ผบช.น. สั่ง ผกก.สน.ทองหล่อ เร่งตรวจสอบเหตุกู้ภัย 2 มูลนิธิ ยกพวกทะเลาะวิวาทถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย หน้าห้างโลตัสพระราม 4
วันนี้ (18 เม.ย.) ที่ สน.ทองหล่อ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. เปิดเผยว่า ได้สั่งการ พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัล ผกก.สน.ทองหล่อ เร่งตรวจสอบเหตุ 2 กู้ภัยเปิดศึกทะเลาะวิวาท ที่ห้างเทสโก้โลตัส พระราม 4 เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ในขณะเกิดเหตุอาสากู้ภัยกว่า 80 คน พร้อมรถยนต์กู้ภัย 20 คัน จอดขวางปิดการจราจร ที่แยกเกษมราษฎร์ ทำให้ตำรวจไม่สามารถเข้าไปถึงที่เกิดเหตุได้ จากนั้นเจรจากับอาสาป่อเต็กตึ๊งให้อยู่ในความสงบ แต่มีบางส่วนเข้าในลานจอดรถของห้าง เพื่อมาหากลุ่มอาสาสยามรวมใจ ต่อมาได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 4-5 นัด กลุ่มอาสาสมัครป่อเต็กตึ๊งแตกกระเจิงกลับมาที่แยกเกษมราษฎร์ มีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เสียชีวิต 1 ราย เป็นกลุ่มอาสาป่อเต็กตึ๊ง
พ.ต.อ.ดวงโชติ กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเวลา 05.00 น.ที่ผ่านมา ตนลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเรียกกำลังตำรวจสนับสนุนเพิ่มเติม โดยมีตำรวจ 191 รวมทั้งหมด 60 นาย เพื่อเข้าไปเจรจาเปิดการจราจรหากไม่สำเร็จจะบังคับใช้กฎหมาย ใช้เวลาประมาณ 10 นาที พูดคุยจนได้รับความพึงพอใจ จึงยอมเปิดการจราจรตามปกติและได้กลับที่ตั้ง ขณะนั้นมีการด่าทอ ขว้างปาสิ่งของใส่ตำรวจ และทำร้ายร่างกาย ส.ต.อ.กิตติศักดิ์ ศรีชัย ผบ.หมู่ (สส.) สน.ทองหล่อ ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า และนิ้วมือ เบื้องต้นฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุ 2 ราย ส่วนผู้ที่ก่อเหตุที่เหลืออยู่ระหว่างขอหมายจับ และติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
นอกจากนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสมบูลย์ ขวัญอ่วม หัวหน้าแผนกบรรเทาสาธารณภัยฯ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พร้อมด้วย นายขจรศักดิ์ คงอินทร์ ผู้ควบคุมหน่วยกู้ภัย แผนกบรรเทาสาธารณภัยฯ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นายจิรัฐฒิกร บรรจงกิจ ผู้ควบคุมหน่วยกู้ชีพ แผนกบรรเทาสาธารณภัยฯ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกันแถลงชี้แจงเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่าง 2 มูลนิธิ ป่อเต็กตึ๊ง และสยามรวมใจ ทำให้ นายชุษณะ โชติพรม อายุ 25 ปี เจ้าหน้าที่รถ แผนกบรรเทาสาธารณภัยอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก เสียชีวิต โดยเหตุเกิดขึ้นที่หน้าปั๊มน้ำมันเชลล์ สามแยกเกษมราษฎร์ ถนนพระราม 4 ช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา
โดย นายสมบูลย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเรื่องเดิมที่มีคนถูกปลดจากอาสาสมัครป่อเต็กตึ๊ง เนื่องจากเขาเห็นแก่ผลประโยชน์มากเกินไป และได้มีการทำร้ายร่างกายพนักงานด้วย ซึ่งพอโดนปลดก็ได้ไปรวมตัวรับคนเจ็บเหมือนเดิม และยังใส่ชุดของป่อเต็กตึ๊งอยู่ จากนั้นได้ไปสมัครงานเป็นอาสาของมูลนิธิสยามรวมใจ และได้มาเปิดที่พื้นที่จุดทองหล่อ และได้เอาอาสาสมัครในพื้นที่อื่นๆ อย่างสายไหมมาวิ่งในพื้นที่ทองหล่องก็เลยมีปัญหามาตลอด
นายสมบูลย์ กล่าวอีกว่า ซึ่งทางเราได้หลีกเลี่ยงการปะทะมาโดยตลอด และทางศูนย์เอราวัณก็ได้มีการกำชับมาว่าให้ทางมูลนิธิสยามรวมใจถอนกำลังอาสาออกจากพื้นที่ทองหล่อ และระงับการเปิดจุดพื้นที่นี้ขึ้นมา ซึ่งทางเราถูกกระทำมาโดยตลอด เช่น แจ้งงานเท็จ ขับรถปาดหน้า เตะกล่องยา เป็นต้น จนมาถึงเมื่อวานนี้ ตนได้สั่งให้ทีมงานอาสาสมัครเข้าไปถ่ายภาพ เพราะมีตราป่อเต็กตึ๊งอยู่ที่รถและเต็นท์ ทางสยามรวมใจก็ได้ขอให้วิ่งงานร่วมกัน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะทางศูนย์เอราวัณมีคำสั่งออกมาแล้ว ที่ได้มีการแบ่งงานกันเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นเขาก็ได้ปล่อยเหตุเท็จมา ทางเราก็ได้ออกไปวิ่งงาน เหมือนหลอกเราเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุ ก็เกิดการโต้เถียงกัน ก็เกิดการปะทะกันขึ้นมา และทางเขาเองก็มีอาวุธแต่ทางเราไม่มีอาวุธเลย เพราะเป็นคำสั่งของทางมูลนิธิอยู่แล้วที่จะทำงานช่วยเหลือสังคมจริงๆ พนักงานทุกคนอยู่ในระบบระเบียบทุกคน
ด้าน นายจิรัฐฒิกร กล่าวยืนยันว่า ทางศูนย์เอราวัณได้ให้สยามรวมใจหยุดการปฏิบัติหน้าที่ที่พื้นที่ทองหล่อ ซึ่งพื้นที่ทองหล่อมีอาสาวิ่งงานอยู่แล้ว คือ ป่อเต็กตึ๊ง กับ ร่วมกตัญญู โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราสูญเสียและไม่อยากให้เกิดขึ้น ทางเราพยายามอดทนถึงที่สุด ซึ่งขณะเกิดเหตุก็มีตำรวจ สน.ทองหล่อ ยืนยันว่า ทางเราถูกยิงออกมา ส่วนภาพที่ออกมาว่าเราไปทำร้ายรถหรือสิ่งของ นั่นเป็นเพราะเราถูกกระทำก่อนจนน้องอาสาเสียชีวิต ส่วนที่ต้องปิดถนนก็ต้องขอโทษพี่น้องประชาชนด้วย ซึ่งการที่เราทำแบบนั้นเพราะเราต้องการกดกันผู้ก่อเหตุไม่ให้หนี อยากให้มามอบตัว แต่เขาก็หนีออกไป เพราะเขามีการวางแผน ซึ่งทางเราก็มีหลักฐานชัดเจน