xs
xsm
sm
md
lg

“ปุ๊ กรุงเกษม” ปิดฉากโก๋หลังวัง ตำนานอันธพาล 2499

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม 2565 นำเสนอรายงานพิเศษ “ปุ๊ กรุงเกษม” ปิดฉากโก๋หลังวัง ตำนานอันธพาล 2499



“ปุ๊ กรุงเกษม” หรือนายบรรเจิด กฤษณายุธ จากโลกไปในวัย 79 ปี ทิ้งไว้แต่ความอำลาอาลัยของบุตรสาว และคนในวงการบันเทิง

รวมถึงทิ้งตำนานให้เล่าขานสืบไป ในฐานะ “นักเลงยุค 2499” คนสุดท้าย ขณะที่เพื่อนพ้อง รวมถึงอริเก่าทั้งหลายที่เคยตีรันฟันแทง ล้มหายตายจากไปก่อนหน้านี้จนหมดสิ้น

โปรไฟล์ชีวิตจริง หลังผ่านพ้นวัยรุ่นอันโชกโชน ต้องเรียกว่า “ปุ๊ กรุงเกษม” ดีกว่าหลายๆ คน เคยทำงานเป็นสจ๊วร์ต หรือพนักงานต้อนรับชายบนเครื่องบิน เป็นนักธุรกิจ เป็นนักดนตรี รวมถึงเป็นนักเขียนนามปากกาเดียวกับฉายานั่นเอง

มากกว่านั้น เขายังมีภรรยาที่เป็นนักร้องระดับซุปตาร์ “แหวน” ฐิติมา สุตสุนทร โดยเป็นรักต่างวัย ระหว่างโก๋แก่รุ่นเก๋า กับสาวดาวเด่นจากนิเทศ จุฬาฯ ที่มีอายุห่างกันเกือบ 20 ปี

ทั้งสองมีพยานรักด้วยกัน 1 คน เป็นนักร้องนักแสดงวัยรุ่น “ปันปัน” เต็มฟ้า กฤษณายุธ ผู้ซึ่งดูแลพ่อที่สุขภาพทรุดโทรมด้วยความชราภาพ และโรคหัวใจมาตลอด

โดยปันปันกล่าวไว้อาลัยว่า คราวนี้พ่อจะได้กลับมาแข็งแรง ไปอยู่ด้วยกันบนฟ้ากับแม่แหวน ที่จากไปก่อนหน้าด้วยโรคมะเร็ง เมื่อปี 2560

ตำนานยุค 2499 ที่ “ปุ๊ กรุงเกษม” ขึ้นทำเนียบนักเลงกับเขาด้วย ถือเป็นที่กล่าวขวัญมาจนถึงวันนี้ เป็นยุคของลูกผู้ชายนักบู๊ ที่พร้อมใช้กำลังห้ำหั่นแก้ปัญหาความขัดแย้ง

แต่การยกพวกตีกันของนักเลงยุคนั้น เป็นการดวลด้วยกำปั้นลุ่นๆ หรืออย่างมากก็มีด ไม้ ระเบิดขวด ไม่มีการใช้เครื่องทุ่นแรงเอาชีวิตกันถึงตายอย่างปืน

ขณะเดียวกัน แต่ละคนก็เน้นการแต่งตัวตามแฟชั่น เน้นความเท่ ความหล่อ ในแบบฉบับของ “โก๋หลังวัง” ไม่ใช่เป็นนักเลงหัวไม้ไร้กำพืด

เหมือนที่ “ปุ๊ กรุงเกษม” นิยามความเป็นพวกเขาว่า “จิตใจเป็นเอลวิส ความคิดเป็นเจมส์ ดีน” ซึ่งเอลวิส เพลสลีย์ คือนักร้องร็อก แอนด์ โรล ผู้ยิ่งใหญ่ ขณะที่ เจมส์ ดีน ก็เป็นพระเอกฮอลลีวู้ด ผู้ใช้ชีวิตลุยอย่างสุดขั้ว จนเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถยนต์ตั้งแต่อายุยังหนุ่ม ทั้งสองต่างเป็นไอดอลของเหล่า “โก๋กี๋ตี๋หมวย” ในยุคนั้น

นักเลงดังที่ถือเป็น “ไอคอน” ในยุคของ “ปุ๊ กรุงเกษม” ก็ต้องยกให้ “แดง ไบเล่” เริ่มแรกทั้งคู่ต่างเป็นอริ ยกพวกถล่มกันที่ถนน 13 ห้าง ย่านบางลำพู จนเรียกขานกันว่า “ศึก 13 ห้าง” อันลือลั่น

แต่ต่อมา ปุ๊ กรุงเกษม และแดง ไบเล่ กลับมาเป็นเพื่อนสนิทกัน เนื่องจากมีน้ำใสใจคอที่คล้ายกัน

