หญิงวัย 16 ปี ตกเลือดเข้าโรงพยาบาล หมอตรวจพบตั้งท้องประมาณ 4-5 เดือน แล้วกินยาทำแท้ง ส่งเจ้าหน้าที่ อปพร.เขตบางบอน ไปตรวจบ้านพัก พบศพทารกเพศชาย อวัยวะครบถ้วนในถังขยะ
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 10 พ.ย. พ.ต.ท.ทนงศักดิ์ เพ็ชรประกอบ สว.(สอบสวน) สน.ท่าข้าม รับแจ้งมีผู้พบศพเด็กทารก บริเวณถังขยะในบ้านเลขที่ 66/294 ซ.เทียนทะเล 7 แยก 3 ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และ อปพร.เขตบางขุนเทียน
ที่เกิดเหตุอยู่ภายในบ้านหลังหนึ่ง เปิดเป็นร้านจำหน่ายนมเปรี้ยว อยู่ลึกไปในซอย 100 เมตร เจ้าหน้าที่พบร่างทารกเพศชาย อวัยวะครบถ้วน ไม่มีสายรกติดอยู่แต่อย่างใด อายุครรภ์ประมาณ 4-5 เดือน ถูกทิ้งไว้ในถังขยะสีเงิน ใบเล็ก โดยมีเศษขยะปิดบังทับไว้ เจ้าหน้าที่ต้องนำถังออกมาเทจึงพบร่าง ก่อนนำออกมาชันสูตรในเบื้องต้นที่ด้านนอก
ด้าน เจ้าหน้าที่ อปพร.เขตบางบอน ผู้พบศพ ระบุว่า เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ รพ.บางปะกอก 8 กระทั่งมีรถกระบะคันหนึ่งขับเข้ามาภายในโรงพยาบาล ก่อนที่จะขอให้ช่วยเหลือพาหญิงสาวรายหนึ่ง อายุ 16 ปี เข้าไปหาหมอ เนื่องจากมีประจำเดือนและเลือดไหลไม่หยุด จึงได้พานั่งรถเข็นผู้ป่วยเข้าไปพร้อมเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล หลังจากนั้นไม่นาน ทางพยาบาลได้แจ้งกลับมาว่า ให้ช่วยไปดูที่บ้านของหญิงสาวคนดังกล่าว เนื่องจากคาดว่าที่เลือดไหลไม่หยุดมาจากการกินยาเพื่อทำแท้ง โดยคาดว่า ศพของเด็กอาจถูกทิ้งไว้ในห้องน้ำบ้านของหญิงสาว
เจ้าหน้าที่ อปพร.เขตบางบอน ระบุอีกว่า จึงได้พาบุคคลที่นำตัวหญิงสาวมาส่งโรงพยาบาล ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นนายจ้าง กลับไปยังบ้านหลังดังกล่าว เพื่อหาร่างเด็กทารก เมื่อไปถึงก็เข้าไปตรวจสอบภายในห้องน้ำของตัวบ้าน พบเพียงลิ่มเลือด และคราบเลือดจำนวนหนึ่งบริเวณท่อน้ำทิ้ง แต่ไม่พบศพแต่อย่างใด จึงสอบถามกลับมายังโรงพยาบาล เพื่อให้หญิงสาวบอกว่าร่างเด็กทารกถูกนำไปทิ้งที่ใด หลังจากที่พยายามเกลี้ยกล่อมอยู่สักระยะ หญิงสาวคนดังกล่าวจึงยอมรับ และบอกว่า ได้ทิ้งศพเด็กไว้ในถังขยะ จึงได้ลองรื้อภายในถัง ก็พบศพเด็กจริง ก่อนจะรีบแจ้งไปยังสำนักงานเขตบางขุนเทียน และ ตำรวจ สน.ท่าข้าม ให้เข้ามาตรวจสอบ
เบื้องต้นแพทย์ชันสูตรคาดว่า ศพของทารกเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เป็นการแท้งตามปกติ แต่ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนตัวหญิงสาวขณะนี้จะให้พักรักษาตัวก่อน หากอาการดีขึ้นก็จะสอบปากคำเพื่อสรุปสาเหตุในครั้งนี้ต่อไป.