MGR Online - น.2 เตือนชุมนุม 3 กลุ่มวันนี้ผิด พ.รงก.ฉุกเฉิน เผยเหตุการณ์คืน 6 ตุลาฯ ทะลุแก๊สแตกฮือหนีเข้าแฟลตดินแดง ตามรวบได้ 28 คน คฝ.หนุ่มถูกยิงด้วยกระสุนทำจากทองแดง ทะลุหมวกกันน็อกฝังศีรษะ อาการน่าเป็นห่วง หวั่นติดเชื้อในสมอง ยันวิถีกระสุนมาจากฝั่งม็อบ คาดมือยิงอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม เตรียมสาวถึงผู้สนับสนุน ตำรวจไม่ได้ยิงกันเอง เผยสอบผู้ก่อเหตุ 1 รายรับใช้ปืนจริง อีกรายสารภาพปลอมเป็นบุรุษพยาบาลแจกระเบิด ตอกย้ำไม่ได้ชุมนุมสงบ แต่เป็นอาชญากรรม
วันนี้ (7 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวว่า ในวันนี้มีการนัดหมายชุมนุมทางการเมืองของ กลุ่มพลเมืองโต้กลับ เวลา 17.00 น. ที่หน้าศาลฎีกา, กลุ่มเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิของประชาชน เวลา 09.00 น. ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล, กลุ่มทะลุแก๊ส เวลา 17.30 น. ที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง บช.น.เตือนว่ากรุงเทพฯ ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.ได้จัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติภายใต้กรอบกฏหมาย เส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบและควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ถนนพิษณุโลก, ถนนอโศก-ดินแดง, ถนนวิภาวดีรังสิต (แยกสามเหลี่ยมดินแดง-แยกสุทธิสาร), ซอยพหลโยธิน 2, ทางลงด่วนดินแดง, อุโมงค์ดินแดง
สำหรับการชุมนุมของ 3 กลุ่ม เมื่อวานนี้ (6 ต.ค.) กลุ่มนายสุเทพ สุริยะมงคล เวลา 06.00 น. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ท่าพระจันทร์ จัดกิจกรรมรำลึก 45 ปี 6 ตุลา ได้จุดไฟเผาศพจำลองบริเวณสนามฟุตบอล, กลุ่มพลเมืองโต้กลับ เวลา 17.00 น. ที่หน้าศาลฎีกา โดยทั้ง 2 กลุ่ม เป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีเหตุรุนแรง, กลุ่มทะลุแก๊ส เวลา 19.30 น. ที่ซอยมิตรไมตรี 2 ใกล้แยกสามเหลี่ยมดินแดง ได้ขว้างปาประทัดและพลุใส่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) เวลา 20.55 น. จุดไฟเผายางรถยนต์บนถนนและขว้างปาประทัดอย่างต่อเนื่อง เวลา 22.30 น. ตำรวจ คฝ.เข้ากระชับพื้นที่และรักษาความสงบเรียบร้อยไว้ได้ ผู้ชุมนุมหลบหนีเข้าไปภายในแฟลตดินแดง และซอยต้นโพธิ์ ตำรวจสามารถติดตามจับกุมได้ทั้งหมด 28 ราย (ผู้ใหญ่ 5 ราย เยาวชน 23 ราย) แจ้งข้อหา "ออกนอกเคหะสถานระหว่างเวลา 22.00-04.00 น., มีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย" พร้อมยึดของกลางได้หลายรายการ
"สรุปการดำเนินคดีตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค.2564 รวมทั้งสิ้น 20 คดี ผู้ต้องหา 28 ราย ภาพรวมตั้งแต่เดือน ก.ค.2563 รวมทั้งสิ้น 620 คดี สอบสวนแล้ว 278 คดี อยู่ระหว่างสอบสวน 342 คดี"โฆษก บช.น.กล่าว
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวต่อว่า ระหว่างติดตามจับกุมผู้ชุมนุมที่หลบหนีเข้าไปแฟลตดินแดง ส.ต.ต.เดชวิทย์ เล็ทเทนสัน ตำรวจ คฝ.ถูกยิงเข้าที่ขมับซ้าย จึงนำตัวส่งรักษาที่ รพ.ตำรวจ แพทย์ทำการผ่าตัดเอากระสุนออกเรียบร้อยแล้ว อาการยังน่าเป็นห่วงต้องใช้ท่อช่วยหายใจ เฝ้าระวังการติดเชื้อในสมอง และระบบหายใจ อยากฝากถึงมารดา ส.ต.ต.เดชวิทย์ หลังรู้สึกไม่ดีกับมาตรการป้องกันของ บช.น.ว่า ผบ.ตร.และ ผบช.น.มีความห่วงใยและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้กำชับ รพ.ตำรวจ ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นติดตามการรักษา ช่วยเหลือเรื่องสวัสดิการต่างๆ อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ขอเตือนประชาชนในพื้นที่ห้ามออกนอกเคหสถาน และประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาในช่วงก่อความไม่สงบ เนื่องจากผู้ชุมนุมใช้อาวุธปืนจริงอาจได้รับอันตราย ถ้าพบเบาะแสผู้กระทำความผิดให้แจ้งข้อมูลที่ 191