แต่คนที่โด่งดังที่สุดจริงๆ ในเวลาต่อมา ก็คือ “เปี๊ยก เจริญพาสน์” หรือพิศาล อัครเศรณี เจ้าของฉายา “พระเอกซาดิสต์” ที่สร้างชื่อจากบทบาทตบจูบๆ ข่มขู่กดดันเหล่านางเอก จนน้ำตาร่วง

นอกจากนี้ ยังมีชื่อของ “จ๊อด เฮาดี้” ซึ่งรายนี้ในเวลาต่อมา เลือกเดินบนเส้นทางมาเฟียจริงๆ ต่างจากวิถีของ “ปุ๊ กรุงเกษม” และ “เปี๊ยก เจริญพาสน์”

ฉายานามเท่ๆ เหล่านี้ โด่งดังสนั่นเมืองเมื่อปี 2540 เมื่อชีวิตพวกเขา ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง “2499 อันธพาลครองเมือง” ซึ่งหนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง ทำรายได้ไปถึง 75 ล้านบาท ถือเป็นประวัติการณ์ของหนังไทยเวลานั้น

และยังสร้างชื่อให้พระเอก “สามีแห่งชาติ” อย่าง “ติ๊ก” เจษฎาภรณ์ ผลดี รวมถึงนางเอกเซ็กซี่ “แชมเปญ เอ็กซ์”

มีวลีดังจากในหนัง ให้กล่าวขวัญกันอย่าง “เป็นเมียเราต้องอดทน” และ “แถวนี้แม่งเถื่อน ไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้”

อย่างไรก็ตาม หนัง “2499 อันธพาลครองเมือง” มีรอยด่างอย่างแรง เพราะบทหนัง สร้างจากหนังสือและคำบอกเล่าของ “สุริยัน ศักดิ์ไธสง” นักเขียนแนวนักเลงมาเฟียคนดัง

ส่งผลให้ภาพของตัวละครในเรื่อง กระเดียดไปทาง “โจร” มากกว่า “จิ๊กโก๋” สร้างความเสียหายให้ตัวจริงที่ยังมีชีวิตอยู่

จนบรรดานักเลงยุค 2499 ต้องออกมาเปิดตัวกับสื่อ นำโดย “ปุ๊ กรุงเกษม” นี่เอง พวกเขาท้วงติงว่า บทหนังเรื่องนี้ บิดๆ เบี้ยวๆ สื่อไม่ตรงความเป็น “โก๋หลังวัง”

ทั้งยังแฉด้วยว่า สมัยที่พวกเขาตีรันฟันแทงกันนั้น ไม่เคยมีชื่อ “สุริยัน ศักดิ์ไธสง” อยู่ในแก๊งไหนๆ เลย

ขณะที่สุริยันเอง ก็มีประวัติอาชญากรเป็นพวกนักแซ้งค์กรีดกระเป๋า เพียงแต่อาศัยกึ๋นของนักเขียนในตัว เที่ยวจดจำเรื่องเล่าจากคนโน้นคนนี้ตอนติดคุก มาเขียนจนเป็นเรื่องราวสุดมันได้

อย่างไรก็ตาม เวลาโลดแล่นในโลกนี้ ล้วนมีวันจบสิ้นลง “แดง ไบเล่” หรือชื่อจริง “บัญชา ศรีสุกใส” จากไปก่อนใครเพื่อน ตั้งแต่ปี 2507 ขณะมีอายุแค่ 24 ปี จากอุบัติเหตุรถชนประสานงา ขณะเขากับพวกซิ่งรถหนีคู่อริ

โจษจันกันว่า เขาเสียชีวิตแบบเดียวกับพระเอกในดวงใจของเขา “เจมส์ ดีน” ช่างเป็นเรื่องบังเอิญประจวบเหมาะอะไรเช่นนั้น

“จ๊อด เฮาดี้” หรือ “สมเกียรติ กองแก้ว” เสียชีวิตอย่างสงบในบ้านพัก เมื่อปี 2558 ขณะที่ “เปี๊ยก เจริญพาสน์” หรือพิศาล อัครเศรณี จากไปด้วยอาการหัวใจล้มเหลว เมื่อปี 2561

แม้แต่คนนอกแก๊งที่ทำตัวกลมกลืนอย่าง “สุริยัน ศักดิ์ไธสง” ก็เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2547

“ปุ๊ กรุงเกษม” จึงน่าจะเป็น “โก๋หลังวัง” คนสุดท้าย ที่มารูดม่านปิดฉากละครชีวิตของทุกผู้ทุกนาม

--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android

สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1


กำลังโหลดความคิดเห็น