รายการ “ถอนหมุดข่าว” ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 13 ก.ย.64 นำเสนอรายงานพิเศษ เทรนต์ฮิตเพศพาณิชย์ ขายวิวเล่นสยิว โกยเงินล้าน
เข้าไปทัวร์นอนคุก จนได้ประกันตัวออกมาเรียบร้อยแล้ว สำหรับสาวสักลายสุดซ่า “รัชฎาพร อาทะ” วัย 34 ปี ที่จอดรถในที่สาธารณะ แล้วปฏิบัติการ “คืนความสุขให้ FC” ด้วยการเปิดหน้าอกให้ FC ดูดเต้าอย่างหิวกระหาย
โดยสามีของเธอเอง “บิล ศิธรกุล” อายุ 34 ปีเท่ากัน เป็นคนถ่ายทำคลิปทุกขั้นตอน ไม่ใช่แค่คลิปแจกนมดังกล่าวเท่านั้น แต่ยังมีคลิปของเธอร่วมเพศกับชายหนุ่ม โดยให้สามีเป็นตากล้อง จ่อถ่ายข้างๆ เช่นกัน
ตำรวจเชียงใหม่ จับกุมดำเนินคดีสองผัวเมียคู่นี้ เฉพาะกรณีเปิดหน้าอกคืนความสุข FC ด้วย 3 ข้อหา 1.แพร่สื่อลามกอนาจาร 2.นำสื่อลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และ 3.ความผิด พ.ร.บ.โรคติดต่อ ในสถานการณ์โควิด โดย 2 ข้อหาแรก ระวางโทษถึงขั้นจำคุก
เจ้าตัวเมื่อได้รับการประกันตัวออกมา ก็ไม่ได้ซ่อนหน้าอับอายใดๆ แต่กลับรีบแจ้งข่าวถึงเหล่า FC ให้ติดตามเธอต่อไปทางสื่อโซเชียลช่องทางต่างๆ กลายเป็นพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้อีก
เธอชี้แจงว่า เธอกับแฟนถ่ายคลิปต่างๆ เพื่อเป็นคอนเทนต์ในเว็บไซต์ อันเป็นชุมทางของสาวใจถึง OnlyFans.com เรียกค่าสมาชิกในการเข้าชมคลิปลับที่มีนับร้อยๆคลิป
โดยย้ำว่า เธอขายแต่วิว ไม่ได้ขายตัว ทุกคลิปไม่ว่าจะการดูดนม หรือร่วมเพศกับชายใด ก็ล้วนแต่ให้ฟรี ไม่เคยคิดเงินใดๆ เพียงแต่มีข้อแม้ ต้องมีการถ่ายคลิป เพื่อเป็นคอนเทนต์ 18+ ใน OnlyFans
นี่คือช่องทางประกอบอาชีพในเชิงพาณิชย์แนวใหม่ ในสังคมวิบัติ ที่กำลังเป็นเทรนต์ทั้งของไทยและทั่วโลก
เพียงแต่รายละเอียดในการ “โชว์หวิว” ก็จะแตกต่างไปกันตามความถนัด อย่างสาวสักลาย พร้อมจะหลับนอนกับชายอื่นมากหน้าหลายตา โดยมีสามีเธอเอง เป็นสักขีพยาน ถ่ายทำคลิปให้เสร็จสรรพ
ขณะที่อีกรายที่สร้างความฮือฮาในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน อย่างนักศึกษาสาวนิติศาสตร์ ปี 2 ที่ใช้นามแฝงว่า “น้องไข่เน่า” เลือกการหลับนอนกับแฟนหนุ่มของเธอคนเดียว แล้วช่วยกันถ่ายคลิป นำไปหาเงินค่าสมาชิกเข้าชมใน OnlyFans.com เช่นกัน
นัยว่าน้องไข่เน่า ได้รับความนิยมเป็น “กระบี่มือหนึ่ง” ของเหล่า Sex Creator ก็ว่าได้ เธอเปิดตัวให้สัมภาษณ์ออกสื่ออย่างเปิดเผยถึงอาชีพขายวิว 18+
โดยเฉพาะประเด็นที่ทำเอาคนฟังว้าวตามๆกัน คือการทำรายได้มหาศาล จากเดือนแรกที่ทำเงินจากสมาชิกได้แค่ 15,000 บาท กลายเป็นหลักล้านในเดือนที่สามเท่านั้น
น้องไข่เน่า ในลุคนักศึกษาสาวผมสั้น หน้าตาน่ารักแบบบ้านๆ กล้าเปิดหน้าพูดคุยออกสื่อด้วยรอยยิ้มเปิดกว้าง นำเสนอแนวคิด “ร่างกายเป็นเรื่องธรรมชาติ sex เป็นเรื่องธรรมชาติ”
มองรูปลักษณ์ภายนอก เชื่อว่าหลายๆคน แทบจะเชื่อเสียมิได้ในอาชีพเสริมระหว่างเรียนของเธอ