ส่วนเบาะแสผู้ก่อเหตุยิง ส.ต.ต.เดชวิทย์ เมื่อวานนี้เบื้องต้นทราบว่าอยู่ในกลุ่มของผู้ชุมนุม ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนมีข้อมูลพอสมควรอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม คาดว่าสามารถติดตามจับกุมตัวได้เร็วๆ นี้ ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าผู้ต้องหาทั้ง 28 ราย ที่ถูกจับกุมยิง ส.ต.ต.เดชวิทย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์อาวุธปืน กระสุน ในที่เกิดเหตุว่าเป็นชนิดใด รวมถึงตรวจสอบว่ายิงจำนวนกี่นัด แต่ในการผ่าตัดพบเพียง 1 นัด ทำจากวัตถุทองแดง เป็นอาวุธรุนแรงเพราะทะลุหมวกกันน็อกเข้าขมับซ้ายฝังศีรษะ ส่วนจะเป็นกระสุนชนิด R.I.P. ที่มีอานุภาพรุนแรงหรือไม่ ต้องรอผู้เชี่ยวชาญยืนยันอีกครั้ง ถ้าเป็นกระสุนดังกล่าวจริงผู้ชุมนุมมีศักยภาพเพียงพอในการซื้อใช้หรือไม่ เนื่องจากมีราคาแพงและหายากนั้น ตำรวจจะสืบสวนสอบสวนการปฏิบัติของผู้ก่อเหตุ และผู้สนับสนุนว่ามีการจัดหาอาวุธให้หรือไม่
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวต่อว่า กรณีในโลกออนไลน์ตั้งข้อสังเกตว่าการยิงครั้งนี้อาจไม่ใช่ฝีมือของผู้ชุมนุม แต่มาจากตำรวจ หรือบุคคลที่อยู่บริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ตำรวจต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้สิ้นข้อสงสัย เบื้องต้นแนววิถีกระสุนมาจากฝั่งตรงข้ามตำรวจ คฝ.ส่วนตำรวจจะยิงกันเองหรือไม่ ในการปฏิบัติของตำรวจ คฝ.ไม่พกอาวุธปืนจริง การก่อความไม่สงบที่ผ่านมาผู้ชุมนุมใช้อาวุธจริงเห็นได้ว่าตำรวจและประชาชนได้รับบาดเจ็บเป็นประจำ ผบ.ตร.ห่วงใยตำรวจเรื่องการก่อความไม่สงบ ที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง แม้จำนวนผู้ชุมนุมลดลงแต่กลับเน้นความรุนแรงมากขึ้น
เมื่อวานนี้ ผบช.น.ลงพื้นที่ควบคุมการปฏิบัติด้วยตัวเองแล้วสามารถจับกุมได้ จากการสอบถามผู้ชุมนุม 2 ราย รายที่ 1 รับสารภาพว่าใช้อาวุธปืนจริง รายที่ 2 รับสารภาพว่าได้ปรับยุทธวิธีโดยทำหน้าที่คล้ายบุรุษพยาบาล ถือกระเป๋าเครื่องมือปฐมพยาบาลซุกระเบิดแสวงเครื่อง 3 ลูก เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ชุมนุมใช้ก่อเหตุ เป็นสิ่งตอกย้ำว่าการก่อเหตุไม่ถือว่าเป็นการชุมนุมโดยสงบ และปราศจากอาวุธตามรัฐธรรมนูญ การกระทำดังกล่าวเป็นการก่ออาชญากรรมประเภทหนึ่งทั้งปืน และระเบิดนั้นเป็นอาวุธร้ายแรงอาจเกิดอันตรายแก่ตำรวจ และประชาชน บช.น.จะปฏิบัติอย่างเคร่งครัดติดตามจับกุมโดยเร็ว ยุทธวิธีของผู้ชุมนุมนอกจากใช้อาวุธจริงแล้ว ยังติดตามความเคลื่อนไหวของตำรวจเพื่อดักทำร้ายแต่ละจุด เมื่อเข้าติดตามจับกุมผู้ชุมนุมจะหลบหนีเข้าไปแฟลตดินแดง และซอยต้นโพธิ์ เพื่อให้สังคมเห็นว่าชาวแฟลตดินแดงมีส่วนร่วมในการชุมนุม ในความเป็นจริงส่วนใหญ่พร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจ และอยากให้เกิดความสงบสุข ตนยืนยันว่าการปฏิบัติการของตำรวจได้รับความร่วมมือจากชาวแฟลตดินแดงเป็นอย่างดี
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.กล่าวว่า สำหรับ ส.ต.ต.เดชวิทย์ เล็ทเทนสัน เป็นลูกครึ่งไทย-เบลเยียม มีความฝันอยากเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ตั้งแต่เด็ก มีจิตวิญญาณความเป็นตำรวจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ ปัจจุบันเป็นกำลังหลักของครองครัว สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เป็นอุทาหรณ์ แสดงชัดเจนว่าผู้ชุมนุมใช้อาวุธจริงก่อเหตุ หลังจากนี้ตำรวจจะปรับแผนการปฏิบัติทั้งยุทธวิธี ยุทโธปกรณ์ ในการรักษาความสงบเรียบร้อยให้รัดกุมมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยของตำรวจ และประชาชน ขอแสดงความเสียใจแม้ขณะนี้แพทย์กำลังเฝ้ารักษาอย่างเต็มที่ แต่เราไม่อยากเห็นภาพตำรวจได้รับบาดเจ็บ.