วัยรุ่นคริปโตฯ ลงทุนหมดตัวในบิทคอยน์ แต่ขาดทุนยับหลังราคาบิทคอยน์ดิ่งเหวรุนแรงหลุด $18,000 หมดเนื้อหมดตัว ตัดสินใจคร่อมเวฟ 110 ไอ ฉายเดี่ยวบุกปล้นร้านทองฉกทองคำกว่า 60 บาทหนีเงียบแต่ไม่รอดโดนตำรวจตามแกะรอยจับกุมพร้อมของกลาง รับสารภาพสิ้นเหตุลงมือเพราะความเครียดขาดทุนจากการลงทุนในบิตคอยน์
บ่ายวันนี้ (19 มิ.ย. ) ณ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สรเสริญ ใช้สถิตย์ ผบก.น.6 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นภัสพงษ์ โฆษิตสุริยมณี ผกก.สน.พระราชวัง พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร ผกก.สส.บก.น.6 ออกแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายมนตรี สังข์มี อายุ 34 ปี คคนร้ายได้ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านทองบ้วนหลี (ชมพู) พร้อมของกลางเป็นทองรูปพรรณจำนวนกว่า 30 เส้น น้ำหนักรวมประมาณ 60 บาท โดยมีกระเป๋าสะพายข้างสีดำ จำนวน 1 ใบที่ใช้บรรจุทองคำในการปล้น โดยรวมมูลค่าทรัพย์สินเป็นจำนวนกว่า 1,800,000 บาท พร้อมทั้งชุดที่ผู้กระทำความผิดใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ นอกจากนี้ ยังมีรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีดำแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และแผ่นป้ายทะเบียน 578 ชัยนาท ซึ่งถูกถอดออกจากรถก่อนที่จะไปก่อเหตุ โดยตำรวจสามารถตามสืบและจับกุมได้ที่บริเวณปากซอยเจริญนคร 34 แขวงบางลำพูล่าง เขตคลองสาน
พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า หลังจากคนร้ายได้ทำการก่อเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิเคราะห์ข้อมูลแผนประทุษร้ายในครั้งนี้ จนกระทั่งสามารถสืบสวนทราบตัวผู้ก่อเหตุคือนายมนตรี โดยมีพยานหลักฐานเพียงพอที่ทราบว่าคนร้ายนี้ได้หลบหนีเข้าไปอยู่ในพื้นที่ บ้านพักในซอยเจริญนคร 34 จึงนำกำลังไปตรวจสอบและพบตัวนายมนตรี ที่บริเวณปากซอยเมื่อเวลา 03.40 น. จึงควบคุมตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวนถาม นายมนตรี ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยวันเกิดตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ มาจอดไว้บริเวณฝั่งตรงข้ามห้างทอง และเข้าไปก่อเหตุ จากนั้นหลังเกิดเหตุขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปจอดซ่อนไว้ในซอยสมเด็จเจ้าพระยา 7 ก่อนจะหลบหนีกลับมาที่บ้านพักภายในซอยเจริญนคร 34 จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้หลังจากที่ก่อเหตุเพียง 11 ชั่วโมงเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ได้ลงมือกระทำความผิดนั้นมาจากการที่เกิดจากความเครียดเรื่องการเงิน และการนำเงินไปลงทุนบิทคอยน์ซึ่งขาดทุนอย่างหนัก โดยมีเงินเหลือเก็บในบัญชีแต่ก็เหลือเพียงเล็กน้อย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา “ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธและใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร” ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป