xs
xsm
sm
md
lg

พิยดา พันซ์ สาวแสบ 18 มงกุฎ โคตรโกงโจรอำมหิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ถอนหมุดข่าว”ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 27 ก.ย.64 นำเสนอรายงานพิเศษ พิยดา พันซ์ สาวแสบ 18 มงกุฎ โคตรโกงโจรอำมหิต



นาทีนี้ อาชญากรตัวร้ายที่สังคมอยากเห็นตัวจริงเสียงจริงมากที่สุด คือ น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ หรือพันช์ โจรสาววัยรุ่น ที่ผู้คนกำลังก่นประณามสาปแช่งอย่างดุเดือด
แม้วัยแค่ 19 ปี แต่ พิยดา กลับมีชั้นเชิงการประกอบอาญากรรม ในระดับโจรเหยียบเมฆ

วางโครงสร้างธุรกิจฉ้อโกงของตัว อย่างสลับซับซ้อน ยากแก่การสืบสวนติดตาม โดยใช้หลักการสำคัญ “ปลอมทุกอย่างที่ขวางหน้า”

ยกเว้นหน้าตาตัวเอง ที่เอามาโพสต์เผยโฉม เพื่อสร้างภาพลักษณ์สาววัยรุ่นผู้ร่ำรวย ใช้ของแบรนด์เนม รถยนต์หรูป้ายแดง บ้านหลังโต รวมถึงยอดเงินฝากในธนาคาร 42 ล้านบาท

เป็นการอวดด้วยความลำพองใจในความเก่งกาจของตัว ขณะเดียวกัน ก็เป็นการสร้างโปรไฟล์ล่อหลอกบรรดาลูกค้าให้หลงเชื่อด้วย

พิยดา ทองคำพันธ์ เริ่มชีวิตการเป็นโจรต้มตุ๋นแต่เด็ก จนโดนข้อหาฉ้อโกงตั้งแต่อายุ 16 ปี ด้วยการนำบัตรประชาชนของมารดาที่เสียชีวิตไปแล้ว มาเปิดบัญชีธนาคาร

ธุรกิจฉ้อโกงที่ทำเงินมหาศาล คือการเปิดร้านขายโทรศัพท์มือถือออนไลน์ ชื่อร้านว่า Phonebymint และอื่นๆ อีกหลายชื่อ

จุดขายของร้านของพิยดา จะเน้นไปที่ไอโฟน ไอแพด แอปเปิลวอช ที่เป็นของมือสอง สภาพดี ราคาเย้ายวนใจ โปรโมชั่นงามๆ

โดยจุดขายแรงๆ ก็คือ พร้อมส่งด่วน สินค้าถึงมือภายใน 2 ชั่วโมง แม้แต่ตามต่างจังหวัด ที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ

พอเหยื่อหลงเชื่อ โอนเงินค่าของให้ ก็จะถูกบล็อกการติดต่อไป ไอโฟนทิพย์ไม่มีวันไปถึงมือ

แต่การแจ้งจับเอาผิด พันช์ พิยดา ใช่จะเข้าถึงตัวเธอง่ายๆ เพราะบัญชีรับโอนเงินจากลูกค้า เป็นบัญชีที่จ้างคนอื่นเปิดทั้งสิ้น เบอร์โทรติดต่อก็เบอร์คนอื่น ไม่สามารถเช็กในฐานข้อมูลการโกงออนไลน์ได้

แต่สุดท้าย เงินที่ได้รับโอนมาจากลูกค้าสู่บัญชีต่างๆ เหล่านั้น ก็จะไหลไปสู่บัญชีของเธอแต่เพียงผู้เดียว

กิจการโกงขายมือถือ คงจะดำเนินไปได้อีกนาน ถ้าไม่เกิดเหตุร้ายกับเหยื่อของพิยดา

คือน้องก้อง เด็กชายวัย 14 ปี จาก อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ หลงเชื่อซื้อ ไอโฟน 7 มือสองจากร้าน Phonebymint ด้วยราคา 5,000 บาท โดยน้องตั้งใจจะนำมาใช้เรียนออนไลน์ แต่เมื่อไม่ได้รับของ เด็กน้อยก็เครียดจัดจนเส้นเลือดสมองแตกตาย

พฤติกรรมฉ้อโกงรายเล็กรายน้อย ที่ดำเนินมาหลายปี กลายเป็นคดีความใหญ๋โต ในชั่วข้ามคืน

ตำรวจไซเบอร์ หรือ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) จึงได้ฤกษ์ออกแอคชั่นขึงขัง ลุยจับผู้ต้องหาร่วมขบวนการ 2 รายแรกทันควัน

เป็นสาววัยรุ่น 2 คน น.ส.นฤมล ชำนาญ อายุ 18 ปี และ น.ส.สายน้ำผึ้ง ชนะมาร อายุ 19 ปี

พร้อมกับสืบสวนจนพบที่อยู่ของ พิยดา ก็คือบ้านของแฟนเธอเอง ในหมู่บ้านเฟอร์เฟคเพลส 4 ย่านถนนราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี จึงตามไปยึดทรัพย์สินของกลางมาได้บางส่วน

ประกอบด้วย รถยนต์ 3 คัน ได้แก่ โตโยต้าวีออส สีขาว, BMW 320i SE สีขาว และ BMW 330e M Sport สีขาว บัตรวีซ่าหลายใบ คอมพิวเตอร์ MacBook 2 เครื่อง กระเป๋าแบรนด์เนม Gucci, Chanel, Balenciaga รวมทั้งหมด 10 กว่าใบ

