อัยการคดีศาลแขวงนนทบุรี ส่งคืนตัว“กระติก” ผู้ต้องหาแจ้งข้อความเท็จ คดี “แตงโม” ตกเรือเสียชีวิต ให้พนักสอบสวนสอบปากคำเพิ่มเติม ชี้ คดีมีความยุ่งยากซับซ้อน จึงยังไม่ส่งฟ้องตามคำรับสารภาพของผู้ต้องหา
วันนี้ (5 เม.ย.) ที่สำนักอัยการคดีศาลแขวงนนทบุรี น.ส.สาวิตรี สัมฤทธิ์สุขโซค อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงนนทบุรี, นายชัยวัฒน์ โล่วณิชเกียรติกุล อัยการอาวุโส, นายวีรพล โมระกรานต์ อัยการอาวุโส, นายบัณฑิต กองทิพย์, น.ส.ชนิสรา ถนอมทุน, นายถิรวัฒน์ โชติกมาศ, นายฮิติพันธ์ ศุภภาสวัฒน์, น.ส.ฐนนันท์ มาบุญมี และ น.ส.ชิสา ฉัตรงามอภิชาติ พนักงานอัยการ ได้ประชุมพิจารณาคดีในเบื้องต้นแล้ว แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่า ตามที่รับคดี น.ส.อิจศรินทร์ หรือ กระติก จุฑาสุขสวัสดิ์ ผู้ต้องหา พร้อมบันทึกคำให้การรับสารภาพของผู้ต้องหาจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี คดีระหว่าง พ.ต.ท.สมุทร์ เกตุยา ผู้กล่าวหา กับ น.ส.อิจศรินทร์ หรือ กระติก จุฑาสุขสวัสดิ์ ผู้ต้องหา ข้อหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เวลาประมาณ 19 นาฬิกา ที่ สภ.เมืองนนทบุรี ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
ในชั้นสอบสวน น.ส.อิจศรินทร์ หรือ กระติก ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ
พนักงานสอบสวนจึงได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมบันทึกคำให้การรับสารภาพส่งให้พนักงานอัยการคดีศาลแขวงนนทบุรีพิจารณา
เมื่อได้รับบันทึกฟ้องวาจาพร้อมตัวผู้ต้องหาแล้ว พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงนนทบุรี พนักงานอัยการ ได้ประชุมพิจารณาคดีในเบื้องต้นแล้วมีความเห็นว่า
แม้คดีนี้พนักงานสอบสวนมีอำนาจนำผู้ต้องหามายังพนักงานอัยการ เพื่อฟ้องศาล โดยมิต้องสอบสวนและให้ฟ้องด้วยวาจา ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 20 ก็ตาม เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสำคัญที่สังคม สื่อมวลชน ตลอดจนประชาชนให้ความสนใจ เพราะคดีนี้เป็นการกล่าวหาผู้ต้องหาที่ให้การกับพนักงานสอบสวน สืบเนื่องจากการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา หรือ แตงโม พัชรวีระพงศ์ ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงที่สังคมและประชาชนรับทราบจากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ว่า มีผู้เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตคนอื่นและข้อหาอื่นอีกอยู่ในเหตุการณ์ ในชั้นนี้ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงนนทบุรียังไม่ทราบข้อเท็จจริงอื่นๆ ซึ่งอาจเป็นคดีตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. 2563 รวมทั้งเพื่อให้การอำนวยความยุติธรรมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และคดีนี้เป็นคดีที่มีข้อเท็จจริงที่ยุ่งยากและซับซ้อน ตามหนังสือเวียนสั่งการของสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ อส (สฝปผ) 0018/ว 169 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2544 ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติ ว่า หากต้องด้วยกรณีดังกล่าว แม้ผู้ต้องหาจะให้การรับสารภาพ แต่พนักงานอัยการจะไม่ยื่นฟ้องตามบันทึกคำให้การรับสารภาพของผู้ต้องหา โดยให้คืนตัวผู้ต้องหาพร้อมบันทึกคำให้การรับสารภาพ ให้พนักงานสอบสวนเพื่อทำการสอบสวนจนเสร็จสิ้นกระบวนการสอบสวน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเสียก่อน และเมื่อทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ให้พนักงานสอบสวน ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการพิจารณาเพื่อมีคำสั่งต่อไป
ดังนั้น ในวันนี้ สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงนนทบุรี จึงมีคำสั่งคืนตัว น.ส.อิจศรินทร์ หรือ “กระติก” จุฑาสุขสวัสดิ์ ผู้ต้องหา พร้อมบันทึกคำให้การรับสารภาพแก่พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการต่อ เมื่อพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเสร็จสิ้น และได้ส่งตัวผู้ต้องหา พร้อมสำนวนคดีให้กับพนักงานอัยการสำนักงานอัยการสูงสุด และจะได้แถลงให้ทราบต่อไป
ต่อมาวันเดียวกันเมื่อเวลา 12.10 น.
พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ได้ยื่นคำร้องขอผัดฟ้อง ครั้งที่ 1 น.ส.อิจศรินทร์ หรือ กระติก จุฑาสุขสวัสดิ์ ในข้อหาข้อหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เวลาประมาณ 19 นาฬิกา ที่ สภ.เมืองนนทบุรี ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
โดยผู้ต้องหาไม่ค้าน ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ผัดฟ้องผู้ต้องหามีกำหนด 6 วัน นับจากวันที่ 5 เมษายน ถึงวันที่ 10 เมษายน 2565
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการที่พนักงานสอบสวนนำตัว น.ส.อิจศรินทร์มาศาลเเขวงนนทบุรี เป็นเพียงการผัดฟ้องเท่านั้น ซึ่งตัวผู้ต้องหาได้รับการปล่อยชั่วคราวในชั้นพนักงานสอบสวนไปก่อนหน้านี้เเล้ว ตัวผู้ต้องหาจึงไม่ได้อยู่ในการควบคุมตัวของศาลเเละไม่ต้องยื่นประกันตัวต่อศาลใหม่เเต่อย่างใด สำหรับคดีนี้พนักงานสอบสวนสามารถผัดฟ้องผู้ต้องหาตามกฎหมายได้ไม่เกิน 5 ครั้ง ครั้งละ 6 วัน เท่ากับว่า ถ้าภายใน 30 วัน ยังไม่สามารถยื่นฟ้องผู้ต้องหาได้ ตามกฎหมายจะต้องขออนุญาตอัยการสูงสุดยื่นฟ้องผู้ต้องหา
ทั้งนี้ ศาลแขวงนนทบุรี มีเขตอำนาจตลอดท้องที่จังหวัดนนทบุรีในคดีอาญา ซึ่งกฎหมายกำหนดอัตราโทษอย่างสูงไว้ให้จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และคดีแพ่งที่เป็นคดีมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 300,000 บาท คดีอาญาและคดีแพ่งนอกเหนือจากนี้ในเขตจังหวัดนนทบุรีอยู่ในอำนาจการพิจารณาพิพากษาของศาลจังหวัดนนทบุรี