โผล่อีกแล้วสองผัวเมียมิจฉาชีพก่อเหตุซ้ำ ตระเวนขับรถเก๋งสีบรอนซ์ เติมน้ำมัน 1,380.03 บาท ภายในปั๊มเอสโซ่ คลอง 11 ก่อนทำเนียนอ้างลืมกระเป๋าตังค์ จะพาเมียไป รพ.แล้วขับหลบหนี วอน ตร.ตามจับ
เวลา 14.30 น. วันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 นายสัญชัย บุญช่วยเมตตา อายู 48 ปี เจ้าของปั๊มเอสโซ่ คลอง 11 (ธัญบุรี) เลขที่10/3 ม.2 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ร้องเรียนมายังผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 13.12 น.ได้มีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ SEAT สีบรอนซ์ ทะเบียน 3 ษ 3789 กทม. ขับเข้ามาเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 จำนวน 44.32 ลิตร ราคา 1,380.03 บาท โดยคนขับทำเนียนแจ้งกับพนักงานเติมน้ำมัน ว่า ลืมกระเป๋าสตางค์และจะรีบไปโรงพยาบาล เนื่องจากภรรยาป่วยนอนอยู่ในรถ โดยนำบัตรประจำตัวประชาชน ระบุชื่อ นายธีรพงศ์ ตะโจประรัง อายุ 42 ปี ที่อยู่ 334 ม.11 ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย ให้ไว้กับพนักงานเติมน้ำมัน หลังจากนั้นได้ขับรถออกไป หลังจากนั้น บุคคลดังกล่าวก็ยังไม่นำเงินค่าน้ำมันมาจ่ายให้ จึงได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน
โดยทราบว่า ก่อนหน้านี้ สามีภรรยาคู่นี้เคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันนี้กับร้านเจ๊นกก๋วยเตี๋ยวเรือ 2 ชั้น สาขา 2 คลอง 8 (ธัญบุรี) โดยการมานั่งรับประทานอาหารแล้วอ้างว่าลืมกระเป๋าสตางค์และเบี้ยวค่าอาหารเป็นเงิน 154 บาท โดยได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.ธัญบุรี วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564 เช่นเดียวกัน จนปัจจุบันก็ยังมาก่อเหตุซ้ำโดยไม่สามารถติดตามตัวมาลงโทษได้แต่อย่างอย่างใด
น.ส.ณัฏฐวี ทองทา อายุ 35 ปี พนักงานเติมน้ำมัน กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2564 เวลา 13.12 น.ขณะนั้นมีรถเข้ามาเติมน้ำมันจำนวนมาก มาถึงรถคันก่อเหตุคนขับได้บอกกับตนว่า เติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 เต็มถัง พอเติมเสร็จเป็นเงิน 1,380 บาท ทางตนก็ขอเก็บเงิน คนขับตอบว่าจะรีบพาภรรยาไปโรงพยาบาล และลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ที่บ้าน จากนั้นได้ยื่นบัตรประชาชนมาให้ และบอกว่า เดี๋ยวจะเอาเงินมาจ่าย ตนเลยบอกว่า พี่รอก่อนนะ เพราะจะไปบอกกับผู้จัดการปั๊ม เพราะตนเป็นเพียงพนักงานเติมน้ำมัน ไม่มีอำนาจตัดสินใจ แต่ทางผู้ก่อเหตุนั้นไม่รอ และได้ขับรถออกไปจากปั๊มน้ำมันทันที ตนก็เห็นจากข่าวที่เคยเป็นข่าวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ว่า เคยอ้างเช่นนี้กับร้านอาหารย่าน คลอง 8 ธัญบุรี แบบนี้เช่นกันก็ไม่คิดว่าจะเจอกับตน
เบื้องตนเจ้าของปั๊มได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.ธัญบุรี แล้ว แต่พอเอาภาพป้ายทะเบียนรถไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบกับบุคคลดังกล่าว กลับไม่ใช่เจ้าของรถเก๋งคันที่ก่อเหตุ เป็นชื่อผู้สูงอายุท่านหนึ่ง และปล่อยให้ทะเบียนขาดมานานหลายปีแล้ว ก็ขอฝากไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ธัญบุรี ช่วยติดตามผู้ก่อเหตุมารับผิดชอบ เพราะตนเองต้องชดใช้ค่าน้ำมันให้กับเจ้าของปั๊ม เป็นเงิน 1,380.03 บาท ตนเองทำงานเพียงวันละ 300 บาท จะต้องถูกหักค่าแรงไปเกือบ 5 วัน ตอนนี้ตนก็ลำบากอยู่แล้วช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 และทำงานวันเว้นวันเงินเดือนเหลือเพียง 4,500 บาท
ทุกวันนี้ตนยังต้องส่งเสียให้แม่ที่จังหวัดชัยภูมิอีก ก่อนหน้านี้ สามีภรรยาคู่นี้เคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันนี้กับร้านเจ๊นกก๋วยเตี๋ยวเรือ 2 ชั้น สาขา 2 คลอง 8 (ธัญบุรี) โดยการมานั่งรับประทานอาหารแล้วอ้างว่าลืมกระเป๋าสตางค์และเบี้ยวค่าอาหารเป็นเงิน 154 บาท โดยได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.ธัญบุรี วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564 เช่นเดียวกัน จนปัจจุบันก็ยังมาก่อเหตุซ้ำโดยไม่สามารถติดตามตัวมาลงโทษได้แต่อย่างอย่างใด