xs
xsm
sm
md
lg

“อัจฉริยะ” ร้องจเรตำรวจสอบผู้การนิติเวช-แพทย์ชันสูตรคดีแตงโม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



นายอัจฉริยะ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือถึงจเรตำรวจ ขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัย ผบก.สถาบันนิตเวช และแพทย์ที่ชันสูตรศพแตงโม

วันนี้ (20 พ.ค.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำหนังสือเข้าร้องเรียนกับ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ให้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ และแพทย์ที่ชันสูตรศพของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ที่เสียชีวิตจากการตกเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีการนำศพส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมทั้งเข้าให้ปากคำในการร้องเรียนเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง 4 นาย ที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนสอบสวนในคดีของน.ส.นิดา

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ประเด็นเรื่องการยื่นให้ตรวจสอบวินัยผู้การนิติเวช และแพทย์ที่ชันสูตร เนื่องจากแพทย์มีหน้าที่ในการชันสูตรศพเพียงอย่างเดียว ไม่ใช่การนำศพออกมาทดลองลักษณะบาดแผล ซึ่งอาจทำให้ได้รับความเสียหาย หรือศพอาจจะปนเปื้อนพยานหลักฐานอื่นๆ จนเกิดความเสียหายต่อคดี เพราะในช่วงที่นำศพออกมาทดลองสภาพแวดล้อมไม่ตรงกัน และใบพัดเรือ อาจมีการปนเปื้อนซึ่งเรื่องดังกล่าวมีเพียงแพทย์และผู้ช่วยแพทย์รวมถึงช่างภาพเท่านั้น ไม่มีเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานหรือผู้เชี่ยวชาญด้านใบพัดมาร่วมตรวจสอบด้วย

โดยส่วนตัวมองว่า กรณีนี้เป็นการลักศพหรือลักทรัพย์ เพราะไม่ได้แจ้งให้ญาติและทนายความทราบ ถึงแม้ว่าร่างจะอยู่ในการควบคุมของสถาบันนิติเวชวิทยาก็ตาม แต่ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่สามารถทำได้ อีกทั้งแพทย์ยังมีการให้การเท็จเรื่องเกี่ยวกับบาดแผลซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง ส่วนกรณีของผู้บังคับการนิติเวช ไม่ทราบว่า มีการกระทำดังกล่าวนั้นถือเป็นการปล่อยปละละเลยหรือมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องดังกล่าวจึงจำเป็นต้องมาร้องเรียนวันนี้

ส่วนกรณีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยมี พล.ต.อ.มนตรี ยิ้มแย้ม ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นประธานกรรมการสอบข้อเท็จจริงของกรณีนี้ มองว่า ถึงแม้ พล.ต.อ.มนตรี เป็นนักเรียนนายร้อยรุ่นเดียวกันกับ พล.ต.ท.จิรภัทร ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ก็ตาม แต่ก็ยังเชื่อใจในการทำงานของ พล.ต.อ.มนตรี และพยานหลักฐานที่ตนเองรวบรวมนำไปมอบให้กับคณะกรรมการสอบสวน มั่นใจว่า จะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวได้

ทั้งนี้ ยอมรับว่า การร้องเรียนพุ่งเป้าไปถึง พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี เป็นอันดับ 1 เพื่อให้ย้ายออกจากพื้นที่ให้ได้ เพราะเจ้าตัวยังมีกรณีที่อยู่ระหว่างการสอบสวนหลายเรื่องทั้งเรื่องการโอนเบี้ยเลี้ยงตำรวจช่วงการแพร่ระบาดโควิด ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การปล่อยให้มีการเปิดบ่อนการพนันในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และกรณีล่าสุด คือ การปล่อยให้ของกลางในความควบคุมได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ ยังมองอีกว่า การกระทำของ พ.ต.อ.จาตุรนต์ เป็นลักษณะเหมือนการข่มขู่ให้ตนไม่ดำเนินการร้องเรียนต่อ ซึ่งหากมีข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการสอบสวน หรือในชั้นศาลออกมาแล้วว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงก็สามารถมาแจ้งความกลับได้ซึ่งทุกข้อหาที่พ.ต.อ.จาตุรนต์ ได้แจ้งความไว้ก่อนหน้านี้ มองว่า ตนเองสามารถชี้แจงและต่อสู้คดีได้ทุกคดี และหากผลการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าวออกมาไม่เป็นไปตามที่ตนเองคิดไว้ หรือเป็นคุณกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มองว่าตนเองก็จะเดินหน้าต่อไปและยังมีอีกหลายขั้นตอนที่สามารถดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้

ส่วนกรณีของเรือลำที่เกิดเหตุที่ตนระบุว่า มี 2 ลำ ขณะนี้มีข้อมูลแล้วว่า เรือลำเกิดเหตุของจริงอยู่ที่จังหวัดชลบุรีและถูกชำแหละเป็นซากเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าให้ข้อมูลกับกรมสอบสวนคดีพิเศษอีกครั้ง




กำลังโหลดความคิดเห็น