“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 24 สิงหาคม 2564 ตอน ฝุ่นตลบโผทหาร “ตท.20-21” ยังแรง
เข้าสู่โค้งสุดท้ายจริงๆ ของการจัดโผโยกย้ายนายพลปี2564 เตรียมเข้า “บอร์ด 7 เสือกลาโหม” หรือ คณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพล ที่มี “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม เป็นประธาน
และมี “บิ๊กช้าง”พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม “บิ๊กแก้ว”พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด และ ผบ.เหล่าทัพ เข้าร่วมประชุม เพื่อ “เคาะโผนายพล” ทั้งหมด วันที่ 25ส.ค.นี้ ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ตามขั้นตอนต่อไป
แม้ว่าเดือน ก.ย.นี้ จะมี ผบ.เหล่าทัพ เพียง 2 เหล่าทัพ และ ปลัดกระทรวงกลาโหม ที่เกษียณอายุราชการ แต่การแต่งตั้งกลับมีปัญหาระหว่างทางจน “ฝุ่นตลบ-ชุลมุน” ภายในกองทัพ ไม่น้อย
ข่าววงในว่า ไฮไลต์อยู่ที่ พลัง “เตรียมทหารรุ่น 20-21” ยังมีอิทธิพลในการจัดโผทหาร เริ่มที่กระทรวงกลาโหม โดย พล.อ.ณัฐ ปลัดกลาโหม ตท.20 จะเกษียณฯ ก.ย.นี้ ซึ่งในบรรดา “รองปลัดกลาโหม” ที่อาวุโสที่สุด คือ “บิ๊กเฒ่า”พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย เพื่อน ตท.20 ที่เกษียณฯก.ย.65 สามารถขึ้นเป็น “ปลัดกลาโหม” ได้เลย เพราะครองอาวุโสมากที่สุด
แต่ พล.อ.ณัฐ มีความตั้งใจ ให้ “เสธ.หน่อย”พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ เสนาธิการทหารบก เพื่อน ตท.20 ข้ามมาเป็น “ปลัดกลาโหม” เพราะเป็นเก้าอี้ปลัดกลาโหม ถูกยึดเป็นของ “ทหารบก” มายาวนาน จึงต้องควบกันต่อไป
จึงมีสูตรให้ พล.ร.อ.สมประสงค์ กลับไปกองทัพเรือ เพื่อขึ้นเป็น ผบ.ทร. คนต่อไป แต่ก็ติดที่เป็น “คนนอก ทร.” ไปแล้ว ซึ่งในบรรดาแคนดิเดต ผบ.ทร. ถือว่า พล.ร.อ.สมประสงค์ ครองอาวุโสที่สุด เพราะเป็น “พลเอกพิเศษ” มาแล้ว 2 ปี
แม้จะมีความชัดเจนแล้วว่า “บิ๊กอุ้ย”พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผบ.ทร.คนปัจจุบัน ที่ก็จบ ตท.20 ได้เสนอชื่อ “คนใน ทร.” นั่นคือ “บิ๊กโต้ง”พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ เสนาธิการทหารเรือ รุ่นน้อง ตท.21 เกษียณฯก.ย.66 จึงมีการมองว่าจะ “ถูกเปลี่ยน” ในที่ประชุม “บอร์ด 7 เสือกลาโหม” หรือไม่ ?
.
