ศาลเยาวชนให้ประกัน “ภูมิ หัวลำโพง” ร่วมม็อบทำลายป้าย สตช.พังยับ

ตร.ปทุมวัน ฝากขัง “ภูมิ หัวลำโพง” ร่วมม็อบป่วนเมือง 7 ส.ค.พาพวก 20 คน บุกทำลายป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พังยับ-เผารถ จยย.สายตรวจ ไหม้วอด ศาลเยาวชนให้ประกันวงเงิน 30,000 บาท

วันนี้ (10 ส.ค.) พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ยื่นคำร้องตรวจสอบการจับกุมนาย “ภูมิ หัวลำโพง” (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาทำลายป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น, ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายในบ้านเมือง, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และร่วมกันฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548

คำร้องระบุพฤติการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ธัญอมร หนูนารถ กับพวก ได้นำรถยนต์สายตรวจไปเปิดสัญญาณไฟวับวาบ ที่บริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์ จำนวน 4 นาย ร่วมปฏิบัติหน้าที่รักษาความเรียบร้อยอยู่ก่อนแล้ว ต่อมาเวลา 19.10 น. ได้มีคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน จำนวน 3-4 คัน จากแยกราชประสงค์ มุ่งหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และขับขี่ผ่านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมกับมีการขว้างปาก้อนหิน ไม้ อาวุธมีด และสิ่งของที่ทำให้เกิดเสียงดังคล้ายกับเสียงประทัด จำนวน 1 ครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายดังกล่าว จึงรีบวิ่งไปหลบที่ด้านหลังรถจักรยานยนต์สายตรวจ โดยมี ร.ต.ท.ธัญอมร นั่งอยู่ในรถคันดังกล่าว

สักครูได้มี นายภูมิ หัวลำโพง (นามสมมติ) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่ ร.ต.ท.ธัญอมร คุ้นเคย พร้อมกับพวกอีกประมาณ 10 คน เดินเข้ามาหาที่รถยนต์สายตรวจ ร.ต.ท.ธัญอมร จึงได้เตือน นายนก กับพวกว่าอย่ามาก่อเหตุวุ่นวาย และนายนก ตอบว่า “พี่ มีคนเยอะ เอาไม่อยู่โดนแน่ พี่รีบออกไป” ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ชุมนุมที่ตามมาสมทบอีกประมาณ 10-20 คน ได้ขว้างปาก้อนหิน ท่อนไม้ อาวุธมีด และมีเสียงดังคล้ายกับเสียงประทัดจำนวนหลายครั้ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 4 นาย จึงได้รีบขึ้นรถยนต์สายตรวจคันดังกล่าวแล้วถอนกำลังไปที่แยกเฉลิมเผ่า เพื่อแจ้งวิทยุขอกำลังเสริม จากนั้น ร.ต.ท.ธัญอมร ได้วกรถกลับมาที่บริเวณที่เกิดเหตุอีกครั้ง พบว่า ป้ายหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับความเสียหาย รวมทั้งพบว่า รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น ชีบี 300 สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ตราโล่ 67220 ถูกทุบและถูกเผาได้รับความเสียหาย ร.ต.ท.ธัญอมร ซึ่งรู้เห็นเหตุการณ์จึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ให้ดำเนินคดีกับ นายศศลักษณ์ กับพวก ให้ได้รับโทษตามกฎหมายต่อไป

หลังจากนั้น พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนและได้ยื่นคำร้องขอหมายจับนายนก ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง และศาลอนุญาตให้ตามคำขอตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวกลางที่ จ.26/2564 ลงวันที่ 9 ส.ค. 2564 ต่อมาผู้ต้องหาได้มาพบเจ้าหน้าที่ฝ่ายตำรวจสืบสวน สน. ปทุมวัน เพื่อมาให้การ ว่า ผู้ต้องหาอยู่ในเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2564 เวลาประมาณ 19.00 น. บริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้ถูกจับกุมตัวและได้แจ้งข้อกล่าวหา แจ้งสิทธิ์ให้ทราบ นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเหตุเกิดที่บริเวณหน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กทม.

การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217, 215, 385, พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาตรา 9, 18, ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 15 ลงวันที่ 25 ธ.ค. 2563 ข้อ 3, ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่องห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 3 ส.ค. 2564 ข้อ 3

ศาลได้ทำการตรวจสอบการจับกุมและทำการไต่สวน พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน และผู้ต้องหา ศาลให้ออกหมายควบคุมเว้นแต่มีประกัน ต่อมาผู้ปกครองได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาในวงเงินประกัน 30,000 บาท