xs
xsm
sm
md
lg

“เดอะตุ๊ก-ปิยะพงษ์” ควงแตงโม บุตรชายฟ้องโพสต์กล่าวหาพาดพิงล้มบอล!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


นาวาอากาศเอก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย
“เดอะตุ๊ก-ปิยะพงษ์” อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย ควงแตงโม บุตรชาย ยื่นฟ้อง ผู้ต้องหาโพสต์พาดพิงล้มบอล แตงโมชี้พ่อไม่ติดใจอะไร แต่ไม่อยากให้ใครมากล่าวร้ายให้เสียชื่อเสียง และตนต้องอยู่กับวงการฟุตบอลอีกนาน ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง 15 พ.ย.นี้

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (9 ส.ค. ) นาวาอากาศเอก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย และ นายพงษ์พิสุทธิ์ ผิวอ่อน หรือ แตงโม บุตรชาย พร้อมทนายความเดินทางมายื่นฟ้อง นายทรงชัย พัฒนศิลาพร อายุ 35 ปี ชาว กทม. เป็นจำเลยข้อหา กระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์, หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีโพสต์ข้อความลงในเพจฟุตบอลทีมชาติไทย ซึ่งเป็นความเท็จ เกี่ยวกับประเด็นที่โจทก์เคยเป็นอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย

นาวาอากาศเอก ปิยะพงษ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า กรณีนี้สืบเนื่องจากแตงโม บุตรชายไปเห็นข้อความในเพจฟุตบอลซึ่งมีข้อความที่ไม่น่ารัก เขาก็เลยอยากจะปกป้องศักดิ์ศรี แต่ตัวผมเองนั้นไม่ได้ติดใจอะไร เพราะเลยเวลาแล้ว อายุเยอะแล้ว ก็แค่มาเซ็นเป็นตัวแทนให้กับทนายความและแตงโม ที่อยากจะปกป้องศักดิ์ศรีในเรื่องที่เขาต้องการเท่านั้นเอง

นาวาอากาศเอก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน พร้อมแตงโม บุตรชายให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน
ด้าน นายพงษ์พิสุทธิ์ ผิวอ่อน หรือ แตงโม บุตรชาย กล่าวว่า จริงๆ แล้ว คุณพ่อเป็นคนสบายๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ส่วนตัวแตงโมนั้น ยุคที่คุณพ่อเล่นฟุตบอลก็เจอเรื่องราวแบบนี้มาตลอดระยะเวลาเกือบ 30 ปี ผมรู้สึกว่าเรื่องราวผ่านมานานแล้ว คุณพ่อก็เป็นคนที่สร้างชื่อเสียงและรับใช้ประเทศชาติ ก็ไม่อยากให้ใครกล่าวให้ร้ายคุณพ่อ สมัยก่อนผมเป็นเด็ก เจอเรื่องราวแบบนี้มาเยอะแล้ว แต่ทำอะไรไม่ได้ เจอเพื่อนล้อ เพื่อนว่าและโดนเพื่อนบูลลี่ แต่ตอนนี้เมื่อผมโตแล้วก็ทราบขั้นตอนว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร จึงขอใช้สิทธิทางกฎหมาย

“เพราะเรื่องราวเหล่านี้ไม่มีใครอยากให้คนมาต่อว่าคุณพ่อของตัวเอง ตลอด 30 ปี จริงๆ แล้วเนี่ย ถ้าถามว่าคุณพ่อเคยเจอเยอะไหม ผมว่าเกินพัน เป็นหมื่นเคส แต่ว่าก็มีคนส่งข้อความ โทร.มาขอโทษผมเยอะมาก หลังจากที่ผมโพสต์อันนี้ออกไป ซึ่งผมก็บอกว่าไม่เป็นไร เพราะเราก็ไม่ได้จะไปฟ้องทุกคน แต่ฟ้องเพียงคนเดียวถือว่าน้อยมาก เพื่อให้เป็นตัวอย่างว่าอย่าไปทำแบบนี้กับใคร จริงๆ คุณพ่อไม่ได้ติดใจอะไร แต่ตัวผมในฐานะเป็นลูกถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ชีวิตผมจะต้องอยู่กับตรงนี้อีกนาน” นายพงษ์พิสุทธิ์ กล่าว


นายพงษ์พิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า ข้อความที่เขาโพสต์นั้น ปรากฏในกลุ่มเพจเกี่ยวกับฟุตบอลทีมชาติไทยที่มีผู้ติดตาม 7-8 แสนคน ซึ่งมีประชาชนที่เห็นข้อความเยอะ ทำให้กระทบกับคุณพ่อ ส่วนเรื่องค่าเสียหายจะให้ทนายความดำเนินการต่อไป อาจจะต้องดำเนินการฟ้องแพ่งด้วย

สำหรับคำฟ้องสรุปว่า เมื่อระหว่างต้นเดือน ส.ค. 2564 ถึงวันที่ 3 ส.ค. 2564 นายทรงชัยใช้บัญชีเฟซบุ๊ก ชื่อ “Songchai. Pattarasilapom” (Sta boy) โพสต์ข้อความที่เปิดเป็นสาธารณะให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงทำนองว่า “ไม่เอาปิยะพงษ์ แน่นอน ได้แชมไทยลีก ตอนคุมทหารอากาศ ถ้าไม่มีเรื่อง.....ก็ไม่ได้หรอก” ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง ทำให้ได้รับความเสียหาย ทำให้ประชาชนหรือบุคคลทั่วไปเข้าใจว่า โจทก์เป็นบุคคลที่มีเรื่องเสื่อมเสียในวงการฟุตบอลของประเทศไทย โจทก์ไม่มีความสามารถและเหมาะสมที่จะเป็นโค้ชหรือผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย ซึ่งข้อความดังกล่าวเป็นความเท็จทั้งสิ้น โจทก์ไม่เคยเกี่ยวข้องหรือมีพฤติการณ์ในการล้มบอลที่จำเลยกล่าวอ้าง และภายหลังที่จำเลยโพสต์ข้อความดังกล่าวแล้ว ได้มีประชาชนทั่วไปส่งข้อความเข้ามาสอบถามถึงเรื่องที่จำเลยโพสต์กล่าวอ้างในเพจนั้นว่าความจริงเป็นอย่างไร ทำให้เกิดความเสียหายแก่วงการฟุตบอลของไทย รวมทั้งตัวโจทก์เองที่ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ชื่อเสียงของโจทก์ที่กระทำมาตลอดที่เป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทย จึงขอให้ศาลลงโทษตามกฎหมาย เหตุเกิดที่แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.และทั่วราชอาณาจักร

ทั้งนี้ ภายหลังยื่นฟ้องแล้ว ศาลได้รับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ 1873/2564 และนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 15 พ.ย.นี้ เวลา 13.30 น.

เดินทางมายื่นฟ้องต่อศาลอาญา
กำลังโหลดความคิดเห็น