สาวสุดดีใจ รถกระบะหายตำรวจตามคืนมาได้

สาวกาฬสินธุ์สุดดีใจ หลังเอารถกระบะไปจำนำญาติแล้วรถหาย มานานกว่า 5 เดือน ตำรวจทางหลวงอยุธยาติดตามนำรถคืนมาได้

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 65 นางสาวสัชฌกร ศรีสมบัติ อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 419/1 ถ.ทุ่งศรีเมือง ต.กาฬสินธุ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย ญาติๆ ได้เดินทางมาที่ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. เพื่อเข้าพบ พ.ต.ท.ธนศักดิ์ ปราสาททอง สว..ทล.1 กก.1 บก.ทล. ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.วัชรพล วชิรกุลฑล รอง สว.ส.ทล.1 กก.1บก.ทล. ร.ต.อ.อรรณพ ฉิมพลี ร.ต.ท.ประธาน จตุพันธ์ สว.(ป.) ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา ได้ตรวจยึดรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ฟอร์ต สีขาว หมายเลขทะเบียน กธ 1483 กาฬสินธุ์ โดยตรวจยึดรถได้ที่บริเวณ กม.1-2 ทล.32 (ถนนสายเอเซีย ขาเข้า) ต.เชียงรางน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี นายสิทธิเจตน์ วงศ์ใหญ่ตรวงลาภ อายุ 49 ปี เป็นผู้ขับขี่

จากการสอบถาม นางสาวสัชฌกร ศรีสมบัติ อายุ 27 ปี เจ้าของรถ บอกว่า ได้นำไปจำนำในราคา 80,000 บาท ไว้กับ นางสาวโสภิต กรรณิการ์ โดย นางสาวโสภิต ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 10 ต่อเดือน ต่อมา วันที่ 7 พ.ย. 64 ด้าน นางสาวโสภิต ติดต่อผู้เสียหาย เพื่อที่จะให้นำเงินมาไถ่ถอนรถยนต์ดังกล่าว หากไม่ไถ่ถอน จะปล่อยรถยนต์ดังกล่าวออกไป ต่อมาวันที่ 8 พ.ย. 64 นางสาวสัชฌกร และมารดา ให้นางสาวราตรี ศรีสมบัติ โอนเงินไถ่ถอนรถยนต์ดังกล่าว ให้ นางสาวโสภิต ทางธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี นางสาวโสภิต กรรณิการ์ (หมายเลขบัญชี 3920000099) จำนวนเงิน 88,000 บาท ต่อมานางสาวโสภิต แจ้ง นางสาวสัชฌกร ว่า ให้มารับรถยนต์ดังกล่าวคืนวันที่ 22 พ.ย. 64 เมื่อถึงกำหนด นางสาวสัชฌกร ไม่ได้รถยนต์ดังกล่าวคืน ซึ่ง นางสาวโสภิต แจ้งว่า รถยนต์ดังกล่าวหลุดไปแล้วไม่สามารถตามรถมาคืนได้ จึงเลื่อนคืนรถยนต์ มาเป็นวันที่ 13 ธ.ค. 64 แทน ต่อมานางสาวสัชฌกร ได้รับใบสั่งจากเจ้าพนักงานจราจร เนื่องจากผู้ขับขี่รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ฟอร์ต สีขาว หมายเลขทะเบียน กธ 1483 กาฬสินธุ์ ขับขี่รถยนต์ด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด นางสาวสัชฌกร จึงเชื่อว่า นางสาวโสภิต ได้ครอบครองรถยนต์ไว้ และเจตนาเบียดบังเอาเป็นของตนเองโดยทุจริต จึงได้แจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ปจว.ข้อที่ 22 ลงวันที่ 15 ธ.ค. 65 เวลา 15.37 น .เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมาย กับ นางโสภิต กรรณิการ์ ต่อไป

ซึ่งเมื่อวานนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา ได้โทรศัพท์ไปหาตนว่า เป็นเจ้าของรถหรือไม่ ซึ่งตนเองก็รู้สึกดีใจ ที่ได้รถคืน เพราะรถหายไปตั้ง 5 เดือน แล้วก็ไม่รู้ว่ารถไปอยู่ที่ไหน เพราะหาไม่เจอและก็ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ แล้ว และตั้งแต่รถหาย ตนเองก็ไม่คุยกับญาติคนนี้อีกเลย และอยากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยาทุกท่าน ที่ได้ช่วยเหลือตนเอง ในการตามรถคืนมาซึ่ง ตลอดระยะเวลาที่รถหายไป ก็ได้มีใบสั่งจำนวน 12 ใบ ส่งไปหาตนเองที่บ้านพื้นที่ จะเป็นจังหวัดภายในภาคกลาง ซึ่งตนก็คิดว่าญาติของตน นำรถไปนำจำหรือขายให้กับคนอื่นแล้ว