รายการ “ถอนหมุดข่าว” ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 7 ธ.ค.64 นำเสนอรายงานพิเศษ ธรรมะดับไฟรัก ของแม่ชีศันสนีย์
แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต กลับคืนสู่ธรรมชาติอย่างสงบ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2564 เวลา 18.23 น. สิริอายุ 68 ปี เดือน 7 วัน ด้วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร ที่ป่วยมาตั้งแต่ปี 2560
เหลือไว้เป็นตำนานให้เล่าขาน เรื่องราวของสาวสวยระดับนางงาม ที่พลิกชีวิตตัวเอง 360 องศา ตั้งแต่ในวัยยังสาวยังสวย เข้าสู่ร่มกาสาวพักตร์ตลอดชีวิต ตราบจนถึงวาระสุดท้าย รวม 41 พรรษา
โดยจุดพลิกผัน เปลี่ยนชีวิต “ศันสนีย์ เสถียรสุต” ให้กลายเป็น “แม่ชี” ผู้ก่อตั้งสำนักเสถียรธรรมสถาน มีสาเหตุจาก “รักต้องห้าม เหมือนไฟลามเผาใจให้ไหม้”
ชีวิตที่กำลังเริงโรจน์สุดขีด เมื่อมีความรักกับแฟนหนุ่มไฮโซคนดังอย่าง “เสถียร เสถียรสุต” กลับพังทลายราวปราสาททราย
เพราะหลังจากคบกันมานานถึง 1 ปี เธอจึงได้พบความจริงอันร้ายกาจว่า แท้จริงเธอเป็นแค่ที่สอง คนรักของเธอมีครอบครัวมาก่อนแล้ว
เมื่อรู้แล้ว เธอยังฝืนทนกินน้ำใต้ศอกร่วม 4 ปี สุดท้ายก็ไปต่อไม่ไหว สาวสวยคนหนึ่งตัดสินใจ ใช้ธรรมะ เป็นเครื่องมือระงับความขมขื่น
ศันสนีย์สลัดทิ้งเสื้อผ้าหน้าผม โกนศีรษะบวชชี ที่วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต ย่านซอยวัชรพล ในวัยเพียง 27 ปี
ต่อมาก็ก่อตั้งสำนักปฏิบัติธรรม “เสถียรธรรมสถาน” ไม่ห่างจากวัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต เผยแพร่ธรรมะอย่างต่อเนื่องยาวนาน จนวาระสุดท้าย
ประวัติในวัยเยาว์ เธอเกิดที่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา พออายุได้แค่ 15 ปี “ตุ๊กตา”ศันสนีย์ ปัญญศิริ ซึ่งเพิ่งสูญเสียมารดา ตัดสินใจทิ้งทุ่งบางปะหัน เข้ามาเผชิญชีวิตในเมืองใหญ่ กรุงเทพมหานคร
ความสวยของสาวน้อยศันสนีย์ ไม่ใช่แค่สวยบ้านๆ เธอขึ้นเวทีประชันความงาม จนคว้าตำแหน่ง “รองมิสออด๊าซ” ควบรางวัลนางงามบุคลิกภาพมาแล้ว
จากนั้นก็ทำอาชีพที่ต้องพึ่งความสวยความงามของรูปร่างหน้าตา ทำงานเป็นสาวพีอาร์ ให้กับสถานออกกำลังกายและเสริมความงามครบวงจร World Club
ช่วงนี้เอง ศันสนีย์พบสัจธรรมของชีวิตว่า ชีวิตนี้มันช่างไม่สุขสงบ ไม่สบายเหมือนตอนเด็กๆ
ความรักระหว่างเธอกับเสถียร แฟนไฮโซคนดัง นำมาซึ่งความทุกข์ใจ สุดท้ายจึงตัดสินใจ “หักดิบ” เปลี่ยนตัวเองแบบโลกตะลึง ทิ้งคราบสาวงาม ไปบวชเป็นแม่ชี
