xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เผยผลสำรวจ ปชช.หวาดกลัวภัย “ทำร้ายร่างกาย-ลักทรัพย์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์” มากที่สุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา(สบ 9) ด้านยุทธศาสตร์
MGR Online - ผู้ช่วย ผบ.ตร.เผยผลสำรวจพีเพิลโพล” เดือนแรก พบว่า ปชช. หวาดกลัวภัย “ทำร้ายร่างกาย-ลักทรัพย์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์” มากที่สุด ส่วนการให้บริการบนสถานีตำรวจผ่านเกณฑ์ทุกโรงพัก แต่ยังแค่ปริ่มๆ ต้องพัฒนาต่อ ด้าน ผบ.ตร.เตรียมคิกออฟสมาร์ทเซฟตี้โซนใน กทม.และเมืองเศรษฐกิจสำคัญ สร้างความมั่นใจให้กับ  ปชช.

วันนี้ (25 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา (สบ 9) ด้านยุทธศาสตร์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการสำรวจความหวาดกลัวภัยอาชญากรรมของประชาชนและความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการทำงานของตำรวจ ผ่านพีเพิลโพล (People Poll) ประจำเดือนมิถุนายน 2564 ว่า ที่ผ่านมา สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ มีการเก็บข้อมูลเป็นประจำทุกปี วิเคราะห์ข้อมูล รวบรวมสถิติต่างๆ เพื่อเป็นตัวชี้วัดของ ตร. ซึ่งจะสอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ต่อมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีแนวคิดในการที่จะดูสถิติ ดูการทำงานของตำรวจแบบเรียลไทม์ จึงได้ริเริ่มทำพีเพิลโพล มีเปลี่ยนแปลงรูปแบบจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบ Google Form เริ่มตั้งแต่เดือน มิ.ย. เป็นเดือนแรก และประเมินผลทุกสิ้นเดือน โดยในเดือนนี้มีประชาชนกรอกข้อมูลเข้ามากว่า 200,645 ราย ช่วงอายุ 20-40 ปี จากสถานีตำรวจ 1,484 แห่ง ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ เพราะที่ผ่านมา ในหนึ่งปีมีการจัดเก็บตัวอย่างได้เพียง 1-2 พันราย แต่ตอนนี้เมื่อเราใช้ข้อมูลที่ทันสมัย ใช้เครื่องมือ Google Form ประชาชนก็จะกรอกง่าย อยู่บ้านก็กรอกได้

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับข้อมูลผลสำรวจในหัวข้อความหวาดกลัวภัยอาชญากรรมต่อชีวิต ร่างกาย และเพศ หรือ Fear of Crime พบว่า ประชาชนหวาดกลัวภัยในเรื่องการทำร้ายร่างกายมากที่สุด รองลงมาคือ การถูกฆ่า และอันดับที่สาม คือ ภัยยาเสพติด ต่อมาเป็นผลสำรวจหัวข้อความหวาดกลัวภัยต่อทรัพย์สิน ประชาชนหวาดกลัวเรื่องการลักทรัพย์มากที่สุด รองลงมาคือชิงทรัพย์ และอันดับที่สามการวิ่งราวทรัพย์ และผลสำรวจหัวข้อความหวาดกลัวภัยอาชญากรรมสมัยใหม่ ประชาชนหวาดกลัวเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์มากที่สุด รองลงมาคือ การหลอกลวงซื้อของออนไลน์ และอันดับที่สาม การพนันออนไลน์ โดยจะเห็นได้ว่าแบบฟอร์มนี้วัดความรู้สึกและความต้องการของประชาชนได้จริงๆ ทำให้ ผบ.ตร. สามารถนำข้อมูลไปใช้ในการสั่งการตำรวจทุกโรงพัก บริหารข้อมูลเหล่านี้ตามสถานการณ์จริงได้ ทิศทางการทำงานจะชัดเจนและตรงเป้ามากขึ้น วันนี้ฟันเฟืองทุกตัวต้องขยับ ข้อมูลพีเพิลโพล จะบอก ผกก.ทุกโรงพัก ว่าพื้นที่ตนเองมีปัญหาอะไรมากที่สุด


“ในเรื่องผลสำรวจความพึงพอใจของประชาชนที่ขึ้นมาใช้บริการภายในสถานีตำรวจ เราใช้เกณฑ์ 70% โดยทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศผ่านเกณฑ์หมด แต่ผ่านเกณฑ์แบบปริ่มๆ 74-76% เหล่านี้ทำให้เราต้องพัฒนาต่อไป การสำรวจของพีเพิลโพล เป็นระบบที่จำกัด 1 หมายเลขโทรศัพท์ ต่อ 1 การให้ข้อมูล และทำได้เพียง 1 ครั้งต่อเดือน เพราะฉะนั้นจะไม่มีหน้าม้ามาให้ข้อมูล และ ผบ.ตร. ย้ำว่าขอให้กรอกข้อมูลแบบตรงไปตรงมา จะได้นำข้อมูลมาปรับปรุงการทำงานของสายตรวจ ฝ่ายสืบสวน และจราจรได้"ที่ปรึกษา (สบ 9) ระบุ

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า การจัดทำผลสำรวจยังพบว่าสิ่งที่ประชาชนทั้งประเทศมีความต้องการมากที่สุด คือ กล้องซีซีทีวี เพราะประชาชนมีความมั่นใจต่อการบันทึกภาพจากกล้อง ทำให้ ผบ.ตร. จึงได้ริเริ่มนำร่องโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 3 โซน คือ ห้วยขวาง ลุมพินี และภาษีเจริญ ส่วนในต่างหวัดจะมีภาคละ 1 โซน คือ พัทยา ภูเก็ต อุดรธานี ปากเกร็ด สมุทรปราการ เชียงใหม่ หาดใหญ่ เป็นต้น ซึ่งโครงการดังกล่าวมีการนำกล้องปัญญาประดิษฐ์ มาใช้จดจำใบหน้า ติดตามบุคคลได้ จะเห็นได้ว่าแนวคิดสมาร์ทเซฟตี้โซน ของ ผบ.ตร. จะนำร่องในเมืองเศรษฐกิจที่เป็นแลนด์มาร์กของประเทศ เพื่อรองรับการเปิดประเทศในอีก 120 วัน ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยจะมีการเปิดโครงการที่แยกราชประสงค์ ในต้นเดือนหน้า และจะคิกออฟพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ให้หวาดกลัวภัยน้อยที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น