บช.ก.ตั้งคณะทำงานล่ามือดีแฮกเครือข่ายทรูขายสิทธิฉีดวัคซีนโควิด

MGR Online - บช.ก.ตั้งชุดคณะทำงานล่ามือดีแฮกเครือข่ายทรูขายสิทธิฉีดวัคซีนโควิด-19 เบื้องต้นสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องแล้ว 8 ปาก

วันนี้ (29 ก.ค.) พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำความผิดในการแฮกข้อมูลผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เข้ามาฉีดวัคซีนที่ ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ว่า กรณีที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สังเกตพบความผิดปกติว่าบริเวณประตู 4 ของศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ หลังพบมีผู้นัดหมายผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ดังกล่าวมายืนรอแน่นบริเวณประตูเป็นจำนวนมาก ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นการลงทะเบียนสิทธิผ่านทางเครือข่ายโทรศัพท์ทรู ทั้งนี้ หลังทราบเรื่องทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดโดยเร็ว

พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้ทาง บก.ปอท.และกองปราบปราม ตั้งชุดทำงานสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ โดยให้ทาง พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปอท. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. เป็นหัวหน้าชุด และให้รายงานผลการสืบสวนผ่านทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยเร็ว รวมทั้งให้ บก.รฟ.ในฐานะเจ้าของพื้นที่ร่วมสอบสวนด้วย ซึ่งขณะนี้ได้ให้ทาง บก.ปอท.ตรวจสอบเชิงเทคนิคตรวจข้อมูลความผิดปกติในยูสเซอร์ ว่า มีการแฮกข้อมูลหรือไม่อย่างไร รวมทั้งติดตามหาผู้กระทำความผิด ซึ่งพบว่าทางเครือข่ายมีกรอบระยะเวลาให้ลงทะเบียน แต่ปรากฏว่า มีการลงทะเบียนนอกกรอบระยะเวลาที่กำหนด จนนำมาสู่การขายสิทธิกัน ซึ่งพบว่ามีการขายสิทธิในราคา 500-1000 บาท

พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของกองปราบปรามจะบูรณาการร่วมกับทาง บก.รฟ.ในการติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ ผบก.รฟ. ทำการจัดระเบียบ เว้นระยะห่าง คนที่จะมาฉีดวัคซีน จะต้องยืนตามจุดตามระยะห่างที่กำหนดเพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยด้วย

ด้าน พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ ผบก.รฟ. กล่าวว่า เรื่องการสวมสิทธิฉีดวัคซีน ที่สถานีรถไฟกลางบางซื่อ นั้น ขณะนี้ได้เสนอเรื่องส่งให้ บช.ก.พิจารณาตั้งคณะทำงานขึ้นมา โดยจะมีตำรวจรถไฟ บก.ปอท.และกองปราบปราม เนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องสลับซับซ้อน มีการทำกันเป็นกระบวนการ จึงจำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่เฉพาะด้านเข้ามาร่วมสืบสวนสอบสวน ทั้งนี้นอกจากเสนอเรื่องให้บช.ก.แล้ว ยังได้รายงานให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ทราบด้วย ส่วนจะมีคำสั่งอย่างไรนั้นต้องรอให้ ตร. พิจารณาสั่งการอีกครั้ง

พล.ต.ต.อำนาจ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องแล้ว 8 ปาก ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่กรมการแพทย์ พนักงานบริษัทเครือข่ายโทรศัพท์ โดยเป็นการสอบปากคำเบื้องต้นเท่านั้น รวมทั้งจะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบเพิ่มเติมอีก ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับใครแต่อย่างไร รวมทั้งยังไม่สามารถตอบได้ว่ากลุ่มผู้ต้องหาขบวนการนี้มีกี่คน ต้องรอผลสืบสวนสอบสวนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกครั้ง ส่วนการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องนั้น คณะทำงานจะใช้กองบังคับการตำรวจรถไฟ เป็นสถานที่สอบปากคำ ส่วนผลการสืบสวนสอบสวนจะไปเกี่ยวข้องกับใครบ้างนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกตอนนี้ได้ เบื้องต้นหากพิสูจน์หาต้นตอผู้กระทำความผิดได้ก็จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ ก่อนพิจารณาข้อหาอื่นๆ
ต่อไป

ส่วน พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. กล่าวว่า ได้รับการประสานงานจาก ผบก.รฟ. แล้ว ขณะนี้กำลังประมวลเรื่องไปยัง ผบช.ก. เพื่อให้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานร่วมระหว่าง กองปราบฯ ตำรวจรถไฟ และ ปอท. ในการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดต่อไป