รายการ “ถอนหมุดข่าว” ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 24 พ.ย. 64 นำเสนอรายงานพิเศษ วิกฤตทีมผีแดง ป๋าเฟอร์กี้ ยังโดนฉะ
หากจะมีความเจ็บปวดใดๆ ที่แผ่กระจายไปกว้างขวางทั่วโลก ในหัวใจผู้คนหลายร้อยล้านดวงในเวลานี้
ความเจ็บปวดนั้น คือความรู้สึกของแฟนบอลทีมผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผลงานในสนามย่ำแย่ต่อเนื่อง จน “โอเล่ กุนนาร์ โซลชา” ต้องกระเด็นตกเก้าอี้ นั่นก็เจ็บปวดมากพอแล้ว
แต่ต้องมาเจ็บซ้ำ เมื่อกุนซือสมองเพชร อย่าง “ซิเนดีน ซีดาน” ปฏิเสธอย่างไม่ใยดี ไม่อยากมาอยู่เมืองแมนเชสเตอร์
ทั้งที่เป็นทีมเงินหนา และมีแฟนบอลหนุนหลังมากที่สุดในโลก แต่การจะหาผู้จัดการทีมคนใหม่มารับงานเผือกร้อน กลับไม่ง่ายเลย เพราะคนเก่งๆ มีทีมให้คุมไปแทบหมดแล้ว
ได้มาแล้ว ก็ไม่มีหลักประกันว่า เขาคนนั้นจะเป็นคนที่ใช่
การเริ่มต้นใหม่กับผู้จัดการทีมคนใหม่ มักต้องการเวลาในการสร้างหรือปรับจูนทีม ซึ่งแปลว่า แฟนผีจำต้องก้มหน้ารับชะตากรรม ร้องเพลง “รอ” กันต่อไป
นับจากเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือไป ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช้ผู้จัดการทีมมาแล้ว 4 คน ได้แก่ เดวิด มอยส์, หลุยส์ ฟาน กัล, โชเซ่ มูริญโญ่ และโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ตามลำดับ
จะเห็นว่าแมนยู ลองมาหมดแล้ว ทั้งกุนซือบิ๊กเนม อย่าง ฟาน กัล และเฮียมู และทั้งกุนซือที่กำลังไต่เต้า อย่าง มอยส์ และโอเล่
แต่ละคนก็สร้างทีม ตามแนวทางของตัว บางคนทำบอลสวย แต่กลับไร้ประสิทธิภาพในการจบสกอร์ หรือบางคนเปี่ยมไปด้วยแทคติค มุ่งเน้นชัยชนะ แต่หาความเอนเตอร์เทนไม่เจอ
ผลสุดท้าย ก็ไม่มีใครเสกให้แมนยู กลับมาเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อยู่ดี แถมยังกระเด็นตกเก้าอี้ไปก่อนหมดสัญญาทั้งนั้น
จากสถิติที่บันทึกไว้ ด้านเปอร์เซนต์การเอาชนะคู่แข่ง เฮียมูมาเป็นอันดับ 1 ที่ 58.33 เปอร์เซ็นต์ โอเล่ตามมาเป็นที่ 2 ที่ 54.88 เปอร์เซ็นต์ เดวิด มอยส์ ที่ 3 52.94 เปอร์เซนต์ และอาจารย์หลุยส์รั้งบ๊วย 52.43 เปอร์เซนต์
แต่โอเล่ถือว่าแย่กว่าใคร ตรงที่ไม่เคยได้แชมป์เล็กใดๆ ติดมือเลย ต่างจากเฮียมู ที่คว้าแชมป์ยูโรป้าลีก, ลีกคัพ และคอมมูนิตี้ ชิลด์ ส่วนฟาน กัล ได้แชมป์ เอฟเอคัพ
และที่แย่มากในความรู้สึกของกองเชียร์ คือการหลอกให้ฝันหวาน
อาจเพราะเขาเองก็มีจุดแข็ง เป็นกุนซือที่สร้างสถิติประดับพรีเมียร์ลีกไว้ด้วย นั่นคือ สถิติไร้พ่ายยามเล่นเป็นทีมเยือน มากที่สุดถึง 29 นัดติดต่อกัน
