กรณี เข้าพบ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม เพื่อขอความช่วยเหลือทางคดี และขอเยียวยาค่าเสียหายตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559

ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวว่า ทีมสายไหมต้องรอด พาผู้เสียหาย 3 กรณี มาขอความช่วยเหลือกับทางกระทรวงยุติธรรม โดยคดีแรก ลุงอายุ 57 ปี ชาวสิงห์บุรี ถูกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ต.สิงห์ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ทำร้ายจนตาขวาบอดสนิท จากเหตุทะเลาะวิวาท เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 65 เข้าร้องทุกข์ขอให้ช่วยติดตามตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดี พร้อมขอเยียวยาตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายฯ ในคดีอาญา เพราะไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ และค่ารักษาพยาบาล นอกจากนี้ ขอคุ้มครองพยานเนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยได้ประสานไปยัง บช.ภ.1 ติดตามคดีเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้จะส่งเรื่องเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณาอีกครั้ง

ด้าน นายสุรศักดิ์ สมสายหน่อย อายุ 32 ปี ลูกชาย นายประเจิด สมสายหน่อย อายุ 57 ปี ผู้เสียหาย ชาวสิงห์บุรี เผยว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา คุณพ่อได้ไปนอนที่ศาลาสาธารณะ ใกล้เคียงกับบ้านของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จึงทำให้คู่กรณีเกิดความไม่พอใจ และเข้ามาต่อว่า เกิดมีปากเสียงกัน จนกระทั่งถูกรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งหลังเกิดเหตุ ทางครอบครัวได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.บางระจัน แต่เรื่องผ่านมานานกว่า 5 เดือนแล้วยังไม่มีทางทีว่าตัวผู้ก่อเหตุจะถูกดำเนินคดี จึงได้เข้าแจ้งให้เพจสายไหมต้องรอดช่วยเหลือ

ส่วนคดีที่สอง ผู้เสียหายขอให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังมีบ้าน 1 หลังถูกปลูกบนที่ดินของตัวเอง และต้องถูกเทศบาลลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี เรียกเก็บค่าปรับ 6 หมื่นบาท และมีค่าปรับวันละ 1 หมื่นบาท ฐานก่อสร้างบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และการก่อสร้างไม่มีการยืนแบบแปลน ซึ่งผู้เสียหายปฏิเสธชำระเงินเพราะไม่ได้ก่อสร้างบ้านหลังดังกล่าว เบื้องต้นได้ให้ยุติธรรมจังหวัดกาญจนบุรีช่วยเหลือไกล่เกลี่ยตามขั้นตอน

และคดีที่สาม นักศึกษาปี 1 ถูกรุ่นพี่ใช้สีสเปรย์ฉีดพ่นใส่ไฟแช็กพ่นมาที่ร่างกายจนได้รับบาดเจ็บหนัก เบื้องต้นได้ประสาน สน.บางพลัด เร่งติดตามคดีและขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่คุ้มครองความปลอดภัยเกรงได้รับอันตราย ส่วนการเยียวยาจะพิจารณาตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายฯ ในคดีอาญา ตามขั้นตอนต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น