"เชาว์" แฉ เหยื่อเมาเทนบี ถูกเรียกเก็บค่าทนาย 2.5 หมื่น เงินชนะคดี 20 % เดือดร้อนหนัก เหตุขาดเงิน ไร้ที่พึ่ง บี้ สภาทนายความ เร่งรับคดี ปฏิรูปองค์กร ให้เป็นที่พึ่งประชาชน ถามหา ยธ.หายไปไหน ทำไมไม่ให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย
วันนี้ (28ก.ย.) นายเชาว์ มีขวด ทนายความอาสา โพสต์ Facebook Chao Meekhuad เรื่อง ทุกข์ของผู้เสียหายเหตุการณ์ไฟไหม้ผับ ‘Mountain B’ จังหวัดชลบุรี มีเนื้อหาระบุว่า เช้าวันนี้(28 ก.ย.65)ตนได้รับการติดต่อจากผู้เสียหายคดีไฟไหม้ผับที่ชลลบุรี 2-3 ราย เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะไม่มีเงินจ้างทนาย หลังจากที่ไปหลงเชื่อทนายอาสาที่ยื่นมือเข้าไปช่วย โดยเข้าใจว่าทนายคนดังกล่าวจะทำคดีให้ฟรีแต่สุดท้ายก็มีการเรียกเก็บค่าทนายจำนวน รายละ 25,000 บาทและเงินที่ชนะคดีอีก 20% ได้ทราบเรื่องแล้วรู้สึกสลดใจ เห็นใจกลุ่มผู้เสียหายนี้ขึ้นมาทันที เพราะนอกจากจะสูญเสียคนคนในครอบครัวแล้ว ยังต้องมาเดือดร้อน ต้องหาเงินจ่ายค่าทนายความในการฟ้องร้องเอากับผู้ก่อเหตุเอง ย่อมไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรม เพราะคดีนี้เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา มีพนักงานอัยการเป็นทนายแผ่นดินฝ่ายโจทก์อยู่แล้ว ผู้เสียหายสามารถเรียกค่าเสียหายในส่วนแพ่งไปในคดีอาญาคราวเดียวกันได้เลย
“คดีนี้เป็นคดีสเทือนขวัญ มีคนตายกว่า 20 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก จากเหตุไฟไหม้สถานบันเทิง ซึ่งต้องมีผู้รับผิดชอบทั้งเจ้าของสถานบริการและหน่วยงานราชการผู้ที่มีหน้าที่ควบคุมดูแล ผมจึงไม่เข้าใจว่า หน่วยบริการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายของกระทรวงยุติธรรมทำอะไรอยู่ ปล่อยให้ประชาชนผู้เสียหายต้องมาต่อสู้ตามลำพัง แทนที่ภาครัฐจะยื่นมือเข้าไปช่วย
ในเหตุสาธารณะสะเทือนขวัญ มีคนตายจำนวนมาก แต่ปล่อยให้กลุ่มผู้เสียหายต้องดิ้นรนหาทนายความ ที่ตอนแรกเข้าใจว่าจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือฟรี สุดท้ายต้องเสียเงินค่าทนายเองทุกราย ถือว่าน่าสลดใจ”นายเชาว์ระบุ
ผมได้แนะนำให้กลุ่มผู้เสียหายติดต่อไปที่สำนักงานช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย สภาทนายความ ซึ่งยังเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถขอความช่วยเหลือได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ จึงอยากให้สภาทนายความได้รับเรื่อง เพื่อช่วยเหลือทางกฎหมายให้กับผู้เสียหายกลุ่มนี้ โดยต้องปฏิรูปการทำงานให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว ให้เป็นที่พึ่งของประชาชนได้ และเรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรมเข้าไปดูแลเรื่องนี้ด่วนด้วย นายเชาว์ระบุทิ้งท้าย