MGR Online - อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯ แจงโต้ยูเอ็น ชี้ ประเทศไทยไม่เคยลิดรอนสิทธิการชุมนุม หากม็อบไม่ทำผิดกฎหมายก่อน ย้ำประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมโควิด
สืบเนื่องเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา สำนักข่าวบีบีซีไทย นำเสนอข่าวบทสัมภาษณ์ นายเคลมองต์ วูเล ผู้รายงานพิเศษขององค์การสหประชาชาติ หรือ UN special rapporteur ที่มีข้อกังวลต่อเสรีภาพในการชุมนุมและรวมกลุ่มโดยสันติของประชาชน หลังรัฐบาลไทยบังคับใช้กฎหมายอาญา และบังคับใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เพื่อควบคุมโควิด นั้น
วันนี้ (2 ธ.ค.) นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่า ไทยให้ความสำคัญกับเสรีภาพในการชุมนุมและรวมกลุ่มโดยสันติมาตลอด ซึ่งเป็นเสรีภาพขั้นพื้นฐานสำหรับสังคมประชาธิปไตย และหากผู้ชุมนุมอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายอย่างเคร่งครัด รัฐบาลก็ไม่สามารถไปละเมิดสิทธิของผู้อื่นได้เช่นกัน แต่การชุมนุมหรือการรวมกลุ่มก็ต้องไม่ให้ขัดต่อการรักษาความมั่นคง ความสงบเรียบร้อย และด้านสาธารณสุขด้วย เพราะอาจทำให้ประชาชนโดยทั่วไปได้รับผลกระทบ ส่วนการบังคับใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะรัฐบาลไม่ต้องการให้เชื้อโควิดแพร่ระบาด และเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและสุขอนามัยของประชาชน
นายเรืองศักดิ์ ระบุอีกว่า ส่วนบุคคลใดที่ได้รับผลกระทบ หรือถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดในคดีอาญา ไม่ว่าจะเป็นฐานความผิดใดก็ตาม ทุกคนมีสิทธิได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมาย ตลอดจนมีสิทธิในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาที่จะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน และหากใครถูกพิพากษาว่าเป็นผู้กระทำความผิดตามกฎหมายก็มีสิทธิในการอุทธรณ์คำพิพากษาและขอพระราชทานอภัยโทษได้เช่นกัน
“อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณข้อคิดเห็นและข้อกังวลจาก นายเคลมองต์ รวมถึงทุกภาคส่วน พร้อมยืนยันว่า ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนตามมาตรฐานสากลภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ซึ่งที่ผ่านมา กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้เร่งจัดกิจกรรมรณรงค์ตลอดจนจัดทำสื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับกติกาและกฎหมายให้ทุกภาคส่วนมาอย่างต่อเนื่อง” อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯ กล่าว