xs
xsm
sm
md
lg

ตร.แนะข้อปฏิบัติการเดินทางช่วงโควิด-19 ผ่านจังหวัดสีแดงเข้ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - รองโฆษก ตร. ประชาสัมพันธ์ข้อปฏิบัติ ประชาชนที่จำเป็นต้องเดินทางข้าม 13 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาดอย่างหนัก

วันนี้ (21 ก.ค.) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาล โดย นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ได้แถลงเรื่องการประกาศยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. 64 โดยใช้กำลังทหาร-ตำรวจสนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดตั้งด่านตรวจเข้มแข็งบนเส้นทางหลักและรอง โดยรอบพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร นครปฐม สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี และ ฉะเชิงเทรา นั้น

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ เผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชน จึงขอประชาสัมพันธ์แนวทางของศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) ว่า หากเป็นการเดินทางข้ามจังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (13 จังหวัด) สิ่งที่จะต้องปฏิบัติ คือ 1. เอกสารรับรองที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้อำนวยการเขต 2. ถ้าไม่มีเอกสารตามข้อ 1. ให้ลงทะเบียนการเดินทางข้ามพื้นที่ ผ่านทางเว็บไซต์ “หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” https://covid-19.in.th เพื่อนำ QR code แสดงแก่เจ้าหน้าที่ 3. ให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น ไทยชนะ ที่ด่านตรวจ ทุกครั้ง

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้านความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปม.ตร.) ขับเคลื่อนนโยบายของทางรัฐบาล และ ศบค.ตามข้อกำหนดออกตามความมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 28) ลงวันที่ 17 ก.ค. 64 โดยได้สั่งการและกำชับการปฏิบัติไปยังหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องทุกพื้นที่โดยเฉพาะเน้นย้ำไปยังพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดโดยให้ตรวจรถทุกคันตลอด 24 ชั่วโมง ครอบคลุมทุกเส้นทางข้ามจังหวัดเพื่อสกัดกั้นการเดินทางออกนอกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดในการกำหนดจุดตรวจ จุดสกัด ให้ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดและบูรณาการกำลังพลปฏิบัติร่วมกับฝ่ายปกครอง ทหาร และสาธารณสุข

นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้ทุกหน่วยกวดขันตรวจสอบกิจการ กิจกรรมตามมาตรการที่กำหนด ได้แก่ การห้ามมิให้มีการมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค การจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คน และตรวจตราห้ามมิให้บุคคลออกนอกเคหสถานในห้วงเวลา 21.00-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น พร้อมแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยกำชับและกำกับดูแลกำลังพลให้ระวังป้องกันตนเองและปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดในระหว่างปฏิบัติงาน

จึงขอให้พี่น้องประชาชนโปรดปฏิบัติตามมาตรการและข้อปฏิบัติ ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 28) ลงวันที่ 17 ก.ค. 64 และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ปฏิบัติงาน ทั้งนี้ เพื่อลดอัตราการติดเชื้อ และบรรเทาสถานการณ์ฉุกเฉินให้คลี่คลายโดยเร็วที่สุดต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น