โชเฟอร์แท็กซี่เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน หลังปาดหน้าวิน จยย.ล้มพุ่งชนยายวัย 68 ปี อาการสาหัส ตำรวจแจ้งข้อหาขับรถประมาท
จากกรณี นายทัชชัย สุทาบุญ อายุ 41 ปี คนขับวินรถจักรยานยนต์รับจ้างปากซอยวัดหนัง เบอร์ 19 เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ถูกรถแท็กซี่ ไม่ทราบทะเบียน ขับปาดหน้ากะทันหันเพื่อพยายามรับผู้โดยสาร จนเป็นเหตุให้รถ จยย.เสียหลักพลิกคว่ำไถลไปชน นางวรรณทนีย์ อุไรวรรณ์ หรือ ยายพร อายุ 68 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนตนเองก็ได้รับบาดเจ็บ และ รถ จยย.ได้รับความเสียหาย โดยโชเฟอร์รถแท็กซี่คันดังกล่าวเร่งเครื่องหลบหนีไปไม่จอดช่วยเหลือ แสดงถึงความไร้มนุษยธรรม เหตุเกิดปากซอยเอกชัย 22 แขวงจอมทอง เขตบางขุนเทียน กทม. เมื่อเวลา 05.06 น.ของวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (2 ธ.ค.) เมื่อเวลา 12.10 น. ที่ สน.บางขุนเทียน นายอนุรักษ์ กระจ่างโฉม อายุ 55 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีเขียวเหลือง ทะเบียน 1 มก 3848 กรุงเทพมหานคร เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ บุญเสริมศักดิ์ สว.(สอบสวน) สน.บางขุนเทียน เพื่อมอบตัวและรับทราบข้อกล่าวหา โดย นายอนุรักษ์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนเห็น ยายพร ยืนอยู่ข้างถนนและโบกเรียกรถตน ซึ่งกำลังแล่นมาตามทางเดินรถเลนที่สอง จังหวะนั้นตนเปิดไฟเลี้ยวซ้ายเพื่อจะเข้าริมถนนจอดรับยายแล้ว แต่ปรากฏว่า ได้ยินเหมือนมีรถเกิดอุบัติเหตุชนกันขึ้นจากด้านหลัง ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าใครชนใคร แต่รถตนไม่ได้โดนชน ด้วยความตกใจประกอบกับบริเวณนั้นมืดมาก จึงเร่งเครื่องมุ่งหน้าออกจากจุดเกิดเหตุ ไปรับผู้โดยสารที่อื่น กระทั่งเห็นภาพคลิปเหตุการณ์จากข่าว ถึงรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความประมาทของตน ตนก็พร้อมแสดงความรับผิดชอบด้วยการเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนทันที ส่วนจะเป็นเรื่องประมาทร่วมกันกับ นายทัทชัย ผู้ขับขี่ รถวิน จยย.รับจ้างด้วยหรือไม่ ต้องให้พนักงานสอบสวนพิจารณา ทว่า ตนก็พร้อมที่จะประสานงานกับบริษัทประกันภัย ซึ่งตนทำกรรมธรรม์คุ้มครองชั้น 3 เอาไว้ และยังมี พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถอีกด้วย
ขณะที่ พ.ต.อ.วิศิษฐ์ สังขนันท์ ผกก.สน.บางขุนเทียน กล่าวว่า จากการตรวจสอบหลักฐาน กล้องวงจรปิดพบพฤติกรรม โชเฟอร์แท็กซี่มีความผิด ในข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและมีทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ยังมีข้อหาไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือ ซึ่งเท่าที่ดูในเบื้องต้น ผู้ขับรถวิน จยย. ก็ขับขี่มาโดยใช้ช่องทางปกติคือเลนซ้าย ส่วนทางโชเฟอร์แท็กซี่ ปาดจากเลนที่ 2 เข้ามา ขณะนี้ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหากับโชเฟอร์แท็กซี่เป็นหลัก ส่วนเจ้าตัวจะให้การอย่างไรก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา อย่างไรก็ตามหากภายหลังพบว่า ทางผู้ขับขี่วิน จยย. มีความผิดด้วยก็จะถูกแจ้งข้อหาประมาทร่วม ยืนยันคดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน
ด้าน นายทัชชัย ซึ่งเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนด้วยเช่นกัน กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่โชเฟอร์แท็กซี่เข้ามามอบตัวตอนนี้ วงเงิน พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถของตนไม่พอจ่ายค่ารักษาตัวยายพรแล้ว การเดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ตนจะยังไม่ขอเจรจาเรื่องค่าเสียหายในส่วนของตนแต่อย่างใด แต่อยากให้โชเฟอร์แท็กซี่ รับผิดชอบยายพรมากกว่า เพราะยายพรเจ็บหนัก ตอนนี้ย้ายจาก รพ.บางปะกอก 8 ไปรักษาต่อที่ รพ.มเหสักข์ เท่าที่ทราบยายเริ่มรู้สึกตัว แต่แพทย์ยังไม่ให้ใครเยี่ยม
ส่วนเรื่องที่โชเฟอร์แท็กซี่ อ้างว่า ไม่รู้ไม่เห็นกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และอ้างว่า เปิดไฟเลี้ยวซ้ายแล้ว ตนขอยืนยันว่า ตนไม่เห็นไฟเลี้ยวของรถแท็กซี่แต่อย่างใด ตนขับขี่มาตามช่องทางเดินรถด้านซ้ายสุดตามกฎหมาย และถูกแท็กซี่ปาดเข้ามาจากทางด้านขวาอย่างกะทันหัน จนต้องหักหลบเสียหลักล้มคว่ำเข้าไปชนยายพร ตอนนั้นตนลุกขึ้นมาได้ยังตะโกนบอกคู่กรณีว่าอย่าหนี ซึ่งคู่กรณีก็มองตนแค่แว๊บเดียว แล้วขับรถเร่งเครื่องออกไป ไม่มีจิตสำนึกที่จะช่วยเหลือ ตนต้องฝากหน่วยกู้ภัยที่รุดมาตรวจสอบให้ช่วยดูแลยายพร แล้วรีบขับขี่รถ จยย.ออกติดตาม คู่กรณี แต่ก็ไม่ทัน จากนั้นตนก็ย้อนกลับมาที่เกิดเหตุอีก ซึ่งหลังจากนี้ หากตนถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดี ว่าเป็นการประมาทร่วมก็ขอยอมรับ