MGR Online - เลขาฯ รมว.ยธ.- กรมคุ้มครองสิทธิฯ มอบเงินค่าตอบแทนคดีอาญา เหยื่อโดนรุมโทรม 5 หมื่นกว่าบาท แนะ ปชช.ที่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม รีบยื่นเรื่องก่อนหมดอายุความ
วันนี้ (19 พ.ย.) ที่ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบเงินเยียวยาให้กับ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี ผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อนรกบนดิน กรณีถูกหลอกให้ไปถ่ายแบบแลกกับค่าตอบแทนมูลค่าสูง แต่กลับโดนล่วงละเมิดทางเพศ ในพื้นที่บางกรวย จ.นนทบุรี กระทั่งถูกตำรวจจับตัวผู้ต้องหาได้ 7 คน ก่อนส่งฟ้องศาลนนทบุรี เพื่อดำเนินคดีในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกันกระทำผิดอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง” ปัจจุบันคดีอยู่ในการพิจารณาของศาล ซึ่งได้เดินทางมาพร้อม น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง ผู้อำนวยการมูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม
ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ไม่ได้นิ่งนอนใจกับคดีดังกล่าว พร้อมเร่งสั่งการให้ตนดูแลและเยียวยาผู้เสียหายอย่างเป็นธรรมที่สุด โดย นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้ให้สำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา เข้าไปดูแลเกาะติดการช่วยเหลือเยียวยาของ น.ส.เอ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในที่ประชุมคณะอนุกรรมการการพิจารณาค่าตอบแทนฯ วินิจฉัยให้จ่ายค่าตอบแทนความเสียหาย ได้แก่ ค่ารักษาพยาบาล จำนวน 20,474.25 บาท ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ จำนวน 1,655 บาท ค่าตอบแทนความเสียหายอื่น 30,000 บาท รวมทั้งสิ้น 52,129.25 บาท
“ทั้งนี้ อยากฝากถึงประชาชนที่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีอาญาทั้งหลาย ซึ่งตามกฎหมายท่านสามารถใช้สิทธิรับเงินเยียวยาดังกล่าว อาทิ เกิดอุบัติเหตุรถชนจนเสียชีวิต ถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ หรือถึงขั้นทุพพลภาพ และขอแนะนำให้รักษาสิทธิยื่นเรื่องของตัวเอง ภายในอายุความ 1 ปี ก่อนจะถูกตัดสิทธิไปโดยปริยาย แต่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกำลังพิจารณาขยายสิทธิให้มากกว่า 1 ปี ขึ้นไป เพราะมีบางเคสใช้เวลาในการรักษาร่างกายเกิน 1 ปี จนตัวเองไม่ได้มายื่นเรื่องรับสิทธิถือเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่ง โดยเป็นนโยบายเร่งด่วนภายใต้การนำของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่คอยกำชับให้ดูแลประชาชนมาโดยตลอด” ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าว
ด้าน น.ส.เอ (ผู้เสียหาย) กล่าวว่า ขอขอบคุณกระทรวงยุติธรรม กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และมูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม ที่ให้การช่วยเหลือตนเองเป็นอย่างดี ตนดีใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะถ้าหากไม่มีหน่วยงานเหล่านี้ และถ้าไม่ได้ท่าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตนก็คงไม่ได้รับความเป็นธรรมและเงินเยียวยาดังกล่าวแน่นอน