ข้ามมาที่ “ทุ่งดอนเมือง” กองทัพอากาศ เรียกได้ว่ามาแรงแซงโค้ง สำหรับชื่อ “บิ๊กป้อง”พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ประธานที่ปรึกษา ทอ. ที่เต็งหนึ่งขึ้นเป็น ผบ.ทอ. คนต่อไป เรียกได้ว่า “เหาะมา” เลยทีเดียว
สำหรับพล.อ.อ.นภาเดช เป็นบุตรชาย พล.อ.อ.ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ อดีต ผบ.ทอ. ผู้ล่วงลับไปแล้ว ทำให้ “บ้านธูปะเตมีย์” กำลังจะมี ผบ.ทอ. 2 คน
สำหรับ พล.อ.อ.นภาเดช เป็นเพื่อนร่วมรุ่น ตท.21 กับ “บิ๊กแอร์”พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผบ.ทอ.คนปัจจุบัน จึงทำให้ ผบ.ทอ. ยังคงอยู่ในมือรุ่น ตท.21 ต่อไปอีก 1 ปี ส่วน “เสธ.หนึ่ง”พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา เสนาธิการทหารอากาศ รุ่นน้อง ตท.23 ยังคง “รอได้” ลุ้นขึ้นเป็น ผบ.ทอ. ในปีหน้าได้ เพราะเกษียณฯก.ย.67
มากันที่ “ถิ่นมัฆวาน” กองทัพบก แม้จะไม่มีการเปลี่ยน ผบ.ทบ. แต่การจัดโผโยกย้ายครั้งนี้ “บิ๊กบี้”พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. มีอำนาจเต็มในการจัดโผโยย้ายนายพลครั้งแรก ในการ “วางขุนพล” ระยะยาว เพราะ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ยังคงเป็น ผบ.ทบ. ไปอีก 2 ปี จะเกษียณฯก.ย.66
แน่นอนว่า จะได้เห็นการวางคน “ฉบับบิ๊กบี้” โดยเฉพาะเครือข่าย ตท.22 ของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่น ตท. ด้วยกัน ได้แก่ พล.อ.อภินันท์ คำเพราะ จาก หัวหน้าสำนักงาน ผบ.ทบ. ขึ้นเป็น รอง ผบ.ทบ. “บิ๊กติ่ง” พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ จาก รองเสนาธิการทหารบก ขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และรุ่นน้อง ตท.23 “บิ๊กต่อ”พล.ท.เจริญชัย หินเธาว์ จาก แม่ทัพภาคที่ 1 ขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ทบ. จ่อขึ้นเป็น ผบ.ทบ. คนต่อไป
อย่างไรก็ตาม โผทหารของ ทบ. จะเรียบร้อยเป็นเหล่าทัพสุดท้าย เพราะพึ่งเสร็จสิ้นการคัดเลือกนายทหาร ทบ. ที่จะโอนไปเป็น ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ทม.รอ.)ทำให้ต้องมีการปรับโผทหารในตำแหน่งที่ว่างลงไป
.
มากันที่ “ถิ่นเสือป่า-แจ้งวัฒนะ” กองบัญชาการกองทัพไทย แม้จะยังไม่มีการเปลี่ยน ผบ.ทหารสูงสุด ยังคงเป็น “บิ๊กแก้ว”พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ตท.21 และเป็นนายทหาร ทม.รอ. ด้วย หลังโยกข้ามห้วยจาก กองทัพบก มายัง บก.กองทัพไทย ทำให้ พล.อ.เฉลิมพล เป็น “ทหารคอแดง” คนแรกที่ขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด และจะเกษียณฯก.ย.66
ซึ่งเป็นรู้กันว่าได้ “วางทายาท” ไว้แล้ว คือ “บิ๊กบุ๋ม”พล.ท.สุวิทย์ เกตุศรี ผู้บัญชาการศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายสากล ซึ่งเป็น “ทหารม้าคอแดง” เช่นเดียวกัน แต่เป็นรุ่นน้อง ตท.23 ที่เติบโตจาก พล.ม.2 รอ. มาด้วยกัน
ในสัปดาห์นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จึงมีภารกิจสำคัญ ในการวางขุนพลทหาร ซึ่งตำแหน่งทั้งหมดใช่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะควบคุมหรือยึดหัวหาดได้หมด แต่งานนี้ต้องจับตาดูว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะ “ล้วงลูก” หรือไม่
เพราะกองทัพถือเป็นสิ่งที่ค้ำอำนาจให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ มายาวนาน แม้ว่า ผบ.เหล่าทัพ ชุดปัจจุบันจะไม่ได้ใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ เฉกเช่น ผบ.เหล่าทัพ ยุคก่อนหน้านี้ รวมทั้ง “พลัง ตท.20-21” ที่ยังไม่แผ่ว และเหตุการณ์ทางการเมืองที่มีการชุมนุมมายาวนานกว่า 1 ปี พร้อมข้อเรียกร้องที่ทะลุเพดาน จึงทำให้การจัดโผทหารครั้งนี้ น่าจับตาอย่างยิ่ง