มาดูประวัติของ “เสถียร เสถียรสุต” กันบ้าง ชีวิตของเขาคนนี้ เต็มไปด้วยความหวือหวาไม่ธรรมดา
เสถียรเป็นไฮโซนักเรียนนอก มีฐานะระดับมหาเศรษฐี ได้มรดกที่ดินมากมายใจกลางกรุงย่านเพลินจิต
เป็นผู้ก่อตั้งศูนย์การค้าระดับตำนานเมืองกรุง คือ เพลินจิตอาเขต ซึ่งชั้นใต้ดินเปิดเป็นดิสโก้เธค ให้บริการนักท่องราตรี ในยุคบูมของเพลงดิสโก้
เสถียรยังได้บริหารโรงแรมเดอะรีเจนท์ บางกอก ย่านสี่แยกราชประสงค์ และใช้เพนท์เฮาส์ของโรงแรมแห่งนี้ เป็นเสมือนบ้านพัก
ภายในเพนท์เฮาส์ของเขา เต็มไปด้วยภาพวาดของศิลปินชื่อดัง และพระเครื่องพระบูชาในรัง ที่เขาสะสมไว้มากมาย มีมูลค่ามหาศาล
นอกจากนี้ ยังเป็นเจ้าของค่ายมวย ส.เพลินจิต รวมเป็นเจ้าของคอกม้า “เสถียร” ซึ่งทั้ง “มวย” และ “ม้า” ล้วนแต่เป็นกีฬาเชิงอบายมุข
งานอดิเรกของเสถียร ยังเป็นเซียนใหญ่วงการพระเครื่อง จึงมีพระเครื่องรุ่นแพงๆ หายาก สะสมไว้เพียบ
จริงๆ แล้ว ชีวิตวัยหนุ่ม เสถียรก็มีไลฟ์สไตล์เป็นจิ๊กโก๋ยุค 2499 ด้วย พอขึ้นชั้นเป็นรุ่นเก๋ามีค่ายมวยเป็นของตัวเอง ก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คน ที่เจ้าพ่อเมืองหลวง “แคล้ว ธนิกุล” ให้ความยำเกรง
ชีวิตของเศรษฐีหนุ่มผู้โชกโชน หากจะมีคู่ชีวิตเป็นนางงามหรือสาวสวย ก็ไม่ใช่เรื่องประหลาดพิสดารอะไร เสถียรกับศันสนีย์จึงเป็นคู่รักที่สมกันด้วยประการทั้งปวง
เพียงแต่ว่าทั้งสองพบกันสายไป ความรักของเขาและเธอไม่อาจราบรื่น และมันต้อนศันสนีย์จนมาถึงทางตัน
แทนที่จะใช้ความสวยเป็นอาวุธ ช่วงชิงสิ่งที่ตัวเองรักมาครอบครอง ศันสนีย์กลับยอมเป็นฝ่ายไปเอง
เจตนารมณ์ของแม่ชีศันสนีย์นับว่าแรงกล้า เธอทุ่มเทเอาจริงกับชีวิตสายธรรม จนเสถียรเอง ก็ต้องเข้ามามีบทบาทช่วยในการก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน เมื่อปี 2530 จนกลายเป็นที่พึ่งทางใจแก่ผู้คนมากมายตราบทุกวันนี้
ช่วงปลายชีวิตของ เสถียร เสถียรสุต เขาละทิ้งชีวิตโลดโผนแบบลูกผู้ชาย มาอยู่ใกล้ชิดแม่ชีศันสนีย์ โดยยังทุ่มเททรัพย์สินที่มี ให้กับสำนักปฏิบัติธรรมที่เขามีส่วนร่วมสร้างมา
เสถียรจากไปอย่างสงบ เมื่อปี 2560 รวมอายุ 91 ปี ซึ่งปีเดียวกันนั้นเอง ก็เป็นปีแรก ที่แม่ชีศันสนีย์เริ่มต้นต่อสู้กับโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร
บัดนี้ถึงเวลาสมควร ทั้งสองคงได้ไปพบกันอีกครั้ง ณ ที่ใดที่หนึ่ง