ผบช.น.ประชุมชุดคลี่คลายคดีกู้ภัย 2 มูลนิธิ ยกพวกทะเลาะวิวาท ยิงกันเสียชีวิต เผย จับผู้ร่วมก่อเหตุได้แล้ว 3 เชื่อมือยิงอยู่ใน 6 รายที่เหลือตามหมายจับ
วันนี้ (19 เม.ย.) ที่ สน.ทองหล่อ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อคลี่คลายคดีอาสากู้ภัยสยามรวมใจ ทะเลาะวิวาทกับมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดใกล้แยกเกษมราษฎร์ ย่านคลองเตย วันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา
โดยภายหลังการประชุม พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า เหตุที่เกิดขึ้นแยกแยะเป็นประเด็นไป ในส่วนการดำเนินคดีเบื้องต้น ส่วนที่ 1 ดำเนินคดีแจ้งความเท็จก่อน ก่อนเกิดเหตุมีการแจ้งความเท็จหลอกล่อเป็นส่วนหนึ่งในการทะเลาะวิวาท ส่วนที่ 2 คือ การมั่วสุมมีอาวุธ มีการออกหมายจับแล้วทั้งหมด 9 ราย ก่อนหน้านั้น จับมาแล้ว 2 ราย ช่วงเช้าปล่อยแถวระดมจับมาได้อีก 1 ราย เหลือที่ 6 ราย ส่วนที่ 3 การฆ่าคนตาย ต้องสอบปากคำเพิ่มเติมกับพยานหลักฐานที่ได้มา สุดท้ายการทำร้ายเจ้าพนักงานได้มามอบตัวเจ้าหน้าที่แล้ว 2 ราย ส่วนมือยิงที่ยังจับไม่ได้ เชื่อว่า อยู่ใน 6 รายที่เหลือ ต้องให้ฝ่ายสืบสวนพิสูจน์ทราบให้ชัดเจน แต่ยังไม่มีการออกหมายจับ เบื้องต้นได้ออกหมายจับในข้อหามั่วสุมไว้ก่อน ถ้าพยานหลักฐานไปถึงก็สามารถนำไปสู่การออกหมายจับได้
การป้องกันเหตุไม่ให้เกิดขึ้นอีกนั้น เรียนไปยังมูลนิธิต่างๆ เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นที่จะต้องเข้มงวดกวดขันเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมา เหมือนผู้ช่วยเจ้าพนักงานอยู่แล้ว แต่บางครั้งการรวมตัวกัน ตำรวจอาจต้องบังคับใช้กฎหมาย เช่น วิทยุ สัญญาณไฟจราจร ทุกหน่วยที่มาต้องเป็นไปตามกฎหมาย ฝากไปยังผู้บังคับการจราจร ผู้บังคับการสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ และฝ่ายป้องกันปราบปรามในพื้นที่ช่วยตรวจสอบ
พล.ต.ท.สำราญ กล่าวอีกว่า ทุกคนมาช่วยเหลือประชาชน ไม่อยากให้ก่อความรุนแรงในลักษณะนี้ ทุกคนมีจิตอาสา และพื้นที่ก็ทราบว่า มีการแบ่งกันชัดเจน ก็คงต้องมีมาตรการต่อไป บช.น.ต้องเพิ่มความเข้มในการตรวจตรา ทุกมูลนิธิต้องปฏิบัติตามกฎหมาย พกอาวุธมาไม่ได้ โดยในคดีนี้ เบื้องต้นออกหมายจับไปแล้ว 9 ราย ถ้ามีพยานหลักฐานเพิ่มก็สามารถดำเนินเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ตำรวจ 191 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัยที่อยู่ในชุมชนคลองเตย และอีกหลายจุดที่คาดว่าคนร้ายหลบหนีอยู่