รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันจันทร์ที่ 18 เมษายน 2565 นำเสนอรายงานพิเศษ ปริญญ์พลิกเป็นต่อ คดีหื่นเจอตอ อายุความ-เหยื่อใจอ่อน
จากเดิมที่คาดกันว่านายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเอาตัวไม่รอดแน่นอน จากคดีข่มขืนอนาจาร
มาถึงตอนนี้ ต้องพูดว่า ของมันบ่แน่ดอกนาย
เนื่องจากคดีลักษณะนี้ มีข้อจำกัดในตัวมันเองหลายๆ อย่าง และเป็นการเอื้อให้ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหา
ทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ซึ่งสามารถรวบรวมบรรดาเหยื่อหื่นนับสิบราย ในเวลาแค่ 24 ชั่วโมง ตอนนี้แพลมข่าวร้ายออกมาให้ทราบว่า
“กำลังมีความพยายามเสนอเงินจำนวนมากให้เหยื่อเพื่อจบคดี และให้อยู่อย่างเงียบๆห้ามให้สัมภาษณ์ ห้ามให้ความร่วมมือกับผม เพื่อให้กระแสสังคมเลิกสนใจคดีนี้ไปให้ไวที่สุด”
และเมนต์บ่นออกมา “เงินสำคัญกว่าศักดิ์ศรี ก็ไม่ว่ากัน”
อีกปัญหาสำคัญของคดีนี้ ยังเป็นเรื่องของอายุความ แม้จะอ้างว่าเหยื่อมีเยอะนับสิบๆ คน แต่ส่วนใหญ่ คดีหมดอายุความไปแล้ว
คนที่ออกมาฟันเปรี้ยงในประเด็นนี้ คือ ทนายคลายทุกข์ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ที่ชี้ว่า คดีพวกนี้มีอายุความแค่ 3 เดือนเท่านั้น เพราะฉะนั้น เจ้าทุกข์ทั้งหลายที่เป็นโจทก์เก่าของอดีตรองหัวหน้าพรรค จะมาแจ้งความหรือเปิดโปงอะไรไม่ได้แล้ว
นอกจากนั้นก็ย้ำตรงกันกับทนายตั้มว่า คดีข่มขืนอนาจารส่วนใหญ่ มักมีการใช้เงินต่อรองลับหลัง จนผู้เสียหายใจอ่อน กลับลำไม่เอาความ
ทนายคลายทุกข์จึงเตือนกองเชียร์ว่า ระวังเป็นหมา เห่าโฮ่งโฮ่ง
สอดรับกับท่าทีล่าสุดของนายปริญญ์ ในการเดินทางไปฝากขังศาล ดูเต็มไปด้วยความมั่นใจ
เจ้าตัวย้ำกับสื่อว่า ให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งก็อาจแปลความรู้สึกลึกๆ ภายในของเขาได้ว่า เขากำลังมั่นใจว่าจะรอดคดีนี้ เช่นเดียวกับที่เคยรอดคดีข่มขืน 2 คดี ที่ประเทศอังกฤษมาแล้ว
พร้อมปฏิเสธข่าว เขาใช้เงินกล่อมผู้เสียหาย ว่าไม่เป็นความจริง
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์เอง ใช้วิธีลอยตัวตีกรรเชียง ไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ ให้ชัดเจน อ้างเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับพรรค
ทั้งที่นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ เป็น “สายตรง” ที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งมากับมือ แบบไม่สนเสียงค้านของคนใน ฝ่ายที่รู้จักนิสัยใจคอของนายปริญญ์ว่าเป็นอย่างไร
จากข้อความ “ไลน์หลุด” ที่สมาชิกพรรคคุยกันเป็นการภายใน กรณีของนายปริญญ์ ก็ได้สร้างรอยร้าวในพรรคฝฃ
เพราะหลายคนรู้สึกว่า เดิมพันการเลือกตั้งในช่วงนี้ เกิดความเสียหายหนัก คนในพื้นที่หาเสียงลำบากแล้ว
ขณะที่สมาชิกบางคนเรียกร้องให้ตรวจสอบจริยธรรมนายปริญญ์ ก็โดนสวนจากคนใกล้ชิดหัวหน้าพรรค เหมือนจะสาวไส้กันเองว่า ภายในพรรคเอง ก็มีปัญหาคบชู้กันให้วุ่นไปหมด ไม่เห็นมีใครต้องโดนสอบจริยธรรม
แปลว่าสถานะในพรรคของนายปริญญ์เอง ก็ยังแน่นปึ้ก ได้รับการโอบอุ้มจากบรรดาแกนนำพรรคอย่างอบอุ่น
ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวของ “ไฮโซลูกนัท” นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย และ “แอนนา หทัยรัตน์” ผู้เป็นภรรยา ที่อ้างว่าเป็นเหยื่อของนายปริญญ์ด้วย ก็มีการเรียกร้องกดดันใส่นายปริญญ์อย่างต่อเนื่อง
แต่มองในมุมกลับ ยิ่งคนทั้งสองออกแอคชั่นคดีนี้มากเท่าไร ก็เหมือนกับทำลายน้ำหนักของคดีโดยไม่เจตนา เพราะจะกลายเป็นภาพของคดีการเมือง มากกว่าการมุ้ง
ในส่วนของตำรวจ ทีมงาน “ถอนหมุดข่าว” ตรวจสอบไปถึงเบื้องหลัง ว่าจะโอนอ่อนผ่อนตามไปกับอำนาจทางการเมืองและอำนาจเงินหรือไม่
ได้รับคำยืนยันจากนายตำรวจนครบาลระดับบิ๊ก ว่าขอให้สังคมมั่นใจในการทำหน้าที่ จะเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา
เพราะตำรวจนครบาลมองว่า คดีนี้คือโอกาสทอง ที่จะใช้กู้ชื่อเสียงและศักดิ์ศรีขององค์กรตำรวจ หลังจากเครดิตของตำรวจ ต้องล้มละลายยับเยิน จากพิษคดีแตงโม ไปแล้ว
---------------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1