“ศรีวราห์” แถลงเปิดใจ หลังศาลฎีกาตัดสินจำคุก “เปรมชัย” คดีล่าเสือดำ แจงปมดรามาก้มไหว้เพราะที่บ้านสอนมาแบบนี้ ให้รู้จักไหว้และรับไหว้ ไม่ได้ทำให้กฎหมายเปลี่ยน ย้ำไม่ว่ารวยหรือจนเท่าเทียมกันหมด ขอตำรวจเข้มแข็งทำงานโดยยึดกฎหมาย อย่าทำตามกระแสสังคม
วันนี้ (8 ธ.ค.) เวลา 16.00 น.บ้านพักซอยคลังมนตรี ประชาชื่น พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หัวหน้าชุดที่ทำคดีที่ นายเปรมชัย กรรณสูต กรรมการบริษัท อิตาเลียนไทย ดิเวล๊อปเมนต์ จํากัด (มหาชน) ร่วมกันล่าเสือดำในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี เมื่อปี 2561 เปิดบ้านให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์หลังศาลจังหวัดทองผาภูมิอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา สั่งจำคุก นายเปรมชัย 2 ปี 14 เดือน โดยไม่รอลงอาญา โดยระบุว่า สมัยที่เป็นหัวหน้าคดีชุดทำคดีก็ทำงานไปตามหน้าที่ตามกฎหมาย และมั่นใจในพยานหลักฐานว่าสามารถเอาผิดได้ หลังอัยการมีคำสั่งฟ้องแล้วหน้าที่ของพนักงานสอบสวนก็สิ้นสุดแล้ว
ส่วนที่มีข้อครหากรณีที่มีภาพก้มไหว้นายเปรมชัย ทำให้สังคมครหาว่าตำรวจจะช่วยเหลือทางคดีนั้น
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ยืนยันว่า การก้มไหว้ของตนเอง เพราะได้รับการสั่งสอนมาแบบนี้ ที่บ้านนับถือพราหมณ์มีการไหว้และรับไหว้เป็นประจำอยู่แล้ว อีกทั้งการที่รับไหว้ไม่ได้เป็นเหตุให้กฎหมายเปลี่ยนแปลง ส่วนตัวมองว่าไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือคนจนทุกคนเท่าเทียมกันหมด เมื่อถูกดำเนินคดีก็มีสิทธิต่อสู้ตามกฎหมาย
“ยอมรับว่า ครั้งแรกที่เห็นบันทึกการจับกุมยังไม่มั่นใจว่าจะเอาผิดได้ รู้สึกห้าสิบห้าสิบ โดยเฉพาะในข้อกล่าวหาร่วมกันล่าสัตว์ ในสำนวนไม่มีเสือสักตัว มีแต่หนังเสือ กระดูกเสือ ซึ่งเป็นซากสัตว์ มีความผิดฐานครอบครองซากสัตว์ โทษจำคุก 4 ปี ก็ต้องมาพิสูจน์ให้ได้ว่า หนังเสือ เนื้อเสือและกระดูกเสือเป็นเสือตัวเดียวกัน รูกระสุนเข้าได้กับอาวุธปืน ให้ความสำคัญกับพยานหลักฐานทุกชิ้น จนรวบรวมหลักฐานสมบูรณ์และอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง” พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวต่อว่า ระหว่างการต่อสู้คดีไม่มีการติดต่อมาจากฝ่ายนายเปรมชัย เพราะไม่มีใครกล้ามายุ่งกับตนเองอยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่อัยการสูงสุดได้กล่าวชื่นชมพนักงานสอบสวนที่ทำสำนวนคดีรัดกุมนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า เพราะลูกทีมของตนเองดี ข้อเท็จจริงส่วนไหนที่ไม่มีก็หามาประกอบสำนวนให้ง่ายต่อการพิจารณาของอัยการ ส่วนครั้งที่โดนกระแสโจมตีส่วนตัวรู้สึกสงสารลูกน้องและคนที่ติดตามข่าวที่บ้าน ส่วนตัวเองไม่ได้อะไรคิดมาก เพราะทำทุกอย่างไปตามกฎหมายตามกบิลบ้านกบิลเมือง
พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยังได้ฝากไปถึงข้าราชการตำรวจ ว่า ขอให้เข้มแข็งอย่าทำตามกระแสสังคม แต่ให้ทำตามกฎหมายบ้านเมืองตามระเบียบที่มี และขอให้รักกันมากๆ จะได้ไม่เกิดปัญหาและขอให้ดูแลประชาชนให้ได้รับบริการที่ดี ส่วนประชาชนทั่วไปขออย่าห่วงว่าจะจนหรือรวย เพราะทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน