xs
xsm
sm
md
lg

ดราม่าข้ามโขง ลาวแค้นสื่อไทย บูลลี่ “จน-หนี้ท่วม”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ถอนหมุดข่าว” ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 23 ธ.ค.64 นำเสนอรายงานพิเศษ ดราม่าข้ามโขง ลาวแค้นสื่อไทย บูลลี่ “จน-หนี้ท่วม”



กลายเป็นดราม่าข้ามโขง ณ เวลานี้ เมื่อสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติลาว เสนอรายงานพิเศษ ด่านักข่าวของสื่อไทย ด้วยถ้อยคำเผ็ดร้อน

“กินข้าวเฮือนโต โสเลื่องเฮือนอื่น” หรือแปลว่า กินข้าวบ้านตัวเอง แต่ไปพูดเรื่องคนอื่น

พร้อมคำด่าแรงๆ อย่าง “อัปรีย์” “จัญไร” “โง่แล้วอวดฉลาด” “ล้าหลัง” “อิจฉา” “ยกตนข่มท่าน”

ชนวนเหตุมาจากการเสนอข่าวของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2564 ในรายการ “ฟังชัดๆ ถนอมจัดให้” ดำเนินรายการโดยสื่อรุ่นเก๋าอย่าง “ถนอม อ่อนเกตุพล”

รายงานถึงการเปิดรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ซึ่งบางคำพูดและเนื้อหาบางตอน สร้างความไม่พอใจโดยถ้วนหน้า ทั้งรัฐบาลลาว และคนลาว

โดยเฉพาะประเด็นที่ไปพาดพิงว่า

คนลาวมีฐานะยากจนเกินไปที่จะขึ้นรถไฟฟ้าของตัวเอง อ้างว่าเงินเดือนภาคเอกชนลาวประมาณ 3,800 บาท ขณะที่ค่าตั๋วรถไฟความเร็วสูงจากเวียงจันทน์ ไปสุดทางที่ชายแดนลาว เป็นเงินกว่า 1,510 บาท

อีกประเด็นที่อาจจะ “แหลมเกินไป” คือพูดว่ารัฐบาลลาวก่อหนี้ครั้งนี้ถึง 1 ใน 3 ของจีดีพี จึงจะไม่มีปัญญาใช้หนี้ค่าก่อสร้างให้กับจีน แถมยังตกเป็นเบี้ยล่างจีน ต้องยกพื้นที่ตามแนวรางรถไฟทั้งหมดให้จีน

จริงๆ แล้ว รายงานชิ้นนี้ของ ถนอม อ่อนเกตุพล นับว่าให้ข้อมูลเกี่ยวกับรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน ค่อนข้างละเอียด

ทั้งยังช่วยแก้ตัวให้รัฐบาลไทยด้วย ว่าที่การก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง กรุงเทพฯ-หนองคาย มีความล่าช้า เพราะไทยร่วมมือกับจีน ในรูปแบบที่แตกต่างจาก “ลาวกับจีน”

แต่มาพลาดในประเด็นเปราะบางละเอียดอ่อนดังกล่าว ก็เลยกลายเป็นดราม่าขึ้นมา

ทั้งนี้ ตอนที่สถานีเอ็นบีทีของไทย เสนอรายงานชิ้นนี้ไป ก็ไม่ได้มีคนลาวรับรู้สักเท่าไร จนกระทั่งผ่านไปสักพัก มีคนลาวมาตัดต่อเป็นคลิปลง Tiktok ซึ่งก็คือแอพสัญชาติจีน จึงกลายเป็นไวรัล ปั่นป่วนความรู้สึกของลาวอย่างแรง

สถานีวิทยุแห่งชาติลาว ไม่ได้เจาะจงชื่อของ ถนอม อ่อนเกตุพล ระบุแค่เป็นสื่อของรัฐไทยบางคน ที่ทำข่าวอย่าง “ผิดพลาด ขาดการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้าน และขาดจรรยาบรรณของสื่อมวลชนอย่างหนัก”

มีการนำเสนอคำสัมภาษณ์ของนายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีลาว ที่กล่าวว่า “มีคนบอกว่าจีนเข้ามายึดลาวหมดแล้ว ลาวเป็นหัวเมืองขึ้นทางด้านเศรษฐกิจของจีนหมดแล้ว อันนี้คือข่าวบิดเบือน เพราะจริงแล้ว นี่เป็นความต้องการของประชาชนลาว”

นายกฯ ลาวชี้แจงเรื่องหนี้สินด้วยว่า “ที่บอกว่ารัฐบาลลาวจะเป็นหนี้สินจีนมหาศาลจากทางรถไฟ ก็ไม่ถูก ผู้ที่เป็นหนี้คือบริษัททางรถไฟลาว-จีน”

สถานีวิทยุแห่งชาติลาว จัดหนักด้วยว่า สื่อไทยบิดเบือนใส่ร้ายลาวอย่างต่อเนื่อง และเสี้ยมสอนกันจากรุ่นต่อรุ่น

ถนอม อ่อนเกตุพล ชี้แจงไปถึงคนลาวสั้นๆ แค่ว่า “ยินดีรับฟัง และขออภัย” ซึ่งก็ไม่รู้ว่าการแสดงความรับผิดชอบแค่นี้ จะลดอุณหภูมิความโกรธแค้นของรัฐบาลลาวและคนลาวได้มากน้อยแค่ไหน

ขณะที่รัฐบาลไทยเอง จะลอยแพให้เป็นเรื่องของคนๆ เดียว ก็อาจไม่เหมาะสม เนื่องจากงานนี้ไม่ใช่เรื่องของเกรียนคีย์บอร์ดจากไหน แต่เป็นนักข่าวรุ่นเดอะ สังกัดช่องทีวีของรัฐ ซึ่งเจอดราม่า ระหว่างทำหน้าที่

ที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ไทย-ลาว ก็มีบริบทลึกๆ ในแบบ “ยกตนข่มท่าน” จริงอย่างที่สถานีวิทยุลาวว่าไว้

แต่ลาวเองก็เคยสั่งสอนไทยอย่างเจ็บแสบมาแล้ว ว่าไผเป็นไผ เมื่อตอนทำสงครามร่มเกล้ากับไทย เมื่อปี 2530-2531

ปรากฏว่าฝ่ายไทยพ่ายแพ้ยับเยิน จนต้องยอมยกธง เชิญผู้นำเหล่าทัพลาวมากอดกันกลมออกสื่อ

ทุกวันนี้ ไทยเองก็ต้องพึ่งพิงไฟฟ้าจากลาว เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้า โดยไทยวางแผนรับซื้อไฟฟ้าลาวอย่างต่อเนื่องเกือบหมื่นเมกะวัตต์แล้ว

บทเรียนจากข่าวรถไฟความเร็วสูงลาว-จีนนี้ คงเตือนสติคนอาชีพสื่อทั้งหลาย ต้องระวังการเสนอข่าว ที่อาจถูกมองว่าเป็นการบูลลี่ข้ามชาติ อาจลุกลามบานปลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ด้วยเหตุปากพาจน!!


กำลังโหลดความคิดเห็น