xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ตร.สั่งโอนคดี “ผกก.โจ้” ให้กองปราบฯ ขยายผลเช็กเส้นทางการเงินคลี่ปมรวยผิดปกติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - ผบ.ตร.มีคำสั่งโอนคดี ผกก.โจ้” กับพวก ซ้อมทรมานผู้ต้องหาให้กองปราบฯ รับผิดชอบ ขยายผลทุกมิติ ตรวจสอบเส้นทางการเงินหลังพบร่ำรวยผิดปกติ ล้อมคอกสั่งเช็กประวัติตำรวจชุดปราบยาเสพติด ชี้หากใครไม่ดีต้องปรับออก

วันนี้ (27 ส.ค.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ พร้อมพวกรวม 7 นาย ซ้อมทรมานผู้ต้องหาคดียาเสพติด ว่า ได้สั่งการให้มีการโอนคดีมาให้กองบังคับการปราบปรามเป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากที่ผ่านมากองปราบฯ ได้เข้าร่วมปฏิบัติการกับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 และ จ.นครสวรรค์ มาโดยตลอดจึงมีความเข้าใจ และมีความคล่องตัวในการขยายผลไปถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยหลังจากนี้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.ในฐานหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ก็จะไปสอบสวนขยายผลต่อว่ามีใครอีกที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งประเด็นเกี่ยวกับความร่ำรวยผิดปกติ กองปราบฯ ก็จะไปขยายผลในส่วนนี้ด้วย ส่วนการประสานกับ ปปง. ในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการตามกฎหมายอยู่แล้ว

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนประเด็นเรื่องคำให้การของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ นั้น ผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ เป็นสิทธิของเขา ส่วนเราจะเชื่อไม่เชื่อก็อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งในการทำคดีตำรวจมีการรับฟังพยานหลักฐานอื่นๆ รอบด้าน ไม่จำเป็นต้องเชื่อตามนั้น ไม่ใช่คุยกันแค่นี้แล้วจบ ต้องมีการสอบสวนพยานบุคคล พยานเอกสาร ดูคลิปต่างๆ ประกอบด้วย

เมื่อถามว่า จะมีการยกเครื่องการสืบสวนสอบสวนคดีเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ตนเองได้สั่งไปแล้วให้ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร.ในฐานะที่เป็นหัวหน้างานด้านปราบปรามยาเสพติดไปตรวจสอบประวัติและความประพฤติตำรวจที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับยาเสพติดเรียงบุคคลว่าแต่ละคนมีความประพฤติเป็นอย่างไร เคยถูกร้องเรียนหรือไม่ มีความเหมาะสมแค่ไหน โดยให้มีการรับรองเป็นรายๆไป หากมีปัญหาหรือมีพฤติกรรมไม่ดีหรือย่อหย่อน อาจจะทำให้เกิดข้อสงสัยหรือความเสียหายต่อการปฏิบัติหน้าที่ ผู้บังคับบัญชาก็ต้องเปลี่ยนตัว แล้วผู้บังคับบัญชาต้องรับรองด้วยตัวเองเป็นกรณีเฉพาะรายไป

“เรื่องนี้ต้องช่วยกันทุกคน ผู้บังคับบัญชาต้องเป็นตัวอย่าง ถ้าลูกน้องเห็นว่านายเป็นแบบไหนส่วนใหญ่กฌป็นแบบนั้น ฉะนั้นหากใครที่ไม่อยู่ในร่องในรอย เราก็ต้องจัดการ ไม่งั้นก็จะเป็นแบบอย่าง แล้วก็ทำตาม แต่ถ้าเขาเห็นว่าถูกลงโทษแบบนี้ ผมก็เชื่อว่าไม่มีใครทำ” ผบ.ตร. กล่าว

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวไม่รู้สึกเครียดหรือโล่งใจที่สามารถจับกุม พ.ต.อ.ธิติสรรค์ กับพวกได้ เพราะเป็นหน้าที่ของตัวเองในฐานะ ผบ.ตร.อยู่แล้ว ทั้งนี้ ยืนยันว่า หากพบตำรวจคนใดทำผิดกฎหมายจะต้องดำเนินการโดยไม่มีละเว้น


กำลังโหลดความคิดเห็น