ผกก.สน.ลาดพร้าว เผยพนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้ต้องหาใช้ปืนปลอมจี้รถเมล์สาย 8 เพราะเครียดตกงาน ไม่เกี่ยวกับการชุมนุม ผลตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง เตรียมฝากขังพรุ่งนี้
จากกรณีเกิดเหตุชายวัยรุ่นใช้สิ่งคล้ายอาวุธปืนสั้น จี้จับพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสารของรถประจำทางสาย 8 ก่อนจะปล่อยตัวและขังตัวเองไว้บนรถคันดังกล่าวนานกว่า 3 ชั่วโมง กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ อรินทราช 26 จะเข้าควบคุมตัวได้โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่ถนนแฮปปี้แลนด์สาย 1 กรุงเทพฯ ซึ่งในเวลาต่อมาหลังสถานการณ์คลี่คลายลง พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ที่เฝ้าสังเกตการณ์และสั่งการอยู่ก่อนแล้วได้เข้าพูดคุยกับ นายพีรณัฐ แสงจันทร์ หรือเฟิร์ส อายุ 23 ปี ผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ จนทราบว่า ผู้ก่อเหตุเกิดอาการเครียดจากการที่ตกงานในช่วงการแพร่ระบาดโรคระบาดโควิด-19 จึงมาก่อเหตุ เบื้องต้นจึงมีการส่งตัวมาดำเนินคดีที่ สน.ลาดพร้าว
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (23 ส.ค.) ที่ สน.ลาดพร้าว พ.ต.อ.รุ่งสกุล บุญกระพือ ผกก.สน.ลาดพร้าว เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนจะมีการเร่งรัดการสอบปากคำให้แล้วเสร็จ ซึ่งหากทันก่อนเวลาปิดทำการของศาล ก็จะดำเนินการนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขัง แต่หากยังไม่แล้วเสร็จ ก็จะดำเนินการขออำนาจศาลฝากขังในวันที่ 24 ส.ค.นี้ ส่วนประเด็นว่า ตัวผู้ก่อเหตุมีความเชื่อมโยงกับการชุมนุมหรือไม่นั้น เบื้องต้นจากการสอบปากคำไม่พบว่าตัวผู้ก่อเหตุเคยไปร่วมการชุมนุม หรือการก่อเหตุไม่สงบตามสถานที่การชุมนุมต่างๆ ส่วนการตรวจสอบปัสสาวะเบื้องต้นพบว่า มีสีม่วง แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถลงรายละเอียดได้
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา หน่วงเหนี่ยวกักขังและข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใดๆ โดยใช้อาวุธ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย ส่วนกรณีอาวุธที่พบในที่เกิดเหตุ ได้ส่งไปให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบว่าเป็นอาวุธปืนจริงหรือไม่ เพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนต่อไป
ทั้งนี้มีรายงานว่า อาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุในครั้งนี้เป็นปืนบีบีกัน ไม่ใช่อาวุธปืนจริง และจากการตรวจสอบประวัติพบเป็นบุคคลตามหมายจับ ของ สน.บางซื่อ ในข้อหาชิงทรัพย์ เหตุเกิดเมื่อช่วงวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งช่วงบ่ายพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อจะเดินทางมาสอบปากคำในหมายจับดังกล่าว ทำให้คาดว่าจะมีการส่งตัวฝากขังต่อศาลได้ในวันที่ 24 ส.ค.นี้