ตำรวจจับกุมหนุ่มวิน จยย.วัย 48 ปี หลังก่อเหตุชิงทรัพย์นักเรียนโรงเรียนหอวัง สารภาพเสพยาเสพติดก่อนลงมือก่อเหตุ ตรวจสอบเคยมีประวัติค้ายาเสพติดปี 45
วันนี้ (29 มิ.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผกก.สน.พหลโยธิน พ.ต.ท.ธเนศ ศรีจำปา รอง ผกก.สส.สน.พหลโยธินพ.ต.อ.อัครพล โทยะ ผกก.กก.สส.บก.น.2 พ.ต.ต.ไพศาล เดชกัลยา สว.สส.กก.สส.บก.น.2 พร้อมกำลังตำรวจจับกุม นายชยันต์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์นักเรียนมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 โรงเรียนหอวัง ได้เงินสดไป 100 บาท โดยจับกุมได้ที่บริเวณแยกสุทธิสารเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ลงมือก่อเหตุจริง แต่ไม่มีอาวุธปืนตามที่เสนอข่าวแต่อย่างใด เป็นเพียงการข่มขู่เท่านั้น โดยหลังเกิดเหตุได้หลบหนีกลับไปหาภรรยาที่บ้านพักย่านอินทามระ และถูกจับกุมได้ในเวลาต่อมา
ด้าน น.ส.อามีนะ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ภรรยาของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า อยู่กินกันมาได้ 2 ปี โดยตนมีอาชีพเป็นแม่บ้าน ส่วนสามีขับวินจักรยานยนต์รับจ้างย่านอินทามระ สามีเป็นคนดูแลครอบครัวอย่างดี แต่มักจะมีปัญหาทะเลาะกันบ่อยครั้ง ซึ่งเวลาที่มีปากเสียงฝ่ายสามีจะเดินหนีออกไปนอกบ้านประจำ วันเกิดเหตุก็มีปากเสียงกันจนสามีเดินออกจากบ้าน แล้วไปก่อเหตุชิงทรัพย์เด็กนักเรียน ก่อนจะกลับมาที่บ้านและทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งมาทราบตอนที่สามีถูกตำรวจจับกุม เชื่อว่าสาเหตุที่ทำลงไปมาจากการประชดประชันหลังจากที่ทะเลาะกัน
พล.ต.ต.โชคชัย เปิดเผยว่า ภายหลังจากเกิดเหตุตำรวจได้เร่งติดตามจับกุมคนร้าย จนทราบว่า พักอาศัยอยู่ซอยอินทามระ 29 จึงนำกำลังไปควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สน.พหลโยธิน เบื้องต้นคนร้ายให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ ได้เสพยาเสพติดก่อนนั่งรถเมล์ออกจากที่พักมาลงที่ห้างดังย่านลาดพร้าว และเดินเลาะกำแพงโรงเรียนหอวัง จนพบเด็กนักเรียนผู้เสียหายจึงลงมือก่อเหตุโดยใช้วิธีการข่มขู่ชิงโทรศัพท์มือถือ แต่เด็กนักเรียนส่งเงินให้ 100 บาท หลังก่อเหตุได้ขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างหลบหนีกลับไปยังบ้านพัก และเอาเงินไปใช้จ่ายตามปกติ
พล.ต.ต.โชคชัย กล่าวอีกว่า คนร้ายเคยมีประวัติจำหน่ายยาเสพติดเมื่อปี 2545 ส่วนสาเหตุที่ทำไป เพราะอ้างว่าเงินไม่พอใช้จึงได้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว และไม่มีอาวุธตามที่ข่มขู่แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว เพราะถือเป็นคดีที่น่าสนใจ อยากฝากถึงประชาชนในการเดินในที่สาธารณะเพียงลำพังให้สังเกตสิ่งรอบตัว หรือบุคคลน่าสงสัย หากเกิดเหตุก็ขอให้รีบแจ้งตำรวจทันที
ต่อมาตำรวจนำตัวคนร้ายส่งฝากขังครั้งแรก ต่อ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ในข้อหาชิงทรัพย์ ในเวลากลางคืน ก่อนคุมตัวขึ้นรถไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คำร้องฝากขัง ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2565 เวลาประมาณ 05.40 น. ขณะที่ผู้เสียหายอายุ 17 ปี ได้เดินข้ามสะพานลอยเพื่อไปยังฝั่งโรงเรียนหอวัง ระหว่างเดินมาถึงบนทางเท้าฝั่งโรงเรียนหอวัง ได้มี นายชยันต์ ผู้ต้องหา เดินมาประชิดตัวผู้เสียหาย แล้วพูดว่า “อย่าส่งเสียงดัง น่ะให้เดินตามมา” ผู้เสียหาย ตกใจจึงไม่กล้าส่งเสียงดัง แล้วบอกว่า “ส่งโทรศัพท์มือถือมา จึงต่อรองว่าเป็นเงินแทนได้หรือไม่ นายชยันต์ ผู้ต้องหา จึงตอบตกลงและให้เอาเงินมา 20 บาท เมื่อผู้เสียหายหยิบกระเป๋าสตางค์จะหยิบเงินสดให้ 20 บาท นายชยันต์ ผู้ต้องหามองเห็นธนบัตรฉบับละ 100 บาท ผู้เสียหายจึงได้หยิบธนบัตรฉบับ 100 บาท ในกระเป๋าเงินของตนแล้วหลบหนีไปผู้เสียหายจึงเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เหตุเกิดที่บนทางเท้าฝั่งโรงเรียนหอวัง
ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 339 วรรคสอง มาตรา 335(1)
ทั้งนี้ ได้สอบสวนและควบคุมตัวผู้ต้องหามาโดยตลอด แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากจะต้องทำการสอบสวนพยานอีก 6 ปาก, รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษจึงขออนุญาตฝากขังผู้ต้องหาครั้งเเรกเป็นเวลา 12 วัน
หากผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว พนักงานสอบสวนขอคัดค้าน เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยชั่วคราว เกรงว่าจะหลบหนีเเละยากต่อการนำมาดำเนินคดีในภายหลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังยื่นฝากขังเเล้ว ไม่ปรากฏว่า มีผู้ใดมายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร