MGR Online - โฆษก บช.น.เผย ส.ต.ต.นรวิชญ์ ลากิจ 4 วัน สามารถไปบวชได้ เตรียมสึกหลังพระราชทานเพลิงศพ "หมอกระต่าย" พรุ่งนี้ เจ้าตัวพร้อมถูกดำเนินคดี ยัน ดูคาติ คันที่ชนไม่ใช่รถถูกยึดมา ยังจอดเก็บไว้ สน.พญาไท ส่งตรวจ บก.จร.แล้ว
วันนี้ (25 ม.ค.) เวลา 19.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุสลด "พระนรวิชญ์" หรือ ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ผบ.หมู่ กก.อารักขา 1 บก.อคฝ.บช.น.ขับรถบิ๊กไบค์ดูคาติชน "หมอกระต่าย" หรือ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล ขณะข้ามทางม้าลายหน้า รพ.สถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ เสียชีวิต ว่า บช.น.ขอชี้แจงที่สังคมตั้งข้อสงสัยในประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ประเด็นที่ 1 การการบวชของ พระนรวิชญ์ นั้น เป็นการลากิจ 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 24-27 ม.ค. โดย ผกก.อารักขา 1 เป็นผู้อนุมัติและอนุญาต ส่วนจะบวชได้หรือไม่ การลากิจสามารถไปดำเนินการในชีวิตประจำวันของตนเอง ฉะนั้นจึงสามารถบวชได้ พระนรวิชญ์ มีความตั้งใจบวชเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต เท่าที่ชีวิตของคนคนหนึ่งจะทำได้ ขณะนี้มีการยืนยันว่าเมื่อ พระนรวิชญ์ ไปร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 26 ม.ค.นี้ เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะเดินทางมาที่ วัดปริวาสฯ เพื่อลาสิกขาอย่างสงบทันที จากนั้นพร้อมเข้าสู่การดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่หลบหนี
ประเด็นที่ 2 รถบิ๊กไบค์ดูคาติเป็นรถของกลางที่ถูกยึด นั้น ก่อนหน้านี้ บช.น.ได้ชี้แจงไปแล้วว่ารถคันดังกล่าวมีการซื้อขาย แต่โซเชียลเปิดเผยว่าเป็นรถของกลางที่ยึดมา ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้สอบปากคำ นายปฏิภาณ เจ้าของร้านรถจักรยานยนต์มือสอง ยืนยันว่ามีการซื้อขายดูคาติกับ พระนรวิชญ์ จริง ทะเบียนรถยังเป็นชื่อของ นายไพฑูรย์ เสาร์หลวง ขายให้ นายสุชาติ (ไม่ทราบนามสกุล) และขายต่อให้ นายปฏิภาณ (ไม่ทราบนามสกุล) ก่อนจะขายให้ พระนรวิชญ์ และมอบอำนาจจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ แต่ยังไม่ดำเนินการเสร็จสมบูรณ์
ประเด็นที่ 3 เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วนำรถไปจอดไว้ที่อื่น นั้น ยืนยันว่า ยังเก็บรักษาไว้ที่ สน.พญาไท ในการดำเนินการเกี่ยวกับคดีจราจรตามระเบียบต้องส่งตรวจพิสูจน์สภาพ ตอนนี้ส่งไปตรวจที่ บก.จร.แล้ว พนักงานสอบสวนสามารถคุ้มครองและดูแลระหว่างตรวจภายใน 3 วัน ไม่เกิน 7 วัน หลังจากนั้นจะแจ้งเจ้าของรถ เพื่อยื่นคำร้องขอรับคืนต่อไป ทั้งนี้ บช.น.ย้ำเตือนว่า อย่าเผยแพร่ แชร์ข้อมูลไม่ถูกต้อง หรือบิดเบือนในลักษณ์ทำร้ายความรู้สึกของประชาชนในสังคม.