MGR Online - ศรีสุวรรณ มอบหลักฐาน ปอท. ดำเนินคดี “ธนาธร-เพจเยาวชนปลดแอก” ตาม ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ด้าน ศปปส. เอาผิด เพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม
วันนี้ (11 ส.ค.) เวลา 12.45 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน หรือ ศปปส. นำโดย นายจักรพงศ์ กลิ่นแก้ว ตัวแทน ศปปส. เดินทางมาแจ้งความเอาผิดแอดมินเพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ตามความผิด ม.112
ต่อมา เวลา 13.00 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.บูรฉัตร ฉัตรประยูร และ ร.ต.ท.หญิง พรสถิตย์ บุราญรัตน์ รอง สว.(สอบสวน) แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จฯ ตาม ม.14 แห่ง พ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2560 กรณีโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ว่า การชุมนุมในวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ประชาชนไปด้วยสองมือเปล่า มีเพียงความคิดสร้างสรรค์เป็นอาวุธนั้น
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ลงพื้นที่เพื่อสังเกตการณ์การชุมนุมทางการเมืองของเครือข่ายกลุ่มเยาวชนปลดแอก และกลุ่ม REDEM บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง เมื่อวันที่ 7 ส.ค.แล้ว และมีข้อสรุปซึ่งได้ออกแถลงการณ์เมื่อเย็นวันที่ 9 ส.ค.ระบุไว้ชัดเจนว่า “มีผู้ชุมนุมบางส่วนได้ตระเตรียมและใช้อาวุธหรือสิ่งเทียมอาวุธในการตอบโต้กับเจ้าหน้าที่ อันไม่เป็นไปตามหลักการการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ จนทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมการชุมนุมได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง”
การยืนยันของ กสม.เป็นพยานหลักฐานที่สำคัญ ที่สามารถนำชี้ได้ว่าการโพสต์ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ทวิตเตอร์ของคุณธนาธร เป็นข้อความที่ตรงกันข้ามกับข้อสรุปหรือคำแถลงการณ์ของ กสม. ซึ่งเจตนาของการโพสต์ข้อความดังกล่าว สังคมอาจทราบดีว่าผู้โพสต์หวังผลเช่นไร แต่ในเมื่อเป็นข้อความหรือการกระทำที่มีกฎหมายกำหนดไว้เป็นความผิด ก็ต้องว่ากันไปตามครรลองของกฎหมาย ซึ่งมีการกำหนดอัตราโทษไว้ค่อนข้างสูงคือ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ นายศรีสุวรรณยังได้แจ้งความเอาผิดแอดมินเพจ เยาวชนปลดแอก – Free YOUTH ในข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ ตาม ม. 112 ประกอบ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14
ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้นเพจดังกล่าวได้โพสต์ข้อความเพื่อปลุกระดมมวลชนให้มาชุมนุมกันในวันที่ 7 ส.ค. ที่อนุสารีย์ประชาธิปไตย เพื่อเคลื่อนขบวนบุกไปยังพระบรมมหาราชวัง แต่ต่อมาได้เปลี่ยนเป้าหมายไปที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแทน จนเกิดการประทะกันขึ้นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน มีการทำลายทรัพย์สินของทางราชการ มีการใช้อาวุธ สิ่งเที่ยมอาวุธมากมาย ซึ่งเพจดังกล่าวได้ชี้นำและรายงานการเคลื่นไหวของการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม เพจดังกล่าวได้โพสต์ข้อความและรูปภาพในลักษณะที่ดูหมิ่น หมิ่นประมาทหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ อย่างต่อเนื่อง อาทิ “ได้ข่าวว่ากริ้วมาก โกรธมาก ขัดใจ ที่เห็นกิโยติน” ซึ่งเป็นการเขียนข้อความอันเป็นเท็จ จินตนาการเอาเองว่าท่านกริ้ว ทั้งๆที่พระองค์ท่านทรงเมตตากับพสกนิกรทุกๆคนอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนั้นยังโพสต์รูปภาพในหลวงรัชกาลปัจจุบันขนาดใหญ่ที่ผู้ชุมนุมได้ตัดต่อภาพในการจูงสุนัขที่มีรูปหน้าเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วนำมาใช้โชว์ในการชุมนุม เป็นที่สะเทือนใจของผู้ที่พบเห็นภาพดังกล่าวเป็นอย่างมาก การโพสต์ข้อความในลักษณะบิดเบือน สร้างความคลุมเครือ เพื่อเอาความเท็จไปหล่อเลี้ยงสาวกผู้เสพข่าว นำภาพกิโยตินที่เคยเกิดขึ้นในฝรั่งเศษมาข่มขู่เช่นนี้ นักสิทธิมนุษยชนจะตอบโจทย์การแสดงออกนี้กันอย่างไร
ดังนั้น ภาพและข้อความของกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงจัดทำขึ้นและนำมาใช้ในกิจกรรมการชุมนุมดังกล่าว ถูกนำมาเผยแพร่โดยเพจเยาวชนปลดแอก – Free YOUTH ในเฟซบุ๊กซึ่งเป็นสื่อสังคมออนไลน์ มีคนเข้าไปแชร์ไปคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมายโยที่พระองค์ท่านไม่สามารถตอบโต้ใด ๆ ได้ การกระทำดังกล่าวจึงเข้าข่ายความผิดตาม ม.112 โดยชัดแจ้ง ประกอบกับเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม 2560 ม.14 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