“โตโต้” หัวหน้าการ์ดกลุ่มวีโว่ ยื่นฟ้องคดีแพ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฐานละเมิดจับกุมขายกุ้งหน้าทำเนียบ เรียกค่าเสียหาย 3 ล้าน ศาลนัดพิจารณาคดี 4 ต.ค.นี้
วันนี้ (24 มิ.ย.) นายปิยะรัตน์ จงเทพ หรือ โตโต้ หัวหน้าการ์ดคณะราษฎร หรือกลุ่ม vivo กับพวก รวม 5 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เป็นจำเลยต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เรียกค่าสินไหมทดแทนฐานละเมิดเป็นจำนวนเงิน 3,020,645 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี กรณีนำกำลังตำรวจจับม็อบขายกุ้งหน้าทำเนียบ
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 26-31 ธ.ค. 2563 จำเลยเป็นผู้บังคับบัญชาของ พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รอง ผบก.น.1 กับผู้ใต้บังคับบัญชา รวม 16 คน ได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและกระทำการอันเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมาตรา 4 มาตรา 27 มาตรา 28 มาตรา 29 เกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพของบุคคลและการละเมิดต่อชีวิตร่างกายกับการดำเนินคดีอาญาที่ฝ่าฝืนกฎหมายโดยโจทก์ยังได้อ้างมติสหประชาชาติ หรือปฏิญญายูเอ็น เรื่องสิทธิเสรีภาพ
โจทก์บรรยายฟ้องด้วยว่า ในวันเกิดเหตุดังกล่าวพวกโจทย์ในนามกลุ่ม vivo ได้เล็งเห็นว่าพี่น้องประชาชนพ่อค้าขายกุ้งที่จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดนครปฐม ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด จึงได้รับซื้อกุ้งสดมาขายรวม 3 จุด คือ หน้าสะพานชมัยมรุเชฐทำเนียบรัฐบาล, ท้องสนามหลวง, อนุสรณ์สถาน 14 ต.ค.จำนวนระหว่าง 2,000 กิโล ถึง 3,000 กิโลกรัมเศษโดยมีผู้สั่งซื้อผ่านทางอินเตอร์เน็ตเพื่อช่วยเหลือพ่อค้ากุ้ง ทั้งนี้ กลุ่ม vivo ได้จัดให้มีการเว้นระยะห่างและมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิคแล้ว แต่พวกจำเลยยังได้ละเมิดต่อโจทก์ โดยได้ใช้กำลังตำรวจควบคุมฝูงชนเข้ามาขัดขวางการขายกุ้งโดยใช้กำลังและกลั่นแกล้งไม่ให้รถน้ำแข็งมาส่ง ทำให้แช่กุ้งไม่ได้ ทำให้กุ้งเสียหาย การกระทำดังกล่าวเป็นการใช้อำนาจเพื่อกลั่นแกล้งโจทก์ โดยกล่าวหาว่าโจทก์ได้ฝ่าฝืนกฎหมายและเป็นการใช้กำลังที่ไม่ได้สัดส่วนกับความเป็นจริง การกระทำดังกล่าวทำให้โจทก์ทั้งห้าได้รับความเสียหายต่อทรัพย์สินของโจทก์ทั้งห้าคนละระหว่าง 5-9 แสนบาท, เสียหายต่อชื่อเสียงเกียรติยศและสิทธิเสรีภาพ โจทก์จึงขอฟ้องเพื่อเรียกค่าเสียหายต่อจำเลยซึ่งเป็นนิติบุคคลและอยู่ในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาของตำรวจชุดดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยอีกทั้งขอให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาด้วยข้อความขอโทษต่อโจทก์ทั้งห้าในหนังสือพิมพ์หลายฉบับอีกทั้งให้ลบประวัติอาชญากรของโจทก์ทั้งห้าด้วยศาลรับคำฟ้องไว้เพื่อนัดชี้สองสถานเป็นคดีดำที่ 1282/2564 และนัดชี้สองสถานวันที่ 4 ต.ค.นี้ เวลา 13.30 น.
