xs
xsm
sm
md
lg

รอง ผบ.ตร.เคลียร์ทุกปมคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ยันไร้แทรกแซง ซัด “ปวีณ” ดิสเครดิต ทำลายภาพลักษณ์ประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - รอง ผบ.ตร.เคลียร์ทุกปม คดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ปี 58 ยันสำนวนรัดกุม ไร้แทรกแซง ขยายผลถึงปลายทาง จับแล้ว 120 คน เร่งรัดตามจับอีก 30 คน ซัด “ปวีณ” ออกมาเคลื่อนไหว ดิสเครดิตทำลายภาพลักษณ์ประเทศ ยันเดินหน้าปราบค้ามนุษย์จริงจัง เผย 4 เดือน ปี 65 ดำเนินคดีแล้ว 85 ราย สั่งฟ้อง 100 เปอร์เซ็นต์

วันนี้ (30 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศพดส.ตร.) เปิดเผยว่า วันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้ประชุมเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ โดยตลอดปีที่ผ่านมา ตร. เร่งรัดปราบปราม ดำเนินคดีเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง ให้ความรู้ตำรวจเรื่องข้อกฎหมาย แนวทางการดำเนินคดี และข้อปฏิบัติต่อเหยื่อค้ามนุษย์โดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน กำชับดำเนินการอย่างเด็ดขาดทุกคดี โดยเฉพาะคดีที่เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องร่วมกระทำผิด หรือมีส่วนรับผลประโยชน์ ต้องดำเนินคดีทั้งทางอาญา และทางปกครอง โดยไม่ละเว้น

“ตร.มุ่งเน้นการสืบสวนสอบสวนคดีค้ามนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งแสวงหาพยานหลักฐาน ทั้งด้านนิติวิทยาศาสตร์ เอกสาร เส้นทางการเงิน ฯลฯ ให้ครบ ครอบคลุม ขยายผลไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งขบวนการ จากต้นทางถึงปลายทาง สำนวนคดีต้องมีประสิทธิภาพ รัดกุม สามารถนำเข้าสู่การพิจารณาในชั้นศาล โดยที่ผ่านมา ศพดส.ตร.มีแนวทางปฏิบัติ ให้พนักงานสอบสวนหารือกับพนักงานอัยการ สำนักคดีค้ามนุษย์ ในการทำสำนวนการสอบสวนคดีค้ามนุษย์ทุกคดี ซึ่งเห็นได้ชัดจากสถิติการสั่งฟ้องทุกคดีในชั้นอัยการ” รอง ผบ.ตร.ระบุ
 
พล.ต.อ.รอย กล่าวต่อไปว่า ในปี 2564 ดำเนินคดีค้ามนุษย์ 188 คดี เป็นความรับผิดชอบของ ตร. 182 คดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ 6 คดี จำแนกเป็น ค้าประเวณี 132 คดี สื่อลามก 13 คดี ผลประโยชน์รูปแบบอื่น 7 คดี เอาคนลงเป็นทาส 2 คดี ขอทาน 2 คดี บังคับใช้แรงงาน 15 คดี ขูดรีดและอื่นๆ 11 คดี โดยทั้งหมด โดยอัยการสั่งไม่ฟ้อง 7 คดี ต่อมาในปี 2565 ที่เริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 พบว่า สถิติการจับกุม ดำเนินคดีมนุษย์เพิ่มขึ้น เพียงช่วง 4 เดือนแรกของปี มกราคม-เมษายน 2565 จับกุมได้แล้ว 85 คดี เป็นความรับผิดชอบของ ตร. 83 คดี ดีเอสไอ 2 คดี จำแนกเป็นคดีค้าประเวณี 63 คดี สื่อลามก 10 คดี ขอทาน 3 คดี บังคับใช้แรงงาน 7 คดี โดยยังไม่ปรากฏคดีที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง


พล.ต.อ.รอย กล่าวว่า นอกจากนี้ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ อาทิ กัมพูชา, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวม 664 ราย เป็นเหยื่อค้ามนุษย์ 279 ราย ไม่เป็นเหยื่อค้ามนุษย์ 320 ราย อยู่ระหว่างคัดแยก 65 ราย ขณะเดียวกัน ดำเนินคดีเรือประมงผิดกฎหมาย 13 ลำ จากการตรวจสอบ 2,116 ลำ นอกจากนี้ ยังตรวจสอบคดีลูกเรือตกน้ำในช่วงปี 2563-2564 จำนวน 231 ราย พบลูกเรือถูกทำร้ายร่างกายก่อนตกน้ำเสียชีวิต 4 ราย แต่ยังไม่พบว่าเข้าข่ายการค้ามนุษย์
 
พล.ต.อ.รอย ยังได้ชี้แจงคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา ในพื้นที่ สภ.ปาดังเบซาร์ จ.สงขลา ในคดีอาญา ที่ 148/2558 หลังสำนักข่าวอัลจาซีรา นำเสนอการให้สัมภาษณ์ ของ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ หนึ่งในคณะพนักงานสอบสวนคดี ว่า คดีนี้เกิดขึ้นในปี 2558 ในพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา พื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 เนื่องจากเป็นคดีที่มีความผิดนอกราชอาณาจักร อัยการสูงสุด เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ มีพนักงานอัยการร่วมสอบสวน 12 ท่าน ในส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่งตั้งพนักงานสอบสวน 133 นาย มี พล.ต.อ.เอก อังสนานนนท์ รอง ผบ.ตร.ในขณะนั้นเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ และกำกับดูแลคดี มีผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ร่วมเป็นพนักงานสอบสวน

