“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม 2564 ตอน ดับกระแส รัฐประหาร "บิ๊กตู่"อยู่ถึงกลางปี 65
เรื่องข่าวลือรัฐประหาร ที่มาควบกับการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี เผยแพร่ในโซเชียลมีเดียเมื่อหลายวันก่อน ทางด้าน พล.อ.ณรงค์พันธุ์ จิตตแก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ส่งลูกน้องไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ข่าวอันเป็นเท็จแล้ว
และอย่างรวดเร็ว ตำรวจก็ให้ข่าวว่า รู้ตัวคนที่เป็นต้นตอปล่อยข่าวรัฐประหารแล้วด้วย
ข่าวยึดอำนาจที่ว่า มีพลเอก ณรงค์พันธุ์ หรือบิ๊กบี้ เป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติ เป็น เฟคนิวส์ ไปเรียบร้อย และคนกุข่าวก็จะเป็นไก่ที่ถูกเชือดให้ลิงดู ให้พวกมือบอน เกรียนคีย์บอร์ดได้จดจำไว้เป็นอุทาหรณ์ กุข่าวมั่วก็จะเจอคดีแบบนี้
ต้องยอมรับว่า ระยะนี้ ข่าวลือ ข่าวปลอม ข่าวจริง ปนกันให้มั่วไปหมด แต่ถ้าเทียบกับสถานการณ์ปัจจุบัน การรัฐประหารอาจทำไม่ยาก แค่ฉีกรัฐธรรมนูญ ขับรถถังออกมา ประกาศยึดอำนาจผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ
แต่ขั้นตอนที่ไม่ง่ายคือ “การตัดสินใจ” ใครจะกล้าตัดสินใจทำ เพราะมันอาจได้ไม่คุ้มเสีย โดยเฉพาะในภาวะที่ไวรัสมรณะ โควิด-19 กำลังอาละวาด ยอดติดเชื้อทะลุเพดาน ยอดตายเป็นใบไม้ร่วง
การออกมาทำรัฐประหาร ยิ่งเป็นการซ้ำเติมประเทศให้ยิ่งแย่ ที่สำคัญ วันนี้เห็นแล้วว่า เผด็จการเบอร์ไหน โควิด-19 มันไม่กลัว ขืนทะเล่อทะล่ามายึดอำนาจ อาจจะโดนรุมสกรัม โดนทั้งโรคระบาดและคนทั่วแผ่นดิน เล่นงานเอา
ดูจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในขณะนี้ ขนาดมีกลไกล้นมือ เวินล้นกระเป๋า แต่เอาตัวแทบจะไม่รอด และกำลังง่อมพระรามกับการจัดการกับโรคโควิด การจัดหาวัคซีน ที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของคนในประเทศ
การแก้ปัญหาโควิด-19 ที่ระบาดคุกคามเข่นฆ่าชีวิตคน เป็นปัญหาที่ประชาชน เป็นวาระสำคัญ ที่ต้องการอาวุธคือวัคซีน และยา มาต่อสู้ ไม่ใช่ต้องการ นายพล
สำหรับวัคซีน เวลานี้ไทยไม่สามารถผลิตเองได้ และจะหาซื้อเอามาก็ยาก เราต้องพึ่งพาอาศัยขอซื้อจากต่างประเทศ และขอรับบริจาคจากพันธมิตรจากประเทศใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา จีน อังกฤษ และญี่ปุ่น
ถ้าหาก ใครตัดสินใจทำรัฐประหารตอนนี้ รัฐบาลทหารจะต้องเจอมาตรการบอยคอต การหยุด ระงับการให้ความช่วยเหลือประเทศ โดยเฉพาะการบริจาควัคซีน การจำหน่ายวัคซีน ตลอดจนการช่วยเหลือด้านระบบสาธารณสุข และอุปกรณ์การแพทย์
แน่นอน ชาติมหาอำนาจที่เป็นประเทศผลิตวัคซีนดังๆ คือ สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ ซึ่งเป็นพวกประชาธิปไตยจ๋า รับไม่ได้กับเผด็จการทหาร ย่อมต้องมีปฏิกิริยาอย่างรุนแรงแน่
ขณะเดียวกัน ในมิติเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบไปด้วย โดยเฉพาะภาคส่งออก ที่ทุกวันนี้เจอพิษโควิด-19 เข้าไปทำให้ไม่เติบโตเท่าที่ควร หากทำรัฐประหาร รับรองสภาพจะย่ำแย่ดิ่งเหวกว่าเดิม เพราะจะเจอมาตรการกีดกันทางการค้าของชาติมหาอำนาจที่รังเกียจการรัฐประหาร อีกหนึ่งดอก ซึ่งต้องกระอักแน่
ดูแล้ว ทุกปัจจัยไม่เหมาะให้ใครสักคนคิดทำรัฐประหารในตอนนี้ เพียงเพื่อต้องการเปลี่ยนตัว พล.อ.ประยุทธ์
ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ แม้จะมีข่าวกระท่อนกระแท่นเรื่องความสัมพันธ์ให้เห็นอยู่เนืองๆ แต่มันยังไม่ถึงจุดที่จะหนีจาก 3 ป.
เนื่องจากยังไม่มีสัญญาณเปลี่ยน “หัว” ออกมา การทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูมทั้งที่ยังไม่ชัวร์ ไม่ต่างอะไรกับการขุดหลุมฝังตัวเองในทางการเมืองหากคิดจะชิ่ง
แม้ว่า พรรคร่วมจะเปิดศึกใส่กันมาเป็นระยะๆ แต่สุดท้ายทุกครั้งก็เคลียร์กันได้ ยังแบ่งเค้กลงตัว ปัญหาก็จบไปตามระเบียบ ดังนั้น สถานภาพของรัฐบาลโดยรวมมันยังประคองตัวไปได้ มันยังไม่ถึงจุดแตกหัก
แม้ว่า ส่วนของตัว บิ๊กตู่ เอง แม้สภาพจะกรอบ สะบักสะบอม จนแทบจะไปต่อไม่ไหว ล่าสุดก็ออกมาสยบข่าวลือว่า จะไม่ทิ้งประชาชนไปกลางคันในสถานการณ์แบบนี้ สอดรับกับรายงานข่าวจากฝ่ายความมั่นคงที่ยืนยันว่า บิ๊กตู่ พลเอก