“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 10 สิงหาคม 2564 ตอน โผทหารโค้งสุดท้าย ลุ้น ผบ. “ทัพเรือ-ทัพฟ้า” เสธ.ไก่ นั่งเลขาฯ สมช.
การแต่งตั้งทหารปีนี้ เข้าช่วงท้ายของการจัดโผโยกย้ายนายพลปี2564 หลัง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เตรียมนัดประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารประจำปี หรือ “บอร์ด 7 เสือกลาโหม”
โดยมี “บิ๊กช้าง”พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม “บิ๊กณัฐ”พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม “บิ๊กแก้ว”พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ 3 ผบ.เหล่าทัพ เพื่อร่วมพิจารณาโผทหาร ตามกำหนดเวลาที่ต้องจัดส่งภายใน 16 ส.ค.นี้
โผทหารครั้งนี้ เกิดความ “ความไม่ลงตัว” ขึ้นอีกครั้ง ทำให้ส่งผลกระทบมายัง “สภาความมั่นคงแห่งชาติ” และ “กองทัพเรือ”
ในส่วนสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า “เลขาธิการ สมช. คนใหม่” คือ “เสธ.ไก่”พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เสนาธิการทหาร ที่ทำหน้าที่ เสนาธิการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ที่อยู่ภายใต้ ศบค. โดยมี “บิ๊กแก้ว”พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็น หัวหน้า ศปม.
ซึ่งตำแหน่ง เลขาธิการ สมช. ในปัจจุบันเป็น ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศบค. ด้วย ดังนั้นเมื่อ “บิ๊กเล็ก”พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการ สมช. เกษียณฯ ก.ย.นี้ ก็ต้องพ้นตำแหน่งดังกล่าว ทำให้ พล.อ.สุพจน์ จะขึ้นมาเป็นขุนพลข้างกาย พล.อ.ประยุทธ์ ในการสู้กับโควิด หลังวันที่ 1ต.ค. เป็นต้นไป ซึ่งที่ผ่านมา พล.อ.สุพจน์ ได้รับผิดชอบงานฝ่ายความมั่นคงในการแก้ปัญหาโควิดมาตลอด 2 ปี
สำหรับ พล.อ.สุพจน์ เติบโตมาใน บก.กองทัพไทย เกษียณฯปี2566 พร้อมกับ พล.อ.เฉลิมพล รุ่นพี่ ตท.21 จึงหมดขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด โดย พล.อ.สุพจน์ เป็นรุ่นน้อง ตท.22 และเป็น “ทหารม้า” เหมือนกัน แต่ต่างกันที่ พล.อ.เฉลิมพล โตมาจาก พล.ม.2 รอ. สนามเป้า หรือที่เรียกว่า “ม้าเมืองกรุง”
ส่วน พล.อ.สุพจน์ โตมาจากภาคเหนือ กองพันทหารม้าที่ 18 กรมทหารม้าที่ 3 , กองพลทหารม้าที่ 1 หรือเรียกว่า “ม้าเมืองเหนือ” ก่อนข้ามมาโตที่ บก.กองทัพไทย ผ่านหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล และกรมยุทธการทหาร
ย้อนไป 30 ปีก่อน พล.อ.สุพจน์ เคยร่วมปฏิบัติภารกิจใน “สมรภูมิรบบ้านร่มเกล้า” อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ช่วงปี 2530 และได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสู้รบ และได้รับพระราชทาน 'เหรียญกล้าหาญ' ต่อมาในปี2562 พล.อ.สุพจน์ ได้รับรางวัลเกียรติยศจักรดาว สาขาการทหาร จากโรงเรียนเตรียมทหาร
ดังนั้น พล.อ.สุพจน์ จึงได้ชื่อว่าเป็นนายทหารที่ครบเครื่องทั้ง “บู๊-บุ๋น” แต่กลับไม่ได้ขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด หลังถูก พล.อ.เฉลิมพล ที่โยกจากกองทัพบก มาเสียบยอด ดังนั้นการขึ้นเป็น เลขาธิการ สมช. จึงถูกมองว่าเป็นการ “ปลอบใจ” พล. อ. สุพจน์ไปด้วย
ข้ามมาที่ “กองทัพเรือ” ก็ฝุ่นตลบไม่น้อย หลังโผโยกย้ายฝั่ง “กลาโหม” ไม่ลงตัว โดยความตั้งใจของ พล.อ.ณัฐ ปลัดกลาโหม ต้องการให้เพื่อนทหารบก ตท.20 ขึ้นเป็น “ปลัดกลาโหม” คนต่อไป นั่นคือ “เสธ.หน่อย”พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ เสนาธิการทหารบก
แต่ด้วยในตำแหน่ง “รองปลัดกลาโหม” ยังมีชื่อเพื่อน ตท.20 อีกคนอยู่ คือ “บิ๊กเฒ่า”พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ที่ครองอาวุโสอัตราพลเอกพิเศษ มาแล้ว 2 ปี สามารถขึ้นเป็นปลัดกลาโหมได้เลย ทำให้มีการมองว่าอาจต้องโยก พล.ร.อ.สมประสงค์ กลับมากองทัพเรือ ขึ้นเป็น ผบ.ทร. เพื่อ “ขัดตาทัพ” ก่อนเกษียณฯปี65 หรือไม่
เพราะแคนดิเดต ผบ.ทร. ที่อยู่ใน ทร. 2 คน คือ “บิ๊กโต้ง”พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ เสนาธิการทหารเรือ (ตท.21) ที่เกษียณฯปี66 และ “บิ๊กปู”พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ตท.22)
.
