MGR Online - โฆษกนครบาลเตือน ทะลุแก๊ส รวมตัววันนี้ หาช่องทางบังคับใช้กฎหมาย โดยไม่กระทบประชาชน หลังม็อบดินแดงลดน้อยลง แต่ยังก่อเหตุ เร่งตรวจสอบอ้างตัวเป็นแกนนำ จับกุมแล้ว 552 ราย
วันนี้ (21 ก.ย.) เวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวว่า ในวันนี้มีการนัดหมายชุมนุมทางการเมืองของ กลุ่มทะลุแก๊ส ที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง บช.น.เตือนว่า กรุงเทพฯประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อ โดยจัดกำลังตำรวจรักษาความสงบเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรไว้แล้ว
สำหรับการชุมนุมเมื่อวานนี้ (20 ก.ย.) ที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง เวลา 19.00 น. กลุ่มมวลชนได้ทุบทำลายทรัพย์สินของทางราชการ สาธารณประโยชน์ และประชาชน จุดไฟเผาป้ายวิทยาลัยการจัดการ ม.มหิดล ขว้างปาสิ่งของภายใน รพ.ทหารผ่านศึก และกรมดุริยางค์ทหารบก เวลา 20.00 น. ตำรวจเข้ารักษาความสงบเรียบร้อย และรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ในข้อหา “ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง, เมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมให้เลิกไปแล้วไม่เลิก, พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.จราจรทางบก”
สรุปการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมตั้งแต่เดือน ก.ค. 2564 รวมทั้งสิ้น 219 คดี มีผู้ต้องหา 797 คน ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 552 คน นอกจากนี้ เป็นระยะเวลากว่า 1 สัปดาห์แล้ว ที่มวลชนบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง ลดน้อยลงแต่ยังคงก่อเหตุทุกวัน บช.น.จะมีการเข้าควบคุมพื้นที่ให้เรียบร้อยมากกว่านี้หรือไม่ เป็นแนวทางรักษาความสงบเรียบร้อยของ บช.น.แต่ต้องดูความเหมาะสมในการบังคับใช้กฎหมาย และการรักษาความสงบเรียบร้อย ถ้ามีช่องทางที่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ โดยไม่กระทบกับประชาชนทั่วไปก็จะเร่งดำเนินการให้
“กรณี กลุ่มทะลุแก๊ส โหวตนัดหมายรวมตัวสถานที่อื่น คงจะต้องติดตามสถานการณ์การข่าว โดยทุกพื้นที่ในกรุงเทพฯได้เตรียมความพร้อมรับมือ และรักษาความสงบเรียบร้อยให้กับกลุ่มมวลชน ส่วนที่มีผู้อ้างตัวว่าเป็นแกนนำ กลุ่มทะลุแก๊ส อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง” รองฯต๊ะ กล่าว
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.กล่าวว่า การดำเนินคดีตั้งแต่เดือน ก.ค. 2564 มีผู้ต้องหา 797 คน ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 552 คน เหลืออีก 200 กว่าราย ตัวเลขแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการบังคับใช้กฎหมาย ผู้ออกมาก่อเหตุในอดีต หรือผู้ยุงยงปลุกปั่นในลักษณะต่างๆ สุดท้ายแล้วคงหนีไม่พ้น จำนวนมวลชนที่ออกมาแม้ว่าน้อยลงไม่ใช่ประเด็น ออกมา 1 คน ก่อความวุ่นวายก็ถือว่าเป็นเหตุความวุ่นวาย อยากฝากว่าอะไรที่ไม่จำเป็นไม่อยากให้ทำ และให้หยุดพฤติกรรมเหล่านี้ ขอให้เห็นใจเนื่องจากประชาชนบริเวณใกล้เคียงเดือดร้อน
