เชียงใหม่ - ตำรวจ ปทส.สนธิกำลัง ตชด. เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ สืบสวนภาค 5 ตำรวจสันกำแพง ตรวจจับบ่อดินเถื่อน หลังชาวบ้านร้องถึง กมธ.สภาผู้แทนราษฎร ระบุลอบขุดบ่อดินมานานกว่า 10 ปี
วันนี้ (7 มี.ค. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.จิรัฏฐวัฒน์ กิจรุ่งเรืองเดช รองสารวัตร กก.4 บก.ปทส.นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ กก.4 บก.ปทส. ตำรวจตระเวนชายแดน 33 ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษสืบสวนภาค 5 ตำรวจ สภ.สันกำแพง และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบวกค้าง เข้าตรวจสอบบ่อดินบ้านกอสะเรียม ต.บวกค้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
หลังชาวบ้านในพื้นที่ อ.สันกำแพง ได้ร้องเรียนคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร ว่ามีนายทุนลักลอบทำบ่อดินมานานกว่า 10 ปี กระทั่ง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผบก.ปทส.และ พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส.ตรวจสอบข้อเท็จจริง
จากการตรวจสอบพบรถแบ็กโฮ 2 คันกำลังขุดตักดินใส่รถบรรทุกดินที่รอรับดินเพื่อนำไปส่งขาย เบื้องต้นพื้นที่ดังกล่าวถูกขุดดินลึกกว่า 20 เมตร เมื่อตรวจสอบข้อมูลจากระบบดาวเทียมพบมีการทำบ่อดินถึง 65 ไร่ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวคนขับรถแบ็กโฮ 2 คน และคนขับรถบรรทุก 4 คน มาสอบปากคำก่อนจะแจ้งข้อหา ร่วมกันทำการขุดดินโดยมีความลึกจากระดับพื้นดินเกิน 3 เมตรโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และร่วมกันตั้งโรงงานจำพวกที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
รองสารวัตร กก.4 บก.ปทส.เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลกับเทศบาลบวกค้างพบว่ามีการขุดบ่อดินโดยได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องมานาน ตั้งแต่จังหวัดเชียงใหม่ ได้ประกาศผังเมืองเมื่อปี 2555 ซึ่งส่งผลให้พื้นที่ ต.บวกค้าง อ.สันกำแพง ไม่สามารถประกอบกิจการอุตสาหกรรมบางประเภท ทำให้บ่อดินแห่งนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการได้ แต่เจ้าของบ่อดินกลับดำเนินกิจการเรื่อยมานานกว่า 10 ปี
และจากการตรวจสอบยังพบว่าบ่อดินแห่งนี้เป็นของนายทุนรายหนึ่งในพื้นที่ อ.สันกำแพง ที่ได้กว้านซื้อที่นาของชาวบ้านในพื้นที่ ลักษณะไม่มีการโอนที่ดินเพื่อป้องกันการถูกดำเนินคดีเนื่องจากขุดบ่อดินโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งหลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวน สภ.สันกำแพงจะได้เรียกตัวเจ้าของที่มารับทราบข้อกล่าวหาทั้งร่วมกันทำการขุดดินโดยมีความลึกจากระดับพื้นดินเกิน 3 เมตรโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และร่วมกันตั้งโรงงานจำพวกที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และการกระทำความผิด ตามมาตรา 37 แห่งประมวลรัษฎากร หรือเลี่ยงภาษีเพิ่มเติมอีกกระทง
นายต่อพงศ์ พิมพิสาร นิติกรชำนาญการ สำนักปลัดเทศบาล ต.บวกค้าง เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะมีการตรวจสอบ ทางเทศบาล ต.บวกค้างได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่ทำการเกษตรรอบบ่อดินว่าได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการบ่อดิน ทั้งเรื่องน้ำจากลำเหมืองที่ไหลลงสู่บ่อดินทำให้เกษตรกรไม่สามารถเพาะปลูกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงฤดูแล้ง
ซึ่งตรวจสอบแล้วพบว่าลำเหมืองสาธารณะหายไปกับบ่อดินรวม 2 สาย เนื่องจากเจ้าของบ่อดินได้กว้านซื้อที่นาของชาวบ้านคร่อมลำเหมืองสาธารณะและทำการขุดดินขายจนกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ นอกจากนี้ยังพบว่าพื้นที่ดังกล่าวถูกขุดบ่อดินเป็นวงกว้าง 85,715 ตารางเมตร ความลึกประมาณ 20 เมตร ดินที่ถูกขุดออกไปมากถึง 1,714,317 ลูกบาศก์เมตร
