xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ส.สนธิภาคี ทลายเครือข่ายยานรกข้ามชาติ ตามยึดทรัพย์กว่า 1 พันล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - “รมว.ยุติธรรม” แถลงจับกุมขบวนการขนยาเสพติดข้ามชาติ ยึดทรัพย์พันล้านบาท รอ กม.ยาเสพติดฉบับใหม่ บังคับใช้ “แวลู เบท” ตัดท่อน้ำเลี้ยงย้อนหลังตามมูลค่ายา

วันนี้ (5 ก.ค.) เวลา 09.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) เป็นประธานแถลงผลปฏิบัติการ “ยุทธการพิทักษ์ไทย ยึดทรัพย์ ตัดวงจรยาเสพติด” ครั้งที่ 3/2564 (เครือข่ายการเงินนักค้ายาเสพติดข้ามชาติ) โดยมี น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม, นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม, นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. และ นายคริสโตเฟอร์ นีลเซ่น ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา (DEA) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า แนวทางของรัฐบาลในการปราบปรามยาเสพติด ให้หน่วยงานบูรณาการการทำงาน โดยมี ป.ป.ส.เป็นหน่วยงานหลัก เป้าหมายคือยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดให้ได้ 6,000 ล้านบาท หรือ 10 เท่าจากเดิม โดยยุทธการพิทักษ์ไทยได้ดำเนินการมาเรื่อยๆ และยังมีปฏิบัติการพาลีปราบยาได้ตัวเลขการยึดทรัพย์ได้มากพอสมควร ตนอยากให้ทุกท่านสนับสนุนแนวทางของรัฐบาลและกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเครื่องมือสำคัญคือ ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่จะทำให้ราชการทำงานได้ง่ายขึ้นในการยึดทรัพย์ตัดวงจรยาเสพติด ซึ่งขณะนี้ร่างกฎหมายอยู่ในการพิจารณาของรัฐสภา ขนาดเราทำตามกฎหมายเก่าเรายังทำได้ตามเป้าหมาย ซึ่งในร่างกฎหมายใหม่จะมีคำว่า “แวลู เบท” คือการยึดทรัพย์ย้อนหลังตามมูลค่าที่เคยค้ายาเสพติดมา โดยมีคณะกรรมการศึกษาภูมิหลังของผู้ต้องหา ซึ่งจะทำให้การปราบปรามยาเสพติดสัมฤทธิ์ผลในการจัดการให้สิ้นซาก

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลในอดีตมีการตัดตอนผู้ค้า ซึ่งตรงนี้เราไม่เห็นด้วย แต่เราเห็นด้วยกับการยึดทรัพย์ และเราไม่สนใจคนขายหรือคนขนยา แต่เราจะเน้นการยึดทรัพย์ทั้งขบวนการและสาวไปให้ถึงต้นตอ ซึ่งเราจะใช้แนวทางนี้เป็นหลักเน้นการยึดทรัพย์ที่รุนแรงขึ้น ซึ่งตนก็หวังว่าร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดจะผ่านการพิจารณาของรัฐสภาภายในเดือน ก.ค.นี้ และที่ผ่านมา ตนได้เชิญหน่วยงานจากศาล กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุข มาหารือการทำงานหลังร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดบังคับใช้ ซึ่งทุกหน่วยงานพร้อมที่จะเดินหน้าไปกับเรา

“ทั้งนี้ ในอดีตที่ผ่านมาผลการชี้วัดการปราบปรามยาเสพติดจะมาจากจำนวนผู้เสพและการจับเม็ดยา แต่ผมจะเปลี่ยนตัวชี้วัดตรงนี้ใหม่โดยจะใช้จำนวนการยึดทรัพย์แทน ซึ่งรางวัลนำจับเม็ดยาจะลดลงแต่จะไปเพิ่มรางวัลในเรื่องของการยึดทรัพย์แทน ซึ่งผมขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งทหาร ตำรวจ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงประเทศพันธมิตรในกลุ่มลุ่มน้ำโขงและประเทศปลายทาง ที่ร่วมมือกันทำงานปราบปรามอย่างเต็มที่” รมว.ยุติธรรม กล่าว

ด้าน นายวิชัย เผยว่า การปฏิบัติการวันนี้ สืบเนื่องจากวันที่ 3 ก.พ. 64 ตำรวจ บช.ปส. จับกุมผู้ต้องหา 2 คน พร้อมไอซ์ 100 กิโลกรัม และยาบ้า 381 เม็ด ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ต่อมาวันที่ 18 ก.พ. สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ ตำรวจภูธรภาค 5 ขยายผลจับกุมผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางเฮโรอีน 100 แท่ง ที่ จ.น่าน และขยายผลจนสามารถจับกุม น.ส.เขมมิกา พร้อมยึดทรัพย์ 34.9 ล้านบาท ในยุทธการพิทักษ์ไทย ยึดทรัพย์ ตัดวงจรยาเสพติด ครั้งที่ 2/2564

“วันนี้เป็นการขยายผลจากการจับกุม น.ส.เขมมิกา ไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมการเงินของเครือข่าย 5 คน ได้แก่ 1.  น.ส.ดุลยลักษณ์ ว่องไวยนต์ 2. น.ส.ตง เฉิน 3. น.ส.ณัฐพัชร์ เชษฐธนินภัชร์ 4. นายชยพล ไพรรุ่งเรือง 5. นายสุชัย เครือแก้ว และผู้ลักลอบขนเฮโรอีนไปยังประเทศมาเลเซีย 5 คน คือ 1.น.ส.นีรา เจะเงาะ 2.นายมูฮามัดฟาอิส ยูโซะ 3.นายเจ๊อุเสน จาปีพันธุ์ 4.นายสมชาติ จาปีพันธ์ และ 5.นายไฟโซ อาแว สามารถอายัดทรัพย์สินในวันนี้ได้ 37 ล้านบาท รวมแล้วทั้งเครือข่ายขณะนี้ยึดได้กว่า 1,066 ล้านบาท โดยยังจะมีเพิ่มเติมอีก”

นายวิชัย กล่าวอีกว่า จากผู้ต้องหาที่อนุมัติหมายจับทั้งหมด 10 ราย ขณะนี้จับกุมได้แล้ว 5 ราย จากการลงพื้นที่ตรวจค้นทั้งหมด 17 จุด โดยขณะนี้กำลังเร่งสืบสาวไปให้ถึงผู้บงการและเป็นเจ้าของโรงงานผลิตยา ทราบว่าชื่อ นายหลง อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ โดยมีธุรกิจร้านรับแลกเงินในไทยด้วย รวมถึงผู้รับยาปลายทางที่อยู่ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเรากำลังเร่งติดตาม ทั้งนี้จากเป้าหมาย 6,000 ล้านบาท การดำเนินการตั้งแต่เดือน ต.ค.63 กับยอดรวมในวันนี้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 5,658 ล้านบาทแล้ว โดยยังขาดอีก 341 ล้านบาท จะได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเหลือระยะการทำงานอีก 3 เดือน ซึ่งจะได้จำนวนเกินเป้าที่เราวางไว้อย่างแน่นอน










กำลังโหลดความคิดเห็น