xs
xsm
sm
md
lg

“อาย-วราไพรินทร์” ยื่น ปปง. ขอคุ้มครองสิทธิ์คดี Forex-3D พบตัวเองชื่อตกหล่นเฉลี่ยทรัพย์คืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - “อาย” วราไพรินทร์ เข้ายื่นคุ้มครองสิทธิ์ ปปง. หลังเป็นเหยื่อคดี Forex-3D คาดมีผู้เสียหายตกหล่นเยอะ ด้าน “ทนายเจ” แนะผู้เสียหายลงทะเบียนเพิ่มรอบใหม่

วันนี้ (22 ก.ย.) เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายปิยณัฐ สุกยัง เลขาธิการเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนเพื่อความยุติธรรม พร้อม น.ส.วราไพรินทร์ ธนวริสพร หรือ “อาย” ดาราสาวผู้เสียหายในคดีแชร์ Forex-3D เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ ปปง. เพื่อขอคุ้มครองสิทธิ์และติดตามความคืบหน้าการอายัดทรัพย์สินจากการกระทำผิด

นายปิยณัฐ เผยว่า สืบเนื่องตั้งแต่ปี 2562 เครือข่ายฯ ดำเนินการทางคดี Forex-3D มาตลอดซึ่งปัจจุบันคดีก็ยังไม่สิ้นสุด และผู้เสียหายหลายรายเข้าร้องทุกข์กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แต่ปรากฏว่ามีผู้เสียหายอีกจำนวนมากยังไม่ทราบว่าต้องมายื่นคุ้มครองสิทธิ์ของตัวเองที่ สำนักงาน ปปง. เพื่อเฉลี่ยขอทรัพย์สินคืนแก่ผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายบางส่วนคิดว่าแจ้งเรื่องที่ดีเอสไอแล้วเสร็จสิ้นกระบวนการ รวมถึง “อาย” วราไพรินทร์ ธนวริสพร เป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่ร่วมลงทุน Forex-3D นับเป็นดาราคนเดียวที่เคียงข้างผู้เสียหายมาตลอด และยังไม่ได้ยื่นเรื่อง ปปง. เช่นกัน พร้อมสอบถามถึงมูลค่าทรัพย์สินที่ได้จากการยึดอายัดทรัพย์ เพราะตอนแรกมีการเปิดเผยว่า สามารถยึดได้หลักพันล้านบาท แต่ทราบจากเจ้าหน้าที่ว่ามีเพียงหลักร้อยล้านบาท

ด้าน “อาย” น.ส.วราไพรินทร์ กล่าวว่า ตนแจ้งความไว้แล้วที่ดีเอสไอแต่ยังไม่ได้ยื่นเรื่องคุ้มครองสิทธิ์ต่อ ปปง. ก่อนทราบว่าตัวเองมีชื่อตกหล่นจากการตรวจสอบด้วยตัวเอง เพราะคิดว่าแจ้งความกับดีเอสไอแล้วเรื่องจะจบ ทั้งนี้ เนื่องจากขั้นตอนการทำงานของรัฐที่ซับซ้อนประกอบกับประชาชนอาจไม่เข้าใจแนวทางการแจ้งสิทธิ์ โดยวันนี้มา ปปง. ในฐานะตัวแทนของผู้เสียหายเพื่ออยากทราบขั้นตอนการลงทะเบียนขอยื่นสิทธิ์เฉลี่ยทรัพย์คืนเพื่อเป็นกระบอกเสียงให้ผู้เสียหายรายอื่นทราบและสร้างเป็นมาตรฐานเดียวกัน เพราะหลายคนยังไม่ทราบว่าต้องเริ่มต้นอย่างไร และมีหลายคนที่ติดต่อเข้ามาหาตนเพื่อปรึกษาในเรื่องนี้ รวมทั้ง ขั้นตอนการปฏิบัติงานของ ปปง. เพราะเชื่อว่ายังมีรายชื่อผู้เสียหายตกหล่นอีกจำนวนมาก