แถมฤดูกาลนี้ เขาเสริมทัพได้อย่างน่าตื่นเต้น ไม่ว่าจะเครื่องจักรถล่มประตูหมายเลข 1 ของโลกอย่าง “คริสเตียโน่ โรนัลโด้”
ไหนจะเซ็นเตอร์แบ็กดีกรีแชมป์โลกอย่าง “ราฟาแอล วาราน”
และรวมถึงปีกขวาจอมแอสซิสต์จากบุนเดสลีกาอย่าง “เจดอน ซานโช”
พอแมนยูเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างดุดัน ช่วยไม่ได้ที่แฟนๆ จะแอบฝันหวานว่า มีโอกาสลุ้นแชมป์เสียทีสินะ
แต่ทุกอย่างกลับพังทลายเป็นปราสาททรายในชั่วไม่กี่นัด เพราะผีแดงแพ้รัวๆ ติดๆ กัน โดนถลุงประตูแบบกระจุยกระจาย จนหมดลุ้นแชมป์ไปเรียบร้อยแล้ว
โดยเฉพาะการแพ้คาถิ่นในศึกแดงเดือดอย่างสุดอัปยศ โดน หงส์แดง ลิเวอร์พูล ซัดพรุน 0-5 ประตู ซึ่งเป็นการพ่ายแพ้ในทุกมิติ
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าบอร์ดบริหารของแมนยู คงต้องเลือกผู้จัดการทีมระดับบิ๊กเนมคนใดคนหนึ่ง ไม่เอาแล้วกุนซือลองงาน
เพราะเทียบกับทีมคู่แข่งอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีก ที่ใช้บริการกุนซือระดับโลก ล้วนแต่ทำผลงานติดลมบน
ผู้จัดการทีมนั้นสำคัญไฉน? ลองดูตัวอย่างชัดๆ จากทีมเชลซี แค่เปลี่ยนตัว แฟรงค์ แลมพาร์ด มาเป็น โธมัส ทูเคิล ผลงานลุ่มๆ ดอนๆ ก็กลับมาเป็นทีมเต็งแชมป์เต็มตัวในพริบตา
นักเตะที่เคยถูกมองข้าม ได้กลับมาเป็นตัวจริง นักเตะที่เคยฟอร์มตก ก็กลับมาเก่ง นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเชลซี
ขณะที่โอเล่ โดนวิจารณ์หนักว่า ทำนักเตะฟอร์มตกพร้อมกันทั้งทีม
เลือกนักเตะลงเล่นตัวจริงแบบมีลูกรัก ต่อให้ที่ผ่านมา ลูกรักเล่นแย่ต่อเนื่องอย่างไร ก็จะได้รับการเข็นลงสนามอยู่ดี แล้วลูกรักของโอเล่ ก็ไปตัดโอกาสการได้ลงสนามของนักเตะเก่งๆ คนอื่น
ทรงบอลไม่ดี แทคติคแก้เกมไม่มี เปลี่ยนตัวไม่ได้เรื่อง ล้วนแต่เป็นผลงานโบดำของโอเล่
ไหนยังขาดศิลปะ ในการควบคุมเหล่าสตาร์ให้อยู่ในแถว ให้เล่นบอลด้วยทีมสปิริต และมีวินัย
นาทีนี้ แฟนแมนยู คงต้องยึดวาทะคำคมของป๋าเฟอร์กี้ปลอบใจกันไปพลาง ครั้งหนึ่งป๋าเคยกล่าวไว้ว่า
“ถ้าคุณรับไม่ได้เมื่อทีมแพ้ คุณก็ไม่สมควรอยู่ข้างเราเมื่อทีมชนะ”
ปัญหาในทีมผีแดงรอบนี้ ไปๆ มาๆ ความเสียหายก็ลามมาถึงตัวป๋าเฟอร์กี้ด้วย อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ทันทีที่มีข่าวว่า ป๋าผลักดันให้บอร์ดดึงตัวผู้จัดการทีมชาวอาร์เจนติน่า “เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่” มาคุมทีมแบบถาวร
แฟนบอลบางส่วนก็ร้องยี้ไปที่ป๋า จวกป๋าว่าเลือกผิดพลาดมาแล้วถึง 2 คน เพราะฉะนั้น ป๋าพอเหอะ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเผชิญวิกฤต ยิ่งกว่าทุกครั้งอย่างแท้จริง