แต่พิยดา ไหวตัวทัน หลบหนีเข้ากลีบเมฆไปแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน ยังอยู่ในเมืองไทยหรือเมืองนอก

เบื้องต้น ผู้ต้องหาสาว 18 และ 19 ที่เป็นนอมินีรับจ้างเปิดบัญชีให้ อ้างว่าตัวเองเป็นแค่เหยื่อของ พิยดา อีกที ถูกจ้างให้เปิดบัญชีธนาคาร ด้วยค่าตอบแทน 8,000 บาท แต่พอดำเนินการให้เสร็จ ก็ถูก พิยดา บล็อก แล้วหลบหนีไป โดยไม่ได้จ่ายค่าตอบแทนใดๆ

จากการสอบสวนพบว่า บัญชีธนาคารที่เป็นนอมินีของ พิยดา ไม่ใช่มีแค่ 2 คนนี้ หากแต่มีมากกว่า 20 ราย

ส่วนอินสตาแกรม ที่เปิดขายมือถือ ก็มีแอคเคาท์นับไม่ถ้วน ถ้าร้านไหนถูกจับได้ไล่ทันก็ปิดหนีไป

แล้วก็เป็นเรื่องประจวบเหมาะอย่างจัง เมื่อ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เพิ่งมีคำสั่งลงวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้ยึดทรัพย์ น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์

พร้อมให้ผู้เสียหายของ พิยดา มายื่นหลักฐานแสดงความเสียหายที่ได้รับต่อ ปปง. ภายใน 30 วัน

ส่วนตำรวจไซเบอร์ที่ขยับล่าตัว โจรสาว 18 มงกุฏรายนี้ ใช้หมายจับคดีเดียวของตำรวจเชียงใหม่ ในกรณีฉ้อโกงน้องก้อง

ขณะที่ในความเป็นจริง มีเหยื่อของ พิยดา รวมแล้วกว่า 500 ราย ทั้งหมดรวมตัวกันแจ้งความกันมานานนับปีแล้ว มูลค่าความเสียหายตั้งแต่เกือบ 30,000 บาท ลงมาถึง 3,000 บาท รวมเป็นเงินหมุนเวียนของโจรสาววัย 19 จำนวนถึง 35 ล้านบาท

มีการเปิดหลักฐานจากเหยื่อหลายราย บางรายที่เข้าทวงเงินหรือโต้เถียงกับ พันช์ พิยดา ก็จะถูกตอกกลับด้วยข้อความเย้ยหยันเจ็บปวด เช่นคำว่า “อีจน หน้าเหมือนผ้าเช็ดตีนที่บ้านกู”

สวนทางกับจิตใจหยาบช้า คำพูดต่ำตม พิยดาชอบโพสต์ภาพอวดรวย ทั้งการขับรถเบนซ์ ทั้งยืนโพสต์ท่าในชุดสวยๆ ต่อหน้ารถบีเอ็มป้ายแดง พรีเซนต์ชีวิตกินหรูอยู่สบาย แม้แต่เที่ยวเมืองนอกท่ามกลางละอองหิมะ

พอมีผู้เสียหายเริ่มโวยวายกับพฤติกรรมฉ้อโกง ก็ใช้วิธีบลัฟกลับ โพสต์ภาพเอกสารหลักฐาน อ้างว่าตัวเองไปแจ้งความกลับคนที่มาใส่ความทั้งหลาย

การต้มตุ๋นฉ้อโกง ไม่เว้นแม้แต่เด็ก จนกระทั่งมีเด็กต้องเสียชีวิตไป ถือเป็นความใจดำอำมหิตของโจรสาวหน้าสวย “อายุน้อยร้อยคดี” คนนี้

แต่คำถามจากชาวเนตก็ซัดไปถึงหน่วยตำรวจไซเบอร์เต็มๆ ถามว่า ถ้าคดีไม่บานปลายใหญ่โตขนาดนี้ ตำรวจจะทำงานหรือไม่?

ความงุ่มง่ามล่าช้าของตำรวจ ก็ถือเป็นความอำมหิตในรูปแบบหนึ่งเช่นเดียวกัน น้องก้อง คงยังมีชีวิตอยู่ ถ้าโจรสาวผู้นี้ โดนรวบไปอย่างฉับไว ทันทีที่มีการรวมตัวแจ้งความจากเหยื่อหลายร้อยราย

ตอนนี้ก็มีอีกคำถามสำคัญ แล้วตำรวจไซเบอร์ จะสามารถติดตามจับกุมตัว พิยดา ได้หรือไม่?

เพราะจิ้งจอกสาวคนนี้ เพียบพูนเล่ห์เหลี่ยมในทุกด้าน และความฉลาดแกมโกง ย่อมมีช่องทางที่จะหลบหนีรอดการไล่ล่าของตำรวจไปได้

ถ้าจับกุมไม่ได้ละก็ องค์กรตำรวจโดยรวม จะยิ่งเสียหายหนักกว่านี้ เพราะแค่นี้ก็โดนเยาะเย้ยถากถาง ประมาณว่า เก่งก็แต่จับน้องไข่เน่า ที่ไม่ได้มีพิษมีภัยใดๆ แหละว้า


กำลังโหลดความคิดเห็น