“สำหรับความเสียหายของส่วนตัว รวมแล้ว 2 ล้านบาท แต่ได้รับกลับคืนมาแล้วบางส่วนจากการปันผลคงเหลืออีกหลัก 1 ล้านกว่าบาท อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบมูลค่าความเสียหายในภาพรวมทั้งหมด แต่เชื่อว่าต้องมีจำนวนมากเพราะผู้ที่จะลงทุน ต้องเริ่มต้นที่ 5 หมื่นบาท ซึ่งคนที่รู้จักก็เสียหายหลักแสนบาท อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวรู้สึกเห็นใจผู้ที่ติดคุก แต่ทุกอย่างถูกตัดสินตามกระบวนการยุติธรรม ตัวเองไม่ได้ออกมาเพื่อทำร้ายใคร และตัดสินไม่ได้ว่าใครจะติดหรือไม่ติดคุก เพราะเป็นอำนาจของดีเอสไอที่จะดำเนินการอย่างไร แต่ยอมรับว่ารู้จักกับ “พิ้งกี้” สาวิกา ไชยเดช เพราะเคยร่วมงานกัน ส่วนคนอื่นก็เคยรู้จักผ่านๆ เท่านั้น” น.ส.วราไพรินทร์ กล่าว

ต่อมา เวลา 15.30 น. นายปิยณัฐ เปิดเผยหลังพบเจ้าหน้าที่ ปปง. ว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ ปปง. ทราบว่า ดีเอสไอ มีการส่งมอบทรัพย์สินแล้ว 3 ครั้ง โดยมีผู้เสียหายในระบบดีเอสไอ จำนวน 9,804 คน ลงชื่อขอเฉลี่ยทรัพย์สินคืน ซึ่งรอบแรกสามารถยึดทรัพย์ มูลค่ารวมกว่า 90 ล้านบาท มีผู้เสียหายยื่นเรื่อง 7 พันคน และได้ยื่นศาลขอเฉลี่ยทรัพย์คืนแล้วพร้อมไม่มีใครคัดค้านและเตรียมนำทรัพย์สินขายทอดตลาด โดยหลังจากนี้กฏหมายฟอกเงิน ปปง. มีกำหนดคืนทรัพย์ภายใน 1 ปี ครบกำหนด ก.ย.2566

ส่วนรอบที่สอง ตามยึดทรัพย์สินได้กลับมาอีก 200 กว่าล้านบาท มีผู้ยื่นสิทธิ์มา 5 พันกว่าคน และได้เปิดให้ยื่นเรื่องคุ้มครองสิทธิ์เพิ่มเติมใหม่ผ่านเว็บไซต์ สำนักงาน ปปง. โดยผู้เสียหายต้องส่งหลักฐานตามขั้นตอน อาทิ ใบบันทึกประจำวันหรือใบแจ้งความ , สลิปการโอนเงิน และ สเตทเม้นท์ธนาคารรับรอง เป็นต้น ซึ่งกำหนดควรยื่นให้เสร็จภายในปี 2565 เพราะต้องตรวจสอบเอกสาร หากช้าอาจต้องเลื่อนระยะเวลาออกไปอีก และรอบที่สาม ตามยึดทรัพย์ได้เพิ่มเติม 200 กว่าล้านบาท มีผู้เสียหายยื่นสิทธิ์ 7 พันคน และเพิ่งปิดลงทะเบียนไปไม่นานนี้ แต่สามารถยื่นต่อศาลเพื่อขอให้ ปปง. เปิดรับเรื่องขอคุ้มครองสิทธิ์ได้

ทั้งนี้ ขั้นตอนการคุ้มครองสิทธิ์ผู้เสียหายต้องยื่นเรื่องทุกรอบในการขอสิทธิ์เฉลี่ยทรัพย์สินจะคิดเป็นรายครั้ง หากไม่ลงทะเบียนรอบแรกก็ไม่สามารถเฉลี่ยทรัพย์สินคืนได้ในรอบนั้นๆ ต้องยื่นสิทธิ์ในรอบที่ 2 และ 3 แทน พร้อมนำเอกสารการแจ้งความ สลิปการโอนเงิน และสเตทเมนต์ มาประกอบเป็นหลักฐาน ส่วนหากมีการยึดทรัพย์เพิ่มเติมในครั้งที่ 4 คาดจะทำระบบใหม่ให้ผู้เสียหายไม่ต้องยื่นซ้ำ
กำลังโหลดความคิดเห็น