ซึ่งคนใน ทร. มองว่าเพื่อ “คืนความชอบธรรม” ให้กับ พล.ร.อ.สมประสงค์ เพราะถูกเอาออกนอก ทร. เมื่อ 2 ปีก่อน หลัง “หลีกทาง” ให้ พล.ร.อ.ชาติชาย เพื่อน ตท.20 ได้ขึ้นเป็น ผบ.ทร. ก่อนตัวเอง
ดังนั้นจึงอยู่ที่ พล.ร.อ.ชาติชาย จะเสนอชื่อคนในหรือคนนอก ทร. จะเสนอชื่อเพื่อนหรือน้อง และบอร์ด 7 เสือกลาโหม จะเห็นอย่างไร เพราะใน ทร. ก็มีการพูดถึงสูตร คนละ 1 ปี ขึ้นมาด้วย
มาที่ “ทุ่งดอนเมือง” ก็ลุ้นกันบีบหัวใจ เพราะ “บิ๊กแอร์”พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผบ.ทอ. ยากที่จะเจาะใจ เพราะเป็นคนเงียบๆ แต่เชื่อได้ว่า พล.อ.อ.แอร์บูล จะเลือกแคนดิเดต ผบ.ทอ. ที่ไม่แหกโผเฉกเช่นสมัย “บิ๊กนัต”พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ อดีตผบ.ทอ. เคยเลือกตนจาก ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. ขึ้นเป็น ผบ.ทอ. พร้อมโยกแคนดิเดตคนอื่นๆ ออกนอก ทอ. นำมาซึ่ง “ความขัดแย้ง” ที่เกิดขึ้นอยู่ใน ทอ. ตลอด
โดยชื่อแคนดิเดต ผบ.ทอ. มีอยู่ 3 คน ได้แก่ “บิ๊กป้อง”พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ประธานที่ปรึกษา ทอ. บุตรชาย พล.อ.อ.ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ และ “บิ๊กตั้ว”พล.อ.อ.สฤษฎ์พงศ์ วัฒนวรางกูร ผู้บัญชาการกรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ ซึ่งทั้งคู่เป็นเพื่อน ตท.21 เพื่อนร่วมรุ่น พล.อ.อ.แอร์บูล เหลืออายุราชการอีกคนละ 1 ปีเท่านั้น
ส่วนอีกคน คือ “บิ๊กหนึ่ง”พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา เสธ.ทอ. (ตท.23) เกษียณฯปี2567 ทั้งนี้มีการมองว่า พล.อ.อ.แอร์บูล อาจให้ เพื่อน ตท.21 ขึ้นมาเป็นก่อน 1 ปีก่อน เพราะ พล.อ.อ.ชานนท์ นั้นยังรอได้
อย่างไรก็ตามยังมีแคนดิเดตคนนอก ทอ. นั่นคือ “บิ๊กต่าย”พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ ต่ายทอง รอง ผบ.ทหารสูงสุด ที่ถูกโยกออก ทอ. เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งชื่อ พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ ก็ได้รับแรงหนุนจาก พล.อ.ประยุทธ์ มาตั้งแต่ปีที่แล้ว งานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะล้วงลูกหรือไม่
.
การที่ “บิ๊กตู่” จัดแถวกองทัพ เพื่อสร้างความเป็นเอกภาพร่วมกันนั้น ก็จะทำให้ช่องว่างระหว่าง “บิ๊กตู่-กองทัพ” นั้นลดลง เพื่อกรำศึกการเมืองที่ทั้ง “รัฐบาล-กองทัพ” ต่างตกเป็นเป้าร่วมกันในเวลานี้
และท่ามกลางสภาวะรัฐบาลขาลง พร้อมกระแสข่าว “บิ๊กตู่” เตรียมปูทางลงจากอำนาจ ดังนั้นการจัดโผทหารและการวางขุนพลกองทัพ จึงมีความสำคัญต่อ “บิ๊กตู่” ไม่น้อย บนสถานการณ์ทางการเมือง ที่ไม่มีใครรู้ว่า ในวันข้างหน้าอันใกล้นี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