“คดีนี้ เริ่มเมื่อ 3 พฤษภาคม 2558 ต่อมาเมื่อ 28 พฤษภาคม 2558 พล.ต.ต.ปวีณ ซึ่งขณะนั้นเป็นรอง ผบช.ภ.8 เข้าร่วมเป็นคณะพนักงานสอบสวน ตามหนังสือคำสั่งของอัยการสูงสุด คดีนี้ใช้เวลา 51 วัน ในการทำสำนวนจนส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด ในวันที่ 22 มิถุนายน 2558 ขยายผลจนพบผู้เกี่ยวข้อง ผู้ต้องหา 155 คน เสียชีวิตไปแล้ว 2 ราย ออกหมายจับ 153 หมาย มีเจ้าหน้าที่ของรัฐตกเป็นผู้ต้องหา 22 คน ประกอบด้วย ทหาร 5 นาย, ตำรวจ 4 นาย, ปกครอง 12 ราย และเจ้าหน้าที่อนามัย 1 ราย จับกุมแล้ว 120 หมาย ถอนหมาย 3 หมาย เนื่องจากเสียชีวิตระหว่างหลบหนี คงเหลือ 30 หมายจับ ที่ยังหลบหนี ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ส่งฟ้องทั้งหมด” รอง ผบ.ตร.กล่าว


พล.ต.อ.รอย กล่าวว่า ที่ผ่านมา เร่งรัดติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 30 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นเพียงผู้สนับสนุน ช่วยเหลือในการกระทำความผิด ประกอบด้วย ชาวไทย และคนต่างด้าว จากการสืบสวนทราบส่วนใหญ่หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จึงมอบหมายให้บช.ภ.9 ตำรวจสอบสวนกลาง และกองการต่างประเทศ ร่วมกันประสานประเทศที่เกี่ยวข้อง ติดตามผู้ต้องหามาดำเนินคดี ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 มีนาคม และ 24 มีนาคม ที่ผ่านมาก็ติดตามจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการนี้ได้เพิ่มอีก 2 ราย ยืนยันว่า คดีนี้ตำรวจยังคงเกาะติด ไม่ได้ละเลย

ส่วนกรณีที่ พล.ต.ต.ปวีณ ระบุว่า ถูกกดดันให้ช่วยเหลือ พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ผู้ต้องหารายสำคัญ ในคดีนี้ เพื่อให้ได้รับการประกันตัว พล.ต.อ.รอย กล่าวว่า คดีนี้ทำในรูปแบบคณะกรรมการ มีทั้งนายตำรวจผู้ใหญ่ในตำแหน่งสูงกว่า พล.ต.ต.ปวีณ และอัยการเป็นทีมพนักงานสอบสวน การพิจารณาในการปล่อยชั่วคราวอยู่ในอำนาจของพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ประกอบกับเป็นคดีร้ายแรง และมีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต มีผู้ต้องหาเป็นจำนวนมาก จึงต้องปฏิบัติให้เท่าเทียมกัน จึงไม่มีผู้ต้องหารายใดได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวน การกล่าวอ้างว่าถูกกดดันขอให้ช่วยเหลือให้ได้รับการประกันตัว จึงเป็นไปไม่ได้ อีกทั้ง พล.ต.ต.ปวีณ ไม่มีอำนาจในการอนุญาตให้ประกันตัว นอกจากนี้ คดีนี้รัฐบาลให้ความสำคัญ และช่วงนั้นไทยก็ถูกจับตาเรื่องการจัดระดับ Trafficking in Persons (TIP) Report ซึ่งตอนนั้นไทยอยู่ในระดับเทียร์ 3 ทำให้คดีนี้เป็นที่จับตาจากหลายฝ่ายอย่างมาก เพราะส่งผลกระทบต่อการจัดระดับฯ ซึ่งภายหลังคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา ที่เจ้าหน้าที่ไทยขยายผลจับกุบผู้ต้องหาจำนวนมาก ประกอบกับปัจจัยอื่นๆ ส่งผลให้การจัดระดับ TIP report ของไทยขยับดีขึ้นอยู่ที่ระดับเทียร์ 2 ส่วนที่ พล.ต.ต.ปวีณ ระบุว่า ถูกกดดัน คุกคามข่มขู่นั้น พล.ต.ต.ปวีณ เป็นเพียงหนึ่งในคณะพนักงานสอบสวนเท่านั้น ไม่มีอำนาจเด็ดขาดในการสั่งคดี ผู้ควบคุมกำกับดูแลในคดีนี้ คือ พล.ต.อ.เอก ตามการมอบหมายของอัยการสูงสุด

สำหรับกรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งนั้น รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับชั้นนายพล เป็นอำนาจการพิจารณาให้ความเห็นชอบของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)

“มาพูดโดยให้ข้อมูลฝ่ายเดียว ไม่มีอะไรรองรับ ซึ่งข้อเท็จจริงคดีนี้ได้ชี้แจงไปหมดแล้ว แล้วทำไมต้องมาพูดในช่วงนี้ หวังผลประโยชน์อะไร ต้องการให้กระทบภาพลักษณ์ของประเทศหรือไม่ ทำให้เสียหาย เจ้าหน้าที่ตั้งใจทำงานกันทุกฝ่าย ทั้งกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน ตำรวจ อัยการ เราตั้งใจทำงานปราบปรามการค้ามนุษย์ แต่มาถูกดิสเครดิตโดยคนคนเดียว มาพูดโดยไม่มีอะไรรองรับ แล้วมาเป็นประเด็น มันไม่ใช่ แต่ถ้าบอกว่าตรงไหนยังไม่ทำ ก็บอกมา จะได้ไปทำ” พล.ต.อ.รอย ระบุ
กำลังโหลดความคิดเห็น