รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2565 นำเสนอรายงานพิเศษ งานเข้า! ทิดสมปอง เจอ“เจ๊ติ๋มเอฟเฟกต์” ยื่นคุกให้พี่สาวแท้ๆ
ต้องเรียกว่าเป็น “เจ๊ติ๋มเอฟเฟกต์” โดยแท้ วิบากรรมที่รุกไล่ “ทิดสมปอง นครไธสง” บัดนี้มาถึงตัวแล้ว
เมื่อกรมป่าไม้แจ้งดำเนินคดีกับ นางกิตติยา นามวัน พี่สาวของทิดสมปอง บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนกว่า 26 ไร่ ที่ป่าซำผักหนาม อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ
ตัวเลข 26 ไร่ นับว่ามีความหมายมากๆ ต่อพี่สาวของทิดสมปอง เพราะก่อนหน้านี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พูดไว้ตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมาว่า โทษของการบุกรุกป่า ถ้าต่ำกว่า 25 ไร่ จะโทษเบา
แต่ถ้าเกิน 25 ไร่เมื่อไรละก็ จะกลายเป็นโทษหนัก จำคุก 4 ปี ปรับนับล้านบาท
ที่ว่าเป็น “เจ๊ติ๋มเอฟเฟกต์” เพราะเจ๊ติ๋ม ทีวีพูล หรือนางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย เจ้าแม่วงการบันเทิงพันล้าน เป็นคนเปิดโปงออกมาเอง
ว่า ตอนยังเป็นพระมหาสมปอง ได้ก่อหนี้นอกระบบถึง 10.9 ล้านบาท เป็นการกู้เพื่อไปซื้อที่ดินป่าจำนวนถึง 300 ไร่ ให้ญาติพี่น้องทำกิน
สวนทางกับที่เจ้าตัวให้ข่าวอย่างหล่อเลย ประมาณว่า เป็นหนี้จากการสร้างสาธารณประโยชน์ โน่นนี่นั่น
ตอนทิดสมปองโร่มาพึ่งพิงเจ๊ติ๋ม ก็เพราะเห็นช่องทางทำมาหากิน เจ๊ติ๋มเองก็เห็นใจ คิดค้นโมเดลทำเงินให้ทิดสมปอง ในการจัดรายการต่างๆ แลกเงินเดือนถึง 250,000 บาท ทั้งให้เบิกล่วงหน้าไป 1 ล้านบาท ไม่รวมเสื้อผ้าแพงๆ ไวน์เลิศรส
เจ๊จัดให้ สไตล์ “แม่บุญทุ่ม” รักใครรักจริง เกลียดใครเกลียดแรง พอทิดสมปองหักดิบ ขนข้าวของหนีไปโดยไม่บอกกล่าว ทิ้งไว้แต่รูปถ่ายลายเซ็นเจ๊ติ๋ม รูปถ่ายยังเมินทำให้เจ๊โกรธจนหายใจแทบไม่ออก
แต่แค่วันเดียว เจ๊ติ๋มก็ตั้งหลักได้ เปิดปฏิบัติการทวงคืน ด้วยการแถลง แฉแง่มุมต่างๆ ของทิดเซเลบ ซึ่งสรุปออกมา เป็นภาพของ “คนหิวเงิน”
ที่เจ๊ติ๋มจัดหนักก็คือ ข้อมูลลึก อดีตพระมหาสมปองเคยไปกว้านซื้อที่ป่าสงวน และที่ดิน ส.ป.ก. ร่วม 300 ไร่
คนที่รับลูกทันควัน เพราะบอลไหลมาเข้าเท้าแล้ว ก็คือ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เขาบุกไปยื่นร้องเรียนต่ออธิบดีกรมป่าไม้ และเลขาธิการสำนักงาน ส.ป.ก. ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นการด่วน
เรื่องนี้ก็ต้องนับว่าเป็นกรรมเก่าของทิดสมปองเช่นกัน เพราะสมัยจับคู่เป็นตลกในผ้าเหลืองร่วมกับ พส.ไพรวัลย์ ไลฟ์สดหาเงินทั้งยังเป็นพระภิกษุ นายศรีสุวรรณ จรรยา ก็ยื่นร้องเรียนแหลก ถึงขั้นให้ฉายา 2 พส.ว่า “อลัชชีชอบเล่นโซเชียล”
พอพระมหาสมปอง สึกออกมา งานแรกๆ ของเขาก็คือ ไลฟ์สดท้าชกมวยคาดเชือกกับนายศรีสุวรรณ ประกาศจะโอนให้เลยสดๆ 2 แสนบาท ขอให้กล้ามาชกกัน
เรียกว่าออกลูกนักเลง ผสมลูกกร่าง ซึ่งเหล่า FC ก็เชียร์กันสนุก แต่ก็มีคนสวนทิดสมปองอย่างหวังดี เขาคือ “วัน อยู่บำรุง” เจ้าของสโลแกน “ใจถึงพึ่งได้
”
พี่วันเตือนสติน้องสมปอง ให้ใจเย็นๆ ระวังชีวิตจะพังเพราะใจร้อน เหมือนที่เขาเคยเป็นมาก่อน เรื่องท้าชกมวยดังกล่าว ก็เลยเงียบไป
แต่คำเตือนของวัน อยู่บำรุง นั้นเข้าเป้า เพราะพอเจ๊ติ๋ม ทีวีพูล ลุยแฉปมทำผิดกฎหมายรุกป่าสงวน นายศรีสุวรรณที่เคยถูกทิดสมปองเย้ยหยัน ก็เลยตามกระทืบซ้ำ ไล่บี้คดีรุกป่า
จนในที่สุด พี่สาวของทิดสมปอง ต้องกลายเป็นผู้ต้องหา คดีที่มีโทษร้ายแรง
เหมือนว่าความอยากได้ใคร่มีของทิดสมปอง ได้หยิบยื่นคุกให้พี่สาวตัวเอง ซึ่งนี่ก็แค่คดีเบื้องต้นเท่านั้น อาจมีตามมาอีกหลายป่า หลายกระทง
ความซวยที่มาลงพี่สาว เกิดจากพฤติกรรมของทิดสมปอง เอาเงินกว้านซื้อที่ดินป่าหลายๆ แปลงจากชาวบ้าน เอามารวมเป็นแปลงเดียวกัน จนเนื้อที่เกินหลัก 25 ไร่ เข้าข่ายเป็นนายทุน มีโทษสถานหนักทันที
เมื่อมองย้อนไป ถ้ามหา 7 ประโยค ยึดหลักธรรมเป็นเครื่องนำทางชีวิต ความยุ่งยากวุ่นวายคงไม่มาราวีเช่นนี้
ไม่ว่าจะการไปกู้เงินนอกระบบทั้งยังเป็นพระ การไปกว้านซื้อที่ดินป่าที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ การไปพึ่งพิงผู้ใหญ่แล้วดันชิมแล้วชิ่ง การตอบโต้นักร้องด้วยลูกนักเลง
ล้วนแต่เป็นความมั่นใจเกินไป ของคนที่ยังไม่รู้จักโลกจริงๆ
