พ่อค้าเครปญี่ปุ่นชาวพม่าร่ำไห้ ร้องทนายถูกแก๊งชายฉกรรจ์อ้างเป็นตำรวจ เอาปืนจ่ออุ้มขึ้นแท็กซี่รีดส่วย
วันนี้ (30 มิ.ย.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่สำนักงานทนายความชื่อดังนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสาเลขที่ 70/14 บางใหญ่ซิตี้ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นางจำลอง ชูเชี่ยน อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/5 หมู่ 5 ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี พร้อมด้วย ลูกบุญธรรมชาวต่างด้าว (สัญชาติพม่า) ชื่อ นายมาด มี หรือ แม็ค อายุ 32 ปี อาชีพขายขนมเครปญี่ปุ่น แบบรถ จยย.พ่วงข้าง ขี่ขายเคลื่อนที่ไปตามสถานที่ต่างๆ เข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย
นางจำลอง กล่าวว่า ตนเองนั้นรู้จักและรับดูแลนายแม็ค มาตั้งแต่วัยรุ่น จนโตเป็นหนุ่มใหญ่ นายแม็คนั้น เมื่ออยู่เมืองไทยมานานก็ยึดอาชีพขายขนมชื่อดัง หรือที่รู้จักกันว่า เครปญี่ปุ่น มีความขยันขันแข็งและความประพฤติที่ดีเยี่ยม จงรักและผูกพันเหมือนลูก อีกทั้งตลอดเวลา หนุ่มพม่ารายนี้ก็ยังคอยดูแลเลี้ยงดูตนเองเป็นอย่างดี ในยามที่ตนเองขัดสน นายแม็คก็จะคอยช่วยเหลือ เพราะตนเองนั้น ก็มีสุขภาพที่ไม่ค่อยดี มีโรคประจำตัวรุมเร้าอยู่หลายโรค จนกระทั่งได้รับเป็นบุตรบุญธรรม ทำหนังสือเอกสารการอยู่เมืองไทย ตลอดจนซื้อแฟรนไชส์ขนมเครปญี่ปุ่นนี้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย ตลอดเวลาที่นายแม็คขี่รถขายเครปมาในช่วงที่เศรษฐกิจดีๆ ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก็มีกลุ่มเเก๊งมาเฟียชาวพม่าที่เรียกตัวเองว่า แก๊งวันหน้า มาคอยเก็บส่วยเป็นรายเดือน ช่วงนั้นตนเองกับนายแม็ค ก็ยังพอมีกำลังพอไหวที่จะเสียค่าส่วยรายเดือน แต่มาถึงช่วงโควิดหลายระลอกที่ผ่านมา เป็นที่ทราบๆ กันดีอยู่ว่า การค้าขายมันไม่ดี ทุนหายกำไรหด ตนเองยังต้องไปกู้นอกระบบมาใช้จ่ายในบางครั้ง แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายให้กลุ่มมาเฟียเหล่านี้ได้เหมือนเดิม
นางจำลอง กล่าวเพิ่มเติมถึงเรื่องราวอันเจ็บปวดที่เกิดขึ้นครั้งนี้ทั้งน้ำตา ว่า เมื่อวันที 27 มิ.ย. 64 เวลาประมาณ 20.00 น.ที่ผ่านมานี้เอง ขณะที่นายแม็ค หนุ่มพม่าได้มาจอดรถ จยย.พ่วงข้าง อยู่ที่บริเวณปากซอยเรวดีซอย 7 ได้มีรถแท็กซี่ สีเขียวเหลือง ทะเบียน 1 มข 5402 กทม.ขับมาจอดหน้ารถ จยย.ของนายแม็ค จากนั้นได้มีชาย 1 คน เดินลงมาจากรถและตรงมาหานายแม็ค พร้อมทั้งพูดจาข่มขู่ ให้ขึ้นรถ นายแม็คเมื่อตั้งสติได้ จึงรีบโทร.