MGR Online - กองปราบทลายเครือข่ายเพจดัง “ฉาว ต้อง แฉ” รับงานคู่แข่ง 12 ล้าน ปล่อยเฟกนิวส์ใส่ร้าย “นมข้นตรามะลิ” รวบผู้ร่วมขบวนการ 14 ราย มีอดีตผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ร่วมด้วย
วันนี้ (7 ก.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายขบวนการปล่อยเฟกนิวส์ โจมตี บริษัท มะลิกรุ๊ป 1962 จํากัด หรือ “นมข้นตรามะลิ” หลังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.1 บก.ป. สนธิกำลังร่วมกับ ตำรวจ บก.ปอท. นำหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่ กทม. จำนวน 17 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาขบวนการดังกล่าวตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา, อั้งยี่และซ่องโจร, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันบิดเบือนข้อมูลที่สร้างความเสียหายแก่ประชาชน” ได้ 14 ราย พร้อมของกลาง สมุดบัญชีธนาคาร, เครื่องมือสื่อสาร, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอกสารเกี่ยวกับการเงิน และอื่นๆ รวมกว่า 100 รายการ
พ.ต.อ.มนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 63 บริษัทนมข้นดังกล่าว ได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามว่าถูก เพจเฟซบุ๊ก ที่ชื่อ “ฉาว ต้อง แฉ” โพสต์ภาพและข้อความ ลักษณะบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท โดยเป็นการทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น ทำให้ทางบริษัทได้รับความเสียหาย จึงขอให้ กองปราบปรามดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี จึงขยายผลตรวจสอบจนทราบว่าแอดมินเพจดังกล่าวเป็นเจ้าของบริษัทที่ปรึกษาด้านโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ได้รับการว่าจ้างจากเจ้าของธุรกิจอุตสาหกรรมรายหนึ่ง ซึ่งเคยทำธุรกิจร่วมกับบริษัทของผู้เสียหาย เป็นจำนวนเงิน 12 ล้านบาท เพื่อให้สร้างข่าวปลอม หรือ เฟคนิวส์ ทำลายภาพลักษณ์บริษัทของผู้เสียหาย
พ.ต.อ.มนตรี กล่าวต่อว่า จากแนวทางสืบสวนยังทราบอีกว่า เพจดังกล่าวได้กระทำมาตั้งแต่กลางปี 62 มีการแบ่งหน้าที่ชัดเจน อาทิ คนรวบรวมข้อมูลบริษัทผู้เสียหายมาสร้างประเด็นโจมตี และคนยื่นหนังสือตรวจสอบคุณภาพตามหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง คนเผยแพร่ข้อมูลเฟกนิวส์ตามสื่อสังคมออนไลน์ และคนประสานงาน จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับจนนำมาสู่การจับกุมตัวได้ดังกล่าว ทั้งนี้ สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ทั้ง 14 รายนั้น ประกอบไปด้วย ผู้ว่าจ้าง ทนายความ คนกลางในการติดต่อว่าจ้าง และผู้ที่อยู่ในขบวนการปล่อยเฟกนิวส์ ซึ่งทราบว่าในจำนวนนี้มีอดีตผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ร่วมอยู่ด้วย
พ.ต.อ.มนตรี กล่าวอีกว่า สำหรับสาเหตุการว่าจ้างในครั้งนี้ มาจากปัญหาความขัดแย้งเชิงธุรกิจระหว่าง 2 บริษัท แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ในสำนวนการสอบสวน ซึ่งหากผู้ต้องหาประสงค์จะยื่นขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา แต่ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่ามีหลักฐานที่เชื่อว่าจะสามารถดำเนินคดีกับขบวนการดังกล่าวได้อย่างแน่นอน