Sex Creator ของน้องไข่เน่า เทียบเคียงแล้วก็คือการเป็นนางเอกหนัง AV นั่นเอง แต่นอกจากแสดงเองแล้ว ยังถ่ายเอง กำกับเอง ตัดต่อเอง ทำทุกอย่างเองหมด ร่วมกับแฟนหนุ่มของเธอ
จุดขายคือความสดจริง ไม่ต้องมีบทภาพยนตร์ใดๆ ให้ซับซ้อน แค่ร่วมเพศกับแฟน แล้วตั้งกล้องให้สมาชิกดูไปด้วย จังหวะนั้นก็ปลดปล่อยอารมณ์ร่วมออกมาตามธรรมชาติ แค่นี้ก็โกยเงินค่าเข้าชมไม่หวาดไหว
จังหวะทำเงินของเธอ มาพร้อมกับการบูมของเว็บไซต์แหวกแนว OnlyFans.com ที่เปิดตัวมาหลายปีแล้ว แต่เพิ่งมาเป็นที่นิยมในระดับโลก ตั้งแต่ในช่วงล็อกดาวน์โควิดปีที่แล้ว
สาวๆใจถึงจากทั่วโลก ไหลมารวมกันใน OnlyFans ใช้ตรงนี้เป็นช่องทางทำเงิน เพราะเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ฉีกกฎเกณฑ์ของ facebook หรือ Instagram อย่างสิ้นเชิง
ระบบนิเวศน์สื่อของ OnlyFans เป็นมิตรต่อสังคม 18+ นอกจากไม่ปิดกั้นแบบโซเชียลมีเดียอื่น ยังสร้างเครื่องมือการทำเงินให้ Creator ผ่านการ subscribe โดยกติกาการแบ่งเงินรายได้ Creator รับไป 80% ส่วน OnlyFans ได้ 20%
หน้าที่ของ Creator ก็คือสร้างผลงานโดนใจผู้ติดตามให้มากที่สุด ซึ่ง “น้องไข่เน่า” ถือเป็นผู้ปักธงได้สำเร็จ ในฐานะดาวเด่นหมายเลข 1 ในไทย ณ เวลานี้
ย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน เคยมีกรณีของ “น้องแนท” เกศริน ชัยเฉลิมพล ที่โกอินเตอร์ไปแสดงหนัง AV ของญี่ปุ่น
ข่าวโด่งดังเป็นพลุแตกที่ออกมาช่วงนั้น ทำเอาน้องแนทต้องฝ่ามรสุมคำก่นประณามไม่น้อย เพราะคนไทยถือว่าเธอแหกขนบอันงดงามของสาวไทย และนิยามความเป็นไทยแบบ “เมืองไทยเราเมืองพุทธ”
แถมมีตำรวจ “หิวแสง” ลากเธอมาสู่โฟกัสของข่าว ยิ่งเป็นการขย่มน้องแนทจนแทบเอาตัวไม่รอด
อย่างไรก็ดี หลังจากน้องแนทสารภาพผิดทุกอย่าง สังคมแม้แต่สมัยนั้นก็แสดงความเข้าใจเห็นใจ และจนบัดนี้ น้องแนทก็ยังเป็นคนดังคนหนึ่ง ที่ยืนอยู่ในสังคมไทยได้อย่างปกติสุขดี
หรือแปลว่า น้องไข่เน่าได้แสดงความเป็นเธอออกมาได้เข้ากับยุคสมัย โดยจากคำบอกเล่าของเธอเอง แม้แต่มารดาที่ตอนแรกไม่เห็นด้วย บัดนี้ก็เปิดไฟเขียวผ่านตลอด
รวมถึงเพื่อนรอบตัว ก็ล้วนแต่ซัพพอร์ตในสิ่งที่น้องไข่เน่าทำอยู่ เพราะมุมมองแบบว่า ร่างกายเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ใช่การแหกคอกในวัฒนธรรมไทยอีกต่อไป
จะเห็นได้ว่า สังคมไทยไม่ได้เต้นแร้งเต้นกาใดๆ กับการมีนักศึกษาสาวนิติศาสตร์คนหนึ่ง มาทำงานอะไรแบบนี้ หรือกล่าวได้ว่า เธอแทบจะฝ่าด่านสำคัญมาได้แทบทุกอย่าง
อย่างไรก็ตาม คำหนึ่งที่น้องไข่เน่าลั่นออกมา ในระหว่างการสัมภาษณ์เปิดใจสื่อ คือเรียกร้องว่า พอได้แล้วกับคำว่า “เมืองไทยเราเมืองพุทธ” เหมือนจะบอกว่า วลีนี้ มันเป็นเรื่อง fake ไม่สอดรับกับเมืองไทยจริงๆ ซะหน่อย
เมื่อน้องไข่เน่าสามารถฉีกกฎวัฒนธรรมไทยมาได้ โดยมีรายได้งดงามจากเพศพาณิชย์เทรนต์ใหม่เป็นตัวเย้ายวน จึงน่าเชื่อว่าจะมีนักศึกษาสาวไทยใจถึงอีกจำนวนมาก พร้อมจะก้าวเดิน เจริญรอยตามรุ่นพี่ เพื่อแลกกับพระเจ้าของคนยุคสังคมวิบัติ ซึ่งก็คือเงินตรา! นั่นเอง