“ประยุทธ เพชรคุณ” ไขก๊อกลาออกตำแหน่งโฆษกอัยการ ลงสมัคร ก.อ. “สิงห์ชัย” อสส.เซ็นอนุญาต มีผล 1 ต.ค.นี้ มั่นใจในประสบการณ์โฆษก 7 ปี ช่วยชี้แจงข้อเท็จจริง กู้ภาพลักษณ์องค์กร
เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อัยการสูงสุด ได้มีคำสั่งในหนังสืออนุญาตให้ นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ลาออกจากตำเเหน่งรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด โดยหนังสือขออนุญาตลาออก ระบุว่า
กราบเรียน อัยการสูงสุด ตามที่ข้าพเจ้า นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ได้รับแต่งตั้งจากท่านอัยการสูงสุด ให้ดำรงตำแหน่งรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2558 เป็นต้นมา นั้น ด้วยข้าพเจ้ามีความประสงค์จะเสนอตัวเพื่อรับการเลือกตั้งในตำแหน่งกรรมการอัยการ ผู้ทรงคุณวุฒิ โดยสำนักงานคณะกรรมการอัยการประกาศให้ผู้ประสงค์จะแสดงตนเพื่อรับการเลือกตั้ง ต้องยื่น เสนอตัวภายในวันที่ 23 ก.ย. 2565 และมีประกาศให้ส่งบัตรลงคะแนนในวันที่ 10 ต.ค. 2565 จนกว่าจะแล้วเสร็จ และให้มีการนับคะแนนในวันที่ 2 พ.ย. 2565 ซึ่งข้าพเจ้าได้ยื่นหนังสือแสดงตนต่อ อธิบดีอัยการ สำนักงานคณะกรรมการอัยการแล้ว เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2565 โดยผู้เสนอตัวดังกล่าว จะต้องไม่หาเสียงหรือแสดงตนในลักษณะจูงใจหรือเชิญชวนให้ข้าราชการอัยการลงคะแนนเลือกตนเอง ซึ่งข้าพเจ้าเห็นว่าการทำหน้าที่รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ต้องมีการแถลงข่าวหรือให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน อันอาจเป็นการต้องห้ามตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการอัยการ ข้าพเจ้าจึงขอลาออกจากรองโฆษก สำนักงานอัยการสูงสุด ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2565 เป็นต้นไป จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
สำหรับ นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ซึ่งเป็นรองอธิบดีอัยการปีที่สอง มีบทบาทเป็นที่รู้จักในฐานะรองโฆษกอัยการฯ ที่โดดเด่น โดยนั่งตำเเหน่งรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดมายาวนาน 7 ปี โดยรับหน้าที่เเถลงคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนเเละคดีใหญ่สะเทือนขวัญ สำคัญหลายคดี ให้กับสื่อมวลชนเเละประชาชนเข้าใจชัดเเจ้ง ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถในการอธิบายและสื่อสารข้อกฎหมายด้วยถ้อยคำที่กระชับเข้าใจง่าย ที่ผ่านมามีบทบาทการสร้างภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือขององค์กร
นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อดีตอัยการสูงสุด ไว้วางใจให้ดำรงค์ตำแหน่งอัยการจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นสำนักงานสำคัญ มีสถิติคดีสูงเป็นอนั้นดับหนึ่งของประเทศโดยเฉลี่ยปีละเกือบ 13,000 คดี เคยเป็นอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา เเละย้ายข้ามมาทำงานคดีพิเศษซึ่งเป็นคดีที่มีความสลับซับซ้อน เเละเติบโตเป็นระดับรองอธิบดีที่สำนักงานนี้ เเสดงว่า ได้รับไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้บริหาร เพราะสำนักงานคดีพิเศษเป็นสำนักงานที่รับพิจารณาสำนวนคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ และคดีป้องกันและปราบ ปรามการฟอกเงิน หรือปปง.ซึ่งรวมถึงคดีการเมืองเเละการชุมนุมของม๊อบการเมืองต่างๆสำนักงานดังกล่าวจึงมีบทบาทสำคัญ
นายประยุทธ จบหลักสูตร วปอ. รุ่นที่ 59 จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หมู่สิงโตกับบิ๊กเด่น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ว่าที่ ผบ.ตร.นอกจากนี้ ยังได้รับแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ของกระทรวงยุติธรรม และเป็นประธานพัฒนากฎหมายและอนุกรรมการพัฒนากฎหมายของหน่วยราชการอีกหลายคณะ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2565 นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อัยการสูงสุดได้ออกประกาศสำนักงานอัยการสูงสุด เรื่อง การแนะนำตัว เผยแพร่ประวัติการทำงาน ผลงาน และวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการปฏิบัติงานในหน้าที่ ของบุคคลที่สมควรได้รับเลือกเป็นกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ (ก.อ.)สรุปว่า ด้วยสำนักงานอัยการสูงสุดจะดำเนินการให้มีการเลือกกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิแทน น.ส.นารี ตัณฑเสถียร และนายศักดา ช่วงรังษี ซึ่งได้พ้นจากตำแหน่งเพราะเป็น ก.อ. โดยตำแหน่ง และนายสุวิช ชูตระกูล และนายพรชัย ชลวาณิชกุล ซึ่งได้พ้นจากตำแหน่งเพราะไปดำรงตำแหน่งอัยการอาวุโส ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2565