xs
xsm
sm
md
lg

“สุเทพ” ได้ประกัน คดีทุจริตสร้างโรงพัก ศาลนัดพิจารณาครั้งแรก 17 ก.พ.ปีหน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
ศาลฎีกานักการเมืองนัดพิจารณาคดีครั้งแรก “สุเทพ” กับพวก 6 คน กรณีทุจริตก่อสร้างโรงพัก 396 เเห่ง 17 ก.พ.นี้ โดยศาลให้ประกันตัววงเงินคนละ 1 ล้าน ด้านเจ้าตัวมั่นใจพยานหลักฐานเพื่อสู้คดี

วันนี้ (30 พ.ย.) ที่ศาลฎีกาแผนกอาญาผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมือง สนามหลวง คณะกรรมการปราบปรามการทุจริตเเห่งชาติ (ป.ป.ช.) นำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กับพวก รวม 6 คน กรณีทุจริตสร้างสถานีตำรวจ 396 ทั่วประเทศ รวมมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก

โดยวันนี้ นายสุเทพ เดินทางมาศาลพร้อม นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความ ภายหลัง ป.ป.ช.ยื่นฟ้อง

โดยช่วงเช้าก่อนเข้ารายงานตัวต่อศาล นายสุเทพ กล่าวยืนยันไม่ได้กระทำการใดที่ผิดจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งเรื่องสั่งการและการพิจารณาต่างๆ อยู่บนพื้นฐานของข้อกฎหมายระเบียบปฏิบัติ และในฐานะที่กำกับดูแล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตัดสินใจในแง่ของนโยบาย การปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ และไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง โดยอนุมัติตามที่มีการเสนอในราคาต่ำกว่าราคากลางกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าผ่านการประมูลชอบตามกฎหมายแล้วจึงได้ลงนาม ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชน ส่วนการสร้างสถานีตำรวจไม่แล้วเสร็จเป็นเรื่องของการบริหารจัดการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)

ต่อมาเวลา 12.00 น. ภายหลังได้รับการประกันตัวนายสุเทพ กล่าวว่า วันนี้ ป.ป.ช.นัดตนเพื่อยื่นฟ้องฐานกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 กรณีอนุมัติเปลี่ยนเเปลงวิธีจัดซื้อจัดจ้างโครงการสร้างโรงพักทดเเทน 396 เเห่งพร้อมจำเลยรวม 6 คน โดย ป.ป.ช.นำเอกสารนำคำร้องมายื่นฟ้องทั้งหมด 1,302 หน้า ซึ่งเป็นเอกสารซึ่งตนเคยชี้เเจง ป.ป.ช.เเละอัยการ ครบถ้วนสมบูรณ์ทั้งหมดไม่มีประเด็นที่เเปลกไปกว่าเดิม ตนจะนำประเด็นที่อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องเเละไม่รับดำเนินคดีมาโต้เเย้ง รวมทั้งจะนำพยานเอกสารประมาณ 200 หน้า มาเป็นข้อต่อสู้ในชั้นศาลส่วนพยานบุคลยังไม่ได้กำหนด ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า ในการสั่งการลงนามจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าวทำตามระเบียบกฎหมายทุกประการ อย่างไรก็ตามศาลได้นัดพิจารณาคดีครั้งเเรกเพื่อสอบคำให้การในวันที่ 17 ก.พ. 2564 โดยสำนวนคดีวันนี้ ป.ป.ช.ยื่นเฉพาะสำนวนจัดซื้อจัดสร้างโรงพักอย่างเดียว

เมื่อถามว่า คดีนี้อัยการสูงสุดสั่งไม่รับดำเนินคดีเเต่ ป.ป.ช.กลับฟ้องเอง หากชนะคดีจะฟ้องกลับหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตอนนี้ขอต่อสู้คดีก่อนเพราะถูกกล่าวหาและต่อสู้คดีนี้มานาน 10 ปีเเล้ว ทำให้เสียตนเสียชื่อเสียง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายละเอียดจำเลยเเละข้อหาที่ ป.ป.ช.ฟ้องในวันนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จำเลยที่ 1 ถูกฟ้องมาตรา 157, พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จำเลยที่ 2 มาตรา 157, พล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ จำเลยที่ 3 เเละ
พ.ต.ท.สุริยา แจ้งสุวรรณ์ จำเลยที่ 4 โดนความผิดตามมาตรา 157, ความผิดฮั้วประมูล ส่วน บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด จำเลยที่ 5 และ นายวิษณุ วิเศษสิงห์ จำเลยที่ 6 ถูกฟ้องข้อหาข้อหาสนับสนุนฯ ภายหลัง ปปช.ยื่นฟ้อง จำเลยทั้งหมดยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวศาลตีราคาประกันคนละ1ล้านบาท และกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศเว้นจะได้รับอนุญาต

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวถึงระบบเลือกตั้งโดยใช้บัตร 2 ใบ ว่า ตนไม่เห็นด้วยกับการใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ตั้งแต่ต้น เพราะในอดีตเราเคยใช้มาแล้วเกิดปัญหา กลายเป็นเผด็จการรัฐสภาขึ้นมา แต่เมื่อพรรคการเมืองใหญ่ๆ เห็นว่า การใช้บัตรเลือกตั้งดังกล่าวจะได้ประโยชน์ เขาก็ร่วมมือกันแก้ไขกฎหมายเลือกตั้ง ตนคิดว่า เป็นหน้าที่ของพี่น้องประชาชน ต้องติดตามข้อดีข้อเสีย ถึงตอนนั้นประชาชนจะได้ความชัดเจนขึ้นว่าสถานการณ์บ้านเมืองขณะนั้นเป็นอย่างไร การตัดสินใจเลือกตั้งจะตัดสินใจอย่างไรต่อต้องฝากไว้กับพี่น้องประชาชน

เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรครวมพลังประชาชาติไทย เมื่อเป็นพรรคเล็กจะเสียเปรียบอย่างไร อาจจะมีการย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เมื่อก่อนมีการบัตรเลือกตั้งใบเดียวดีอยู่แล้ว คะแนนเสียงของประชาชนทุกคะแนนเสียงไม่ถูกละเลย ทุกคะแนนนำไปคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อได้ ก็เชื่อมโยงกันดี แต่บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แบ่งชัดเจน เช่น มีพรรคหนึ่ง ไม่ได้ ส.ส.เขตเลย แต่ได้คะแนนเลือกตั้งที่ 2, ที่ 3 ทั้งประเทศ ก็ไม่มีความหมายอะไร เพราะเอาคะแนนพรรคไปตัดสินต่างหากว่าบัญชีรายชื่อพรรคการเมืองไหนจะได้เท่าไหร่ เพราะฉะนั้น พรรคการเมืองใหญ่ๆ ทุนโฆษณาประชาสัมพันธ์เยอะก็ได้เปรียบพรรคเล็กๆ

ส่วนจะย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองใหญ่หรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวปฏิเสธ โดยระบุว่า ตนกับพี่น้องร่วมอุดมการณ์ตั้งใจสร้างพรรคการเมืองที่แท้จริงของประชาชนขึ้นมาให้ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นพรรคใหญ่ หรือพรรคกลาง พรรคเล็กๆก็เป็นได้ เพราะเราดูเรื่องคุณภาพ ซึ่งจะเห็นว่า พรรครวมพลังประชาชาติไทย มี ส.ส.แค่ 5 คน แต่มี นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ซึ่งทำงานได้ดี ช่วยประเทศชาติ และประชาชนได้มาก ตนจึงมองเรื่องคุณภาพมากกว่า

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า สุดท้ายแล้วอาจจะเหลือแค่ 2 พรรคใหญ่ ที่จะแข่งขันกัน นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่แน่ เดี๋ยวนี้ประชาชนติดตาม สถานการณ์บ้านเมือง ตนคิดว่า การตัดสินใจลงคะแนนเลือกตั้งของพี่น้องประชาชนแต่ละครั้งในการเลือกตั้งทั่วไป ก็มีแรงจูงใจที่เปลี่ยนไปครั้งหน้า พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่รู้เลยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะลงหรือไม่ และไม่ทราบว่าจะมีพรรคการเมืองใดเสนอชื่อ วันนี้มีหน้าที่อย่างเดียวคือทำงานเพื่อบ้านเมือง และทำงานให้ประชาชน
.
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ นายสุเทพ จะไปเป็นที่ปรึกษาพรรคการเมืองใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้นมาใช่หรือไม่

นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี เป็นการปล่อยข่าวลือ ยืนยันว่า จะอยู่พรรคการเมืองที่ตนมั่นใจว่าเป็นพรรคการเมืองของประชาชน และขณะนี้ก็เห็นเพียงพรรคเดียว คือ พรรครวมพลังประชาชาติไทย

ส่วนการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในครั้งหน้าจะส่งครบทุกเขตหรือไม่ ขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค ตนเป็นเพียงผู้สนับสนุน ให้คำปรึกษา และผู้ร่วมก่อตั้ง

อย่างไรก็ตาม เรายังไม่ทราบว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ ยังอีกนาน และเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ อยู่จนครบวาระ เพราะการแก้ไขปัญหาเรื่องโรคระบาด และปัญหาเศรษฐกิจ เป็นเรื่องที่รัฐบาลนี้ทำมาระยะหนึ่งแล้ว และควรทำต่อเนื่องจนจบ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการประชุมเอเปก รัฐบาลจึงควรอยู่ครบวาระ

“วันนี้ยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ให้อยู่ครบสมัย ส่วนการเลือกตั้งครั้งหน้าต้องดูอีกทีว่ามีใครบ้างที่มีความพร้อมเป็นผู้นำรัฐบาลได้ ตอนนี้ยังมองไม่เห็นคนที่มีความสามารถสูสี พล.อ.ประยุทธ์ ถ้าพิจารณาในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ดูโดดเด่นกว่าคนอื่น ทั้งในเรื่องความตั้งใจ และผลงานที่ทำมา แต่เวลาเหลือตั้งปีกว่าพูดไปตอนนี้ก็เร็วเกินไป” นายสุเทพ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น