MGR Online - “กรมราชทัณฑ์” แจงยอดผู้ต้องขังติดโควิด-19 วันนี้ 229 ราย เสียชีวิต 2 ราย เริ่มทยอยฉีดวัคซีนเข็ม 2 ในบางเรือนจำแล้ว
วันนี้ (24 มิ.ย.) นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 23 มิ.ย. 64 เวลา 16.00 น.) ว่า มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 229 ราย รักษาหายวันนี้ 157 ราย และเสียชีวิต 2 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 5,375 ราย โดยสถานการณ์มีเรือนจำสีขาวที่ไม่พบการแพร่ระบาด 127 แห่ง ส่วนเรือนจำสีแดงที่พบการแพร่ระบาด 12 แห่ง และมียอดรักษาหายสะสมอยู่ที่ 30,088 ราย หรือ 84 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้ป่วยสะสมทั้งหมด
นายอายุตม์ เผยว่า ด้านสถานการณ์ของเรือนจำสีแดง ในวันนี้มีเรือนจำที่ไม่พบผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ในรอบ 1 สัปดาห์ คือ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร, เรือนจำพิเศษธนบุรี, เรือนจำจังหวัดนนทบุรี และเรือนจำจังหวัดสงขลา และมีเรือนจำทัณฑสถานที่รอปรับสถานะ 3 แห่ง ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อมากกว่า 3 สัปดาห์ คือ เรือนจำจังหวัดนราธิวาส, เรือนจำกลางเชียงใหม่ และทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง ซึ่งหากไม่พบเชื้อต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 28 วัน และควบคุมสถานการณ์การระบาดได้ดีแล้ว จะได้รับการประเมินเพื่อปรับเป็นเรือนจำสีขาวต่อไป
นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขัง กรมราชทัณฑ์ ได้รับการจัดสรรวัคซีนจากกรมควบคุมโรคเพิ่มเติม จำนวน 5,000 โดส เพื่อใช้ฉีดเป็นวัคซีนเข็มที่ 2 แก่ผู้ต้องขังเรือนจำกลางสมุทรปราการ เป็นเรือนจำที่ 2 ต่อจากเรือนจำพิเศษมีนบุรีที่ได้รับวัคซีนจนครบ 2 เข็ม ไปก่อนหน้านี้ รวมถึงการฉีดเป็นเข็มที่ 1 ที่เรือนจำจังหวัดสุโขทัย และเรือนจําอําเภอสวรรคโลก ตามด้วยเรือนจำทัณฑสถานในพื้นที่เสี่ยงอื่นๆ โดยเฉพาะในผู้ต้องขังกลุ่มเปราะบาง
“ภาพรวมการฉีดวัคซีนของกรมราชทัณฑ์ปัจจุบัน ได้รับการจัดสรรวัคซีนมาแล้วทั้งสิ้น 62,403 โดส โดยเป็นวัคซีนพระราชทานซิโนฟาร์ม 6,400 โดส จากกรมควบคุมโรค 53,578 โดส และจากจังหวัดภูเก็ต 2,425 โดส ซึ่งในส่วนของการดำเนินการฉีดวัคซีนต่อจากนี้ ยังอยู่ระหว่างประสานกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อกระจายวัคซีนไปยังเรือนจำสีขาวในเขตพื้นที่อื่นๆ จนกว่าจะครอบคลุมทั่วประเทศ ควบคู่กับแผนการฉีดวัคซีนของประชาชนทั่วไป”
นายอายุตม์ กล่าวต่อว่า ผู้เสียชีวิต 2 รายในวันนี้ รายแรกเป็นผู้ต้องขังชาย อายุ 51 ปี จากเรือนจำกลางคลองเปรม มีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ส่วนรายที่ 2 เป็นผู้ต้องขังหญิง อายุ 58 ปี จากทัณฑสถานหญิงกลาง มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โดยทั้ง 2 ราย ได้เข้ารักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งแพทย์ได้ให้การรักษาและดูแลอย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่อาการยังคงทรุดลง จนกระทั่งได้เสียชีวิตลงในที่สุด ซึ่งกรมราชทัณฑ์ ได้ประสานญาติ และดำเนินการตามกระบวนการส่งศพของผู้เสียชีวิต เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างปลอดภัย ตามวิธีการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อย