รายการ “ถอนหมุดข่าว” ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 5 ม.ค.65 นำเสนอรายงานพิเศษ แฉสหกรณ์ตำรวจ เสือนอนกิน สูบเลือดลูกน้อง
“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศคิ๊กออฟ ปี 2565 จะเป็นปีแห่งการแก้หนี้สินครัวเรือน
อาชีพที่จุดกระแส จนมีนโยบายนี้ขึ้นมา ก็คือ
ข้าราชการตำรวจ โดยตัวเลขล่าสุด ระบุว่า ตำรวจไทยเป็นลูกหนี้ 2.09 แสนนาย ยอดหนี้สินรวมสูงถึง 2.7 แสนล้านบาท
แบ่งเป็นหนี้ธนาคารต่างๆ 9 หมื่นล้านบาท และหนี้สหกรณ์ 1.8 แสนล้านบาท
เห็นตัวเลขหนี้สินอันมหาศาล ต้องบอกว่าเป็นโจทย์โหดหินขนานแท้
ในความเป็นจริง หนี้สินตำรวจ ไม่ใช่เพิ่งมีเสียเมื่อไร หากแต่เป็นวิถีชีวิตของตำรวจกันมานานแล้ว แบบว่านึกอะไรไม่ออก บอกสหกรณ์ อยากได้อยากมีอะไร ก็กู้สหกรณ์
จากการวิเคราะห์ปัญหาเบื้องต้น พบว่าสหกรณ์ตำรวจอำนวยความสะดวกในการกู้มากเกินไป และไม่ได้วางระบบสัดส่วนของหนี้สิน ดอกเบี้ย และเงินเดือน ให้มีความพอดีกัน
ตำรวจจำนวนมากจึงมีสภาพ “ชีวิตติดหนี้” ต้องผ่อนดอกเบี้ยและเงินต้นกันชั่วชีวิต แม้แต่เกษียณราชการแล้ว แทนที่จะหมดภาระ กลับยังต้องส่งหนี้สหกรณ์กันต่อไป
เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ก็เพิ่งเกิดเหตุ ตำรวจยศ ส.ต.ท. โรงพักปากช่อง จ.นครราชสีมา บุกปล้นร้านทอง และยิงเจ้าของร้านทองบาดเจ็บสาหัส เมื่อถูกจับได้ ก็สารภาพว่า ทำไป เพราะปัญหาหนี้สินรุมเร้า
จริงๆแล้ว ตำรวจเป็นอาชีพที่มีสวัสดิการดีกว่าหลายๆ อาชีพ แต่คงเพราะความต้องการมีคุณภาพชีวิตทัดเทียมใครๆ จึงโจนเข้าสู่วังวนของการเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว
ทั้งนี้ มาตรการเบื้องต้นที่แพลมออกมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีแผนจะตั้งสหกรณ์ต้นแบบ ให้กู้ด้วยดอกเบี้ยต่ำ หรือเอาเงินกู้มาแก้เงินกู้
กล่าวถึงเรื่องวงการสีกากีกับสหกรณ์ตำรวจ ถือว่าสหกรณ์เป็นแหล่งเงินกู้ของตำรวจชั้นผู้น้อย แต่สหกรณ์ก็เป็นแหล่งทำมาหากินของเหล่าบิ๊กตำรวจด้วย
โดยตำรวจชั้นผู้ใหญ่ทั้งในและนอกราชการ นิยมนำเงินมาลงทุนกับสหกรณ์ พร้อมฟอกเงินที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้องไปพร้อมกัน
วงจรก็คือ นายตำรวจใช้ลูกน้อง ตำรวจชั้นผู้น้อยทั้งหลาย ไปเก็บส่วยมาส่ง ตำรวจใหญ่ก็เอาเงินส่วยเหล่านั้นมาปล่อยกินดอกที่สหกรณ์ ซึ่งคนที่มากู้และเสียดอกให้กับสหกรณ์ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน บรรดาลูกน้องที่เก็บส่วยมานั่นเอง
พูดง่ายๆว่า เจ้านายเป็นเสือนอนกิน สูบเลือดสูบเนื้อลูกน้องตัวเอง ผ่านระบบเงินกู้ของสหกรณ์ แถมไม่ต้องเสียภาษีอีกต่างหาก
อย่างอดีตบิ๊กตำรวจนครบาลรายหนึ่ง ระดมเงินมาลงทุนกับสหกรณ์อย่างเป็นล่ำเป็นสันถึง 40 ล้านบาท ได้ดอกปีหนึ่งๆสบายไป
ความอู้ฟู่ของสหกรณ์ ส่งผลให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดต่างๆ ที่มีสหกรณ์ จะได้รับเงินปันผลจากตำแหน่งประธานสหกรณ์ ปีละประมาณล้านบาท ส่วนตัวกรรมการสหกรณ์คนอื่นก็ได้ลดหลั่นกันไป
ที่ผ่านมา เคยมีความพยายามแก้ปัญหา โดยนายตำรวจที่ชื่อ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ เสนอให้ลดดอกเบี้ยเงินกู้ของสหกรณ์ ลงเหลือประมาณร้อยละ 3.5
กลับถูกค้านอย่างหนัก เพราะพวกเสือนอนกินเห็นว่า การลดดอกเบี้ยกู้ดังกล่าว จะส่งผลให้ดอกเงินฝากเหลือแค่ร้อยละ 2 กว่าๆ เท่านั้น
คำประกาศแก้หนี้ตำรวจของ “บิ๊กตู่” จึงยากจะทำให้สำเร็จเป็นรูปธรรม อาจเป็นแค่แคมเปญหาเสียงตามจังหวะเวลาเท่านั้น