หาตนเอง ซึ่งขณะนั้นกำลังทำงานบ้าน เมื่อได้ยินเสียงนายแม็คที่พูดตามสายมาเพียงไม่กี่คำว่า แม่ช่วยผมด้วยๆ ตนจึงรีบเดินทางมา และหยิบเอาโทรศัพท์มือถือจะถ่ายรูปชายคนดังกล่าว แต่ก็ถูกแย่งเอาโทรศัพท์จนเกิดการยื้อยุดก่อนที่โทรศัพท์ของตนจะหล่นไปจนหน้ากระจกแตกจากนั้น ชายคนดังกล่าวได้คุมตัวนายแม็คขึ้นรถแท็กซี่คันดังกล่าวออกไป ซึ่งตลอดเวลาชายคนนี้ได้อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจบางบัวทอง มีอะไรให้ตามไปที่ สภ.บางบัวทอง ได้เลย
ด้าน นายมาด มี หรือ แม็ค ได้กล่าวเพิ่มเติมทั้งน้ำตา ว่า หลังจากที่ชายคนดังกล่าวที่อ้างเป็นตำรวจได้ขู่บังคับตนเองให้ขึ้นรถแท็กซี่ได้แล้ว ก็ได้ให้ตนนั่งเบาะหลัง โดยมีชายอายุ 40 กว่า อีกคนเป็นคนขับ ได้ขับพาตนไปยังซอยข้างหลังกองสลาก สนามบินน้ำ โดยตลอดเวลาก็จะพูดจาข่มขู่ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งแสดงและเปิดเอวโชว์อาวุธปืนให้ตนดู และกล่าวข่มขู่ต่างๆ นานา ว่า “มึงอยากตายหรือ ทำไมมึงไม่ยอมเค้า ถ้ามึงไม่ยอมมีงอยู่ไม่ได้ ให้แม่บุญธรรมมึงก็ช่วยมึงไม่ได้ บัตรมึงก็ป้องกันชีวิตมึงไม่ได้”
นายแม็ค หนุ่มพม่าที่รู้คุณข้าวแดงแกงร้อนป้าน็อต แม่บุญธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดเวลาที่อยู่ในรถแท็กซี่คันดังกล่าว ชายทั้ง 2 คน ได้ยึดโทรศัพท์ของตนไว้ จนได้เปิดเห็นว่า มีหลักฐานบัตร หลักฐานเอกสารทั้งหมดที่ถูกต้อง ที่ตนเองถ่ายไว้ ชายที่ควบคุมตัวตนเองไว้ จึงได้มีการต่อสายคุยโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา สุดท้ายจึงตัดสินใจเอาตนเองไปปล่อยทิ้งไว้ที่ย่านซอยนนทบุรี 42 ก่อนปล่อยตัวลงจากรถ พร้อมข่มขู่ให้ระวังตัวให้ดี
ด้าน นายเกียรติคุณ หรือ ทนายโป้ง กล่าวว่า วันนี้ผู้เสียหายเข้ามาปรึกษาร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ เมื่อตนเองได้รับทราบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เบื้องต้นจะรวบรวมหลักฐานที่ผู้เสียหายมีอยู่ ตลอดจนใบบันทึกประจำวันที่นางจำลอง หรือ ป้าน็อต และนายแม็ค ที่ได้มีการแจ้งความไว้กับ ร.ต.ท.กฤช รัตนรณชาติ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อจะได้ประสานทางเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อนำตัวทั้งคู่เข้าสอบถามถึงความคืบหน้าของคดีต่อไป
สำหรับแก๊งมาเฟียพม่าที่นายแม็คพูดถึงว่าชื่อ แก๊งวันหน้า นั้น นายแม็ค กล่าวว่า จะคอยเก็บส่วยคนชาติเดียวกันในจังหวัด หากใครไม่ส่งส่วยหรือให้ ก็จะข่มขู่ ไม่ให้อยู่หรือค้าขายได้ ซึ่งนายแม็คเชื่อว่าจะมีเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจรู้เห็